ไม่ได้มีแค่ผี : 7 สโมสรที่โดน ‘ไรโอล่า’ ปั่นประสาทจนหัวเสีย

 

หากนึกถึงเอเย่นต์ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับกวงฟุตบอลมากที่สุด ชื่อของ มิโน่ ไรโอล่า น่าจะโผล่ขึ้นเป็นคนแรกๆของแฟนบอลส่วนใหญ่อย่างแน่นอน

 

เอเย่นต์ชาวอิตาเลี่ยนไม่เคยกลัวที่จะเปิดเผยความรู้สึกหรือความคิดของตนออกมาสู่สาธารณะ และที่สำคัญ เขาเป็นคนสำคัญที่ช่วยสร้างดีลระดับโลกมากมาย

 

ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ พอล ป็อกบา ย้ายมาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวสถิติโลก, ตอนที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ย้ายไป ยูเวนตุส หรือ บาร์เซโลน่า หรือรายล่าสุดอย่าง เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ที่กำลังร้อนแรงกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็มาจากฝีมือเขาทั้งสิ้น

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันไรโอล่าก็ได้สร้างศัตรูมากมาย และเขามักจะออกมาโจมตีสโมสรดังๆมากมายทั่วยุโรปแบบไม่ไว้หน้า หากปฏิบัติต่อนักเตะของตนไม่ดี หรือ เห็นช่องทางทำเงินมากกว่าเดิม

 

และนี่คือ 7 สโมสรดังที่โดน ‘ไรโอล่า’ ปั่นประสาทจนหัวเสียมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

 

เกือบไม่ต่อสัญญา | เอซี มิลาน 

 

 

หลังจากที่ จิอันลุยจิ ดอนนารุมม่า โผล่ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ของเอซี มิลาน ได้ตั้งแต่อายุ 16 ปี ไรโอล่า ก็ไม่รอช้าพยายามเร้าให้เด็กของตนย้ายหนีถิ่น ซาน ซีโร่ ทันที

 

นายทวารดางรุ่งก็สร้างความมึนงงให้ต้นสังกัดด้วยการปฏิเสธสัญญาใหม่ในปี 2017 ซึ่งทำให้ รอสโซเนรี่ มองว่า เอเย่นต์ร่างท้วมเป็นต้นตอที่ทำให้ ดอนนารุมม่า อยากย้ายไปที่อื่น

 

“ท้ายที่สุด ตัวเอเย่นต์นั่นแหละที่เป็นคนเกลี้ยกล่อม” มาร์โก ฟาสโซเน่ ผู้จัดการทั่วไปของมิลานกับ กล่าว กาเซ็ตโต้ เดลโล่ สปอร์ต

 

“ผมมั่นใจว่า จีโจ้ ไม่ได้เลือกในการตัดสินใจครั้งนี้ มันเป็นการตัดสินใจของ ไรโอล่า ชัดๆ เขามีอิทธิผลต่อกัน และเขามีอำนาจชักจูง จีโจ้ อย่างมาก ลองคิดดูซักหน่อยว่า เด็กวัย 18 ปี และเอเย่นต์ชื่อดังที่มีบุคลิกใหญ่โต จุดจบมันจะเป็นอย่างไร?”

 

ด้วยแรงกดดันจากแฟนบอลปีศาจแดงดำที่โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก ส่งผลให้ ดอนนารุมม่า เปลี่ยนใจและเซ็นสัญญาใหม่กับทีมอีก 4 ปี ต่อจากนั้น

 

 

อยากด่าเฉยๆ | เรอัล มาดริด

 

 

ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ไม่ได้ร่วมงานกับ ไรโอล่า มากมาย แต่น่าแปลกใจไม่น้อยที่ เอเย่นต์ชาวอิตาเลี่ยน กลับวิจารณ์ทีมจากสเปนแบบเปิดเผยหลายต่อหลายครั้ง

 

“ผมจะโต้เถียงกับ เรอัล มาดริด ถ้าจำเป็นจริงๆ” ไรโอล่า กล่าวกับ Voetbal magazine ในปีนี้ “ผมบอก ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ครั้งนึงว่าใช้นักเตะราวกับว่าเป็นถุงมือ ถ้าเขาไม่ชอบ ก็หาคู่ใหม่มาใส่แทน เขาไม่ชอบเอาซะเลย แต่ผมก็บอกเขาไปแล้ว”

 

“ถ้า เรอัล มาดริด ไม่อยากได้ ป็อกบา นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา” ไรโอล่าพูดถึง โลส บลังโกส ผ่าน เลอกิ๊ป สื่อแดนน้ำหอมในปี 2015 “พวกเขาเป็นสโมสรที่ซื้อนักเตะเหมือนกับผ้าเช็ดหน้า จากนั้นก็ทิ้งขว้างลงถังขยะ”

 

“พวกเขาเป็นทีมที่ดูนักเตะฉายแววเด่นในบอลโลกแค่ 6 นัด ก็ซื้อมาร่วมทีมแล้ว ป็อกบา ไม่ต้องการสโมสรแบบนั้น เราต้องการให้  ป็อกบา ย้ายไปสโมสรที่เชื่อมั่นในศักยภาพของเขา”

 

ต่อมา กองกลางชาวฝรั่งเศส ก็ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เดี๋ยวเราค่อยมาว่าเรื่องนี้ต่อกัน…

 

 

ตำนานก็ไม่เว้น | บาร์เซโลน่า

 

 

ไรโอล่า เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ บาร์เซโลน่า คว้า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาร่วมทีมได้ในปี 2009 แต่ทว่ากองหน้าชาวสวีดิช ก็ตกเป็นตัวเลือกสำรองของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในเวลาต่อมา

 

นั่นทำให้ เอเย่นต์ตัวแสบไม่พอใจอย่างมากที่ทีมปฏิบัติกับลูกค้าของตนแบบนี้ และแสดงอารมณ์โกรธเกรี้ยวไปถึงตำนานของบาร์ซ่าอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ อีกต่างหาก

 

“โยฮัน ครัฟฟ์ ไปลงนรกซะ เขาไม่ใช่คนสำคัญอะไรหรอก” ไรโอล่า กล่าวกับ Expressen หนังสือพิมพ์ในแดนไวกิ้ง เมื่อปี 2010

 

“เขากลายเป็นคนแก่ขึ้น และไม่มีความกล้าที่จะเดินหน้าคุมทีมต่อ ซึ่งเขาก็ไม่รู้วิธีในการคุมทีมสมัยใหม่แน่ๆ ทำไม ครัฟฟ์ ไม่บอกว่า ซลาตัน ไม่เหมาะกับการเล่นในลีกสเปน ก่อนที่บาร์เซโลน่าจะเซ็นเขามาร่วมทีมล่ะ?”

 

“ผมคิดว่า ครัฟฟ์ ควรจะไปโรงพยาบาลบำบัดจิตกับ กวาร์ดิโอล่า พวกเขาจะได้นั่งอยู่เงียบๆและเล่นไพ่ด้วยกัน พวกเขาจะทำให้บาร์เซโลน่ายินดีอย่างมากเลย”

 

  ทางด้านทีมอาซูลกราน่า ได้ตอบโต้คำพูดดังกล่าวพร้อมกับออกแถลงการณ์ว่า พวกเขาบล็อกการจ่ายเงินให้กับ ไรโอล่า ทั้งหมด และพิจารณาจะดำเนินดคีเอเย่นต์ฝีปากกล้ารายนี้ด้วย

 

 

มหากาพย์ ป็อกบา | แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

 

 

ตัดมาที่ สโมสรที่ประวัติไม้เบื่อไม้เมากับ ไรโอล่า มากที่สุด อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 

 

เอเย่นต์ชาวอิตาเลี่ยนมีส่วนอย่างมากที่ทำให้ พอล ป็อกบา ย้ายออกจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ครั้งแรกในปี 2012 ซึ่งเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เคยเรียกไรโอล่าสั้นๆแต่ได้ใจความชัดเจนว่า ‘ไอ้ถุงขี้’

 

จากนั้นในปี 2016 ทั้ง ไรโอล่า และปีศาจแดง กลับมาจูบปากกันอีกครั้ง เมื่อ กองกลางชาวฝรั่งเศสกลับมาค้าแข้งในโรงละครแห่งความฝันอีกครั้ง ร่วมกับ เฮนริค มคิตาร์ยาน และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช นักเตะในสังกัดทีตนดูแล

 

อย่างไรก็ตาม ไรโอล่า ได้ออกมาโจมตีสโมสรอีกครั้ง รวมถึงวิจารณ์การทำงานของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ราวกับต้องการเร้าให้ แข้งวัย 26 ปี ย้ายออกจากยูไนเต็ด เป็นครั้งที่ 2

 

“อิตาลี เป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของเขา” ไรโอล่ากล่าวกับ สกาย สปอร์ต “คำถามก็คือเขามีความสุขหรือเปล่า คุณคงไม่มีความสุขหรอก ถ้าไม่สามารถคว้าแชมป์หรือไปแชมเปี้ยนส์ลีกได้ นั่นเป็นเป้าหมายที่ผู้เล่นระดับสูงตั้งไว้”

 

และล่าสุดเจ้าตัวออกมาพูดชัดเจนว่าหมดเวลาของ ป็อกบา ในแมนเชสเตอร์แล้ว โดยกล่าวกับ ตุ๊ตโต้สปอร์ต สื่อในอิตาลีว่า “ผมสามารถบอกได้ว่าช่วงเวลาของ ปอล ป็อกบา กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นจบลงแล้ว”

 

ไม่แปลกที่ คนที่เกี่ยวกับข้องกับแมนยูไนเต็ด ทั้งแฟนบอลหรือ อดีตนักเตะจะสาปส่งเขา และหวังว่าจะไม่ได้กลับมาร่วมงานกับทีมที่พวกเขารักอีกต่อไปในอนาคต

  

 

อย่าทำโอ้ | ลิเวอร์พูล

 

 

อิบราฮิโมวิช ไม่กองหน้าตัวป่วนคนเดียวที่ทำงานกับ ไรโอล่า แต่ มาริโอ บาโลเตลลี่ คือหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของเขาเช่นกัน

 

เกรียนโอ้ ย้ายไป ลิเวอร์พูล ในปี 2014 ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์จากเอซี มิลาน เพื่อเป็นตัวแทนของ หลุยส์ ซัวเรซ แต่เขากลับพบช่วงเวลาไม่ต่างจากฝันร้ายเท่าไหร่ในแอนฟิลด์

 

หัวหอกชาวอิตาเลี่ยน ยิงแค่ 4 ประตู จากการลงเล่น 28 นัดให้ หงส์แดง จากนั้นจะกลับมิลานด้วยสัญญายืมตัว และถูกจับไปเล่นกับลิเวอร์พูลชุดเล็ก ก่อนจะถูกปล่อยให้กับ นีซ ในปี 2016

 

“ในวันสุดท้าย ผู้อำนวยการลิเวอร์พูล ยอมรับว่า คล็อปป์ ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่” ไรโอล่า เผยกับ กาเซ็ตโต เดลโล่ สปอร์ต

 

“ผมไม่ตัดสินเขาในฐานะโค้ชหรอก แม้ว่าสำหรับผมแล้ว เขาจะไม่ใช่เจ้าแทคติกก็ตาม แต่ผมไม่คิดว่าเขารู้ว่าเรากำลังพูดถึงความเป็นคนอยู่ มาริโอ้ เป็นตัวอย่างที่ดี เขาไม่เคยบ่นเลย แม้จะซ้อมคนเดียว”

 

“คงไม่พอหรอกที่บอกว่า คล็อปป์ ไม่ยุติธรรม แต่เขาเป็นที่แย่มากต่างหาก”

 

อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวเยอรมัน ก็ออกมาบอกว่า เขาไม่เห็นด้วยกับ แนวคิดของ ไรโอล่า และ ยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดแต่อย่างใด

 

“เราไม่ได้แยกซ้อมเขา ผมไม่สนใจเรื่องอะไรแบบนี้หรอก มันเป็นโลกเสรี เขาอยากจะพูดอะไรที่ต้องการก็ได้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว”

 

 

ผู้ปั่นดาวรุ่ง | อาแจ็กซ์ 

 

 

ช่วงต้นยุค 2000 ไรโอล่า ได้ก้าวเข้ามาในวงเอเย่นต์ พร้อมกับดึงดาวรุ่งของ อาแจ็กซ์ ไปเป็นนักเตะในความดูแลของตนมากมาย ทั้ง แม็กซ์เวลล์, มิโด้, ซเดเน็ค กรีเกร่า และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

 

จากนั้น เอเย่นต์ตัวดีก็เริ่มปลุกปั้นนักเตะของตน และเป็นคนทำให้ ซลาตัน ได้ย้ายไปร่วมทีม ยูเวนตุส ในปี 2004

 

ความรู้สึกแย่ๆของ อาแจ็กซ์ ที่มีต่อ ไรโอล่า เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณในอีก 2 ปีต่อมา เมื่อมีการบันทึกเสียงโทรศัพท์ระหว่าง ลูเซียโน่ มอจจี้ ผู้อำนวยการสโมสรม้าลาย และ เอเย่นต์ชาวอิตาเลียน สนทนากันเผยแพร่ออกมาสู่สาธารณะ

 

“คุณ และ อิบรา ต้องสร้างปัญหาต่อไป อย่าส่งเขาไปฝึกซ้อม” มอจจี้ กล่าวในบันทึกดังกล่าว

 

“วันพรุ่งนี้ ผมจะให้นักเตะอยู่ในบ้านทั้งวัน เขาจะไม่โผล่ไปซ้อมแน่” ไรโอล่าตอบกลับ “จากนั้นผมจะนัดกับ ผู้อำนวยการอาแจ็กซ์ในตอนเที่ยง แต่ผมจะมา 2 คน…”

 

นอกจากนี้ สโมสรจากอัมสเตอร์ดัมยังกล่าวหาว่า ไรโอล่า เป็นตัวการที่โน้มน้าวให้ แม็กซ์เวลล์ และ กรีเกร่า ไม่ต่อสัญญาใหม่กับสโมสร เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ย้ายไปอิตาลีแบบไม่มีค่าตัว

 

อาแจ็กซ์ ปฏิเสธที่จะร่วมธุรกิจกับ ไรโอล่า เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่ง มาร์ติน โยล ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมในปี 2009

 

 

ปะทะประธาน | นาโปลี

 

 

ครั้งหนึ่ง ไรโอล่า พยายามทำให้ มาเร็ค ฮัมซิก บอกลา นาโปลี เพือย้ายไปร่วมทีมที่ใหญ่กว่าในยุโรป เมื่อปี 2012 แต่การย้ายครั้งนั้นถูกขัดขวางโดย ออเรลิโอ เด ลอเรนติส ประธานสโมสร

 

“เขา (ไรโอล่า) สร้างปัญหาจากเบื้องหลังมานานหลายปี เพื่อพยายามพา ฮัมซิก ออกจากทีมไป” ประธานอัซซูร่ากล่าว

 

เอเย่นต์ร่างท้วมไม่ได้ตอบโต้กลับไปแต่อย่างใด เพียงแต่เหน็บแนมอย่างเจ็บแสบด้วยการเปรียบเทียบ เด ลอเรนติส ว่าไม่ต่างจากผู้นำลัทธิฟาซิสต์เท่าไหร่

 

“เด ลอเรนติส ข่มขู่ นักเตะดาวเด่นของเขา” ไรโอล่ากล่าวกับ Raisport “วิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำของเขาคล้ายคลึงกับ พวกเผด็จการ เขามีความรู้สึกนึกคิดแบบเดียวกับช่วงที่ มุสโสลินี เรืองอำนาจอยู่”

 

“ฮัมซิก เป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่ช้าหรือเร็ว ถ้าเขาต้องการจะเป็นผู้เล่นระดับท็อป เขาต้องย้ายไปยังทีมที่เล่นในรายการแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นประจำ”

 

อย่างไรก็ตาม ไรโอล่า ก็ไม่สามารถพานักเตะของตนลาเมืองเมเปิ้ลส์ได้ และกองกลางชาวสโลวาเกียก็ค้าแข้งในถิ่นซาน เปาโล อีก 7 ปี ก่อนจะย้ายไป ต้าเหลียน อี้ฟาง สโมสรจากจีนในปี 2019