โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นับเป็นสโมสรชั้นนำที่มักให้โอกาสดาวรุ่งได้ขึ้นมาโชว์ผลงานตัวเองเสมอ นั่นทำให้บรรดานักเตะวัยหนุ่มมักจะเลือกมาชุบ ก่อนจะออกไปโลดแล่นกับทีมอื่น แน่นอนว่าการต้องเสียนักเตะตัวหลักไปแทบทุกปีไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประคองความสม่ำเสมอของทีมต่อไปได้
อย่างไรก็ตามทัพเสือเหลือง แทบจะไม่เคยมีปัญหากับการปล่อยแข้งตัวหลักออกไปเลย เพราะพวกเขามักจะหาตัวตายตัวแทนมาได้อย่างไร้ที่ติเสมอ วันนี้ UFA ARENA จะพาไปดูดีลทดแทนสุดปังของ ดอร์ทมุนด์
เสีย: ชินจิ คากาวะ | ได้: มาร์โก้ รอยส์ | 2012/13
หลังจากที่ ชินจิ คากาวะ เพลย์เมคเกอร์คนสำคัญในทีมชุดแชมป์บุนเดสลีกาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ในซีซั่น 2011/12 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เข้ามาติดต่อดึงเขาไปในช่วงซัมเมอร์ทันที แต่ทัพเสือเหลืองก็แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วด้วยการไปดึงเอาเพลย์เมคเกอร์คนใหม่อย่าง มาร์โก้ รอยส์ ที่เคยเป็นเด็กในอคาเดมี่ของพวกเขา ก่อนจะไปเติบโตกับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค
ซึ่งในฤดูกาลแรกที่เจ้าตัวมาถึงก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยผลงานยิง 19 ประตู 16 แอสซิสต์จาก 49 นัดรวมทุกรายการ เรียกว่าเป็นการเข้ามาทดแทนได้อย่างไร้รอยต่อ แม้ในปีนั้นพวกเขาจะยังไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ แต่จากตอนนั้นจนถึงปัจจุบัน รอยส์เป็นคนเดียวที่อยู่โยงกับทีมไม่ว่าจะมีข้อเสนอดีแค่ไหนเข้ามาก็ตาม ถือว่าเป็นการซื้อนักเตะฝีเท้าดี พ่วงด้วยความภักดีที่มีเกินใคร
เสีย: มาริโอ เกิทเซ่ | ได้: เฮนริค มคิตาร์ยาน | 2013/14
อีกหนึ่งนักเตะในทีมชุดแชมป์บุนเดสลีกาปี 2011/12 เช่นเดียวกับ คากาวะ เพียงแต่ เกิทเซ่ยังอยู่กับทีมไปอีก 1 ปี แต่จนแล้วจนรอดก็ย้ายออกไปในซัมเมอร์ 2013/14 ด้วยค่าตัว 37 ล้านยูโร ซึ่งถือเป็นความเสียหายอย่างหนักเช่นเดียวกับตอนเสียเพลย์เมคเกอร์ชาวญี่ปุ่นไปก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ได้แก้ปัญหาด้วยการไปดึงแข้งชาว อาร์เมเนียมาจาก ชัคตาร์โดเนส์ก ด้วยราคาเพียง 27.5 ล้านยูโร และสามารถทำให้บรรดาแฟนบอลลืมขวัญใจคนเก่าไปได้อย่างรวดเร็วด้วยผลงานยิง 13 ประตู 10 แอสซิสต์จาก 46 นัดรวมทุกรายการ จนถูกยกให้เป็นจอมแอสซิสต์ ในขณะที่ เกิทเซ่ที่ไปอยู่กับ บาเยิร์น ไปได้ไม่สวยกับทีมเท่าไรนัก
เสีย: เฮนริค มคิตาร์ยาน | ได้: อุสมาน เดมเบเล่ | 2016/17
หลังจากอยู่กับทีมมา 4 ปี ดาวเตะชาวอาร์เมเนีย ไม่สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีการ่วมกับทีมได้ ก่อนที่จะถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวไปอยู่กับทีมในซัมเมอร์ปี 2017 ด้วยค่าตัว 42 ล้านยูโร ก่อนจะไปดึงตัว อุสมาน เดมเบเล่ ดาวรุ่งฟอร์มแรงจากแรนส์มาอยู่กับทีมด้วยราคา 35 ล้านยูโร แม้จะเป็นการเสียตัวหลักไปแต่ดีลของ มคิตาร์ยาน ก็ถือว่าคุ้มค่าทั้งเงินและผลงานที่ฝากไว้
ในขณะที่แข้งคนใหม่อย่างเดมเบเล่ ก็แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยฤดูกาลแรกของเขาก็กดไป 10 ประตู 21 แอสซิสต์จาก 49 นัดรวมทุกรายการ เรียกว่ากลายเป็นตัวหลักที่ได้ลงสนามต่อเนื่องโดยที่ไม่มีอาการบาดเจ็บเลย เรียกว่าเป็นดีลที่ดึงเข้ามาทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เสีย: อุสมาน เดมเบเล่ | ได้: จาดอน ซานโช่ | 2017/18
ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของ ดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสทำให้เสือเหลืองรั้งตัวเขาไว้ได้ไม่นานนัก หลังผ่านไปแค่ปีเดียวซัมเมอร์ถัดมา บาร์เซโลน่า ก็เป็นทีมที่หอบเงินกว่า 140 ล้านยูโรมาสู่ขอเขาไปสู่ทีมเพื่อแทนที่ เนย์มาร์ที่ย้ายออกไป ทำให้ เดมเบเล่กลายเป็นดีลที่คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม จากมูลค่าที่จ่ายไปแค่ 35 ล้านยูโร แค่ปีเดียวราคาก็พุ่งไปแตะหลักร้อยล้าน
แต่แน่นอนว่าการเสียเจ้าตัวไปก็ถือเป็นความเสียหายในเกมรุกของทีมไม่น้อย ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ฝ่ายบริหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการไปดึง จาดอน ซานโช่ มาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ในเวลานั้นกลายเป็นดาวรุ่งส่วนเกินทำให้ราคาอยู่ที่แค่ 8 ล้านยูโร แม้ในขวบปีแรกจะได้ลงไปแค่ 12 นัดยิง 1 ประตู 4 แอสซิสต์เท่านั้น เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ก้าวมาเป็นสตาร์จนปัจจุบันถูกขายต่อไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยราคาสูงถึง 85 ล้านยูโร
เสีย: มัทธีอัส กินเทอร์ | ได้: มานูเอล อคานญี่ | 2017/18
ดาวเตะทีมชาติเยอรมันเล่นได้ทั้งกองกลางตัวรับ และ กองหลังตัวกลาง โดยทัพเสือเหลืองดึงตัวมาปลุกปั้นในปี 2014 จนกระทั่งได้ติดทีมชาติไปในที่สุด ซึ่งหลังจากอยู่กับทีมมา 4 ปีก็เป็นอันต้องแยกย้ายไปกลัดบัค แม้ว่าจะไม่ใช่การสูญเสียที่มีผลกระทบมากนัก แต่ก็ถือว่าเสียนักเตะสารพัดประโยชน์ในเกมรับไป
ในขณะที่ตัวตายตัวแทนที่ดอร์ทมุนด์ไปหาดึงมาแทนคือกองหลังวัยหนุ่มอย่าง อคานญี่ ที่มีราคา 21.5 ล้านยูโร แต่ก็สามารถเข้ามาเป็นตัวหลักของทีมแบบที่ขาดไม่ได้เลยทันที แม้จะมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปถึง 3 คนก็ตาม จนในปัจจุบันแข้งวัย 26 ปีกำลังตกเป็นข่าวกับหลายสโมสรทั่วยุโรป
เสีย: โซคราติส ปาปาสธาโทปูลอส | ได้: อับดู ดิอัลโล | 2018/19
ปราการหลังชาวกรีซย้ายมาจากเบรเมน มาด้วยค่าตัวเพียง 9 ล้านยูโรเท่านั้นในปี 2013 และได้เป็นตัวหลักของทีมอยู่ช่วงเวลานึงโดยลงสนามไปทั้งสิ้น 198 นัดจากทุกรายการ ก่อนที่อีก 6 ปีให้หลัง อาร์เซน่อลจะมาดึงตัวเขาไปอยู่กับทีมด้วยราคา 16 ล้านยูโร เรียกว่าเป็นการฟันกำไรเปาะที่หนึ่ง
ต่อจากนั้นพวกเขาได้ไปคว้าตัว อับดู ดิอัลโล มาจาก ไมนซ์ ด้วยราคา 28 ล้านยูโร แม้ในเรื่องของผลงานเจ้าตัวจะหวือหวามากแต่ก็ยืนระยะเป็นตัวทดแทนได้ด้วยการลงสนามไปทั้งหมด 38 นัด แต่ที่สำคัญคือหลังจากอยู่ไปได้แค่ปีเดียว เปแอสเช ก็เข้ามาสู่ขอดาวเตะชาวฝรั่งเศสไปด้วยราคา 32 ล้าน ยูโร ทำให้สำหรับตัวตายตัวแทนคนนี้ไม่ใช่แค่ยืนระยะแทนได้ แต่ยังทำกำไรให้ได้ถึง 2 ต่ออีกด้วย
เสีย: คริสเตียน พูลิซิช | ได้: ธอร์แกน อาซาร์/จูเลี่ยน แบรนท์ | 2019/20
ดาวเตะชาวอเมริกันเป็นเด็กปั้นจากอคาเดมี่ของเสือเหลืองเองที่ถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2016 ก่อนที่จะมาแจ้งเกิดเต็มตัวในฤดูกาล 2017/18 จนทาง เชลซี อดใจไม่ไหวดำเนินการหอบเงิน 64 ล้านยูโร ไปสู่ขอทันทีในตลาดเดือนมกราคม 2018/19 ก่อนจะปล่อยให้เสือเหลืองใช้งานไปก่อนจนจบซีซั่นทำให้พวกเขายังพอมีเวลาเหลือในการหาตัวแทน
และฝ่ายบริหารก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยจำนวนเงินที่สิงห์บลูจ่ายมา พวกเขานำไปซื้อทั้ง ธอร์แกน อาซาร์ จากกลัดบัคในราคา 25 ล้านยูโร และ จูเลี่ยน แบรนท์ จากเลเวอร์คูเซ่นอีก 25 ล้านยูโร แถมการมาของพวกเขาก็ถือว่าเป็นการเข้ามาเพื่อเป็นตัวหลักของทีมมาจนถึงปัจจุบัน แถมยังเหลือเงินไว้ใช้สอยจากเงินก้อนนั้นอีก 10 ล้านยูโรด้วยซ้ำ
เสีย: ปาโก้ อัลกาแซต | ได้: เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ | 2019/20
กองหน้าชาวสเปนิชถูกดึงเข้ามาสู่ทีมแบบยืมตัวก่อนในปี 2018/19 เพื่อทดแทนการขาดหายไปของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ที่ออกไปอยู่กับอาร์เซน่อล ก่อนที่จะทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในซีซั่นแรกที่กดไป 19 ประตู จาก 32 นัดรวมทุกรายการ ทำให้ทีมตัดสินใจซื้อขาดด้วยราคา 21 ล้านยูโร
อย่างไรก็ตามหลังจากซื้อขาดมา เจ้าตัวก็อยู่กับทีมได้แค่ครึ่งฤดูกาลเท่านั้น ก็โดนบียาร์เรอัล มาขอซื้อต่อไปด้วยราคา 23 ล้านยูโร ซึ่งทางเสือเหลืองก็ยินดีปล่อยไป เพราะพวกเขาได้ตัวแทนอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์มาด้วยราคาแค่ 20 ล้านยูโร พร้อมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งในปัจจุบันดาวยิงชาวนอร์เวย์ ก็ได้ย้ายออกไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้เป็นที่เรียบร้อย ส่วน ดอร์ทมุนด์ ก็ได้ตัว คาริม อเดเยมี่ ดาวรุ่งจาก ซัลบวร์กมาเป็นตัวแทนแล้วเช่นกัน