ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเกมรอบ 16 ทีม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งก็ได้ผู้ผ่านเข้ารอบต่อไปกันมาครบถ้วน โดยผลงานของแต่ละทีมก็เรียกว่าไม่เป็นสองรองกันเลย แน่นอนว่าแต่ละทีมก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกัน และมีนักเตะที่พวกเขาไม่อยากเจอเป็นพิเศษ
วันนี้ UFAARENA จะพาไปดูของแสลงของบรรดา 8 ทีมสุดท้ายเวทียุโรป ว่ามีใครกันบ้างที่แต่ละทีมไม่อยากพบเจอ
ตัวอันตราย : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (7 ประตู)
ยอดทีมจากโปรตุเกส ขึ้นชื่อเรื่องการปั้นนักเตะฝีเท้าจัดจ้านขึ้นมาประดับวงการลูกหนังในทุกๆตำแหน่ง และต้องบอกว่า ‘เหยี่ยวลิสบอน’ ก็ถือเป็นขาประจำของเวทียุโรปในฐานะตัวแทนของทีมแดน ฝอยทอง ส่วนนักเตะที่พวกเขาไม่อยากแม้แต่จะเจอนั่นคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่เคยพบกัน 6 ครั้ง ถลุงประตูไปถึง 7 ประตู โดยฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวก็เพิ่งกดแฮตทริคใส่ไปในเกมรอบ แบ่งกลุ่ม เมื่อฤดูกาลที่แล้วนี้เอง อย่างไรก็ตามซีซั่นนี้พวกเขาอาจไม่ต้องกลัวแล้ว เนื่องจากดาวยิงชาวโปแลนด์ที่ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ซึ่งไม่ได้อยู่ในรายการ UCL แล้ว
ตัวอันตราย : คาริม เบนเซม่า (5 ประตู)
ทัพสิงห์บลูภายใต้การทำทีมของ เกรแฮม พอตเตอร์ แม้จะมีฟอร์มการเล่นที่ไม่ดีนัก แต่ก็นับว่าดีขึ้นเรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมาจากการพลิกเอาชนะ ดอร์ทมุนด์ ในเกมเลกสองที่พวกเขาฝ่าด่านผ่านเข้ารอบ 8 ทีมมาได้ โดยนักเตะตัวฉกาจสำหรับยอดทีมจากกรุงลอนดอนคือหอกจาก เรอัล มาดริด อย่าง คาริม เบนเซม่า โดยจาก 4 เกมที่พบกันเจ้าตัวกดประตูไปถึง 5 ประตู แถมในฤดูกาลนี้ พวกเขายังคงอยู่ในรายการนี้ด้วย
ตัวอันตราย : คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (9 ประตู)
ยอดทีมเมืองเบียร์ ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องแม้เส้นทางพวกเขาต้องมาเจอกับ ทีมแกร่งอย่าง เปแอสเช แต่ก็สามารถเอาชนะมาได้แบบไม่ยากเย็นด้วยสกอร์รวม 3-0 และถือเป็นตัวเต็งของรายนี้ในฤดูกาลปัจจุบัน ซึ่งอีกหนึ่งปัจจัยนอกเหนือจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมแล้ว นักเตะที่เป็นอันตรายของทีมอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ย้ายออกไปเล่นในลีก ซาอุดิอาระเบีย กับ อัล-นาซเซอร์ เป็นที่เรียบร้อย โดยเจ้าตัวถลุงใส่ไปคนเดียวถึง 9 ประตู ทั้งที่มียอดนายทวารอย่าง มานูเอล นอยเออร์ เฝ้าเสาอยู่ก็ตาม
ตัวอันตราย : อังเดร เชฟเชนโก้ , เคลาดิโอ ปิซาโร่ (4 ประตู)
นับว่าเป็นการเข้ารอบ 8 ทีมครั้งแรกของทัพงูใหญ่ในรอบ 12 ปี หลังจากเอาชนะ ปอร์โต้ มาได้ด้วยสกอร์รวม 1-0 แม้ว่าฟอร์มการเล่นปัจจุบันของพวกเขาจะไม่ได้เทียบเท่ากับปีที่สามารถคว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ มาครองได้ ซึ่งด้วยความที่หายหน้าหายตาไปนานจากรายการนี้ ประกอบกับเกมรับที่ทำได้ดี ทำให้ตัวอันตรายของพวกเขาเลิกเล่นกันไปหมดแล้วทั้ง อังเดร เชฟเชนโก้ และ เคลาดิโอ ปิซาโร่ ที่กดไปคนละ 4 ตุง ส่วนนักเตะที่ยังค้าแข้งอยู่ยังไม่มีตัวอันตรายสำหรับพวกเขา
ตัวอันตราย : ลิโอเนล เมสซี่ (7 ประตู)
หลังฟอร์มถล่ม ไลป์ซิก ไปด้วยสกอร์ 7-0 สกอร์รวม 8-1 ทำให้ เรือใบสีฟ้าขึ้นแท่นเป็นตัวเต็งในรายการนี้ทันที ซึ่งมันก็เป็นเป้าหมายที่พวกเขาหมายมั่นปั้นมือมาตลอดอยู่แล้วด้วย ยิ่งในตอนนี้นักเตะที่พวกเขาไม่อยากเจอที่สุดอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ที่ถลุงประตูยอดทีมจากเมือง แมนเชสเตอร์ ไปถึง 7 ประตู มีอันตกรอบไปพร้อมกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปแล้วด้วย แมนฯซิตี้ ก็แทบไม่มีอะไรต้องกลัวด้วยฟอร์มการเล่นในปัจจุบัน
ตัวอันตราย : ลิโอเนล เมสซี่ (8 ประตู)
หนึ่งในทีมที่หายหน้าหายตาไปจากรายการ แชมเปี้ยนส์ลีก มาหลายปี และสามารถกลับมาได้ในฐานะแชมป์กัลโช่ เซเรียอา ฤดูกาล 2021/22 โดยพวกเขาสามารถฝ่าด่านทีมดังจากอังกฤษอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส มาได้ด้วยสกอร์รวม 1-0 และแม้จะห่างหายไปนาน แต่ตัวอันตรายที่กดใส่พวกเขาไปถึง 8 ประตูก็ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการลูกหนังอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ โชคดีหน่อยที่ต้นสังกัดของเจ้าตัวโดน บาเยิร์น มิวนิค เขี่ยตกรอบไปแล้ว
ตัวอันตราย : เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ , มาริโอ โกเมซ (3 ประตู)
อีกทีมจากอิตาลีที่หายหน้าไปจากรายการนี้ไปนานเช่นเดียวกัน และต้องบอกเลยว่าในฤดูกาลนี้พวกเขาฟอร์มแรงมากจริงๆทั้งในลีกและในรายการยุโรป แต่อันตรายของพวกเขามีทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ โดยมี มาริโอ โกเมซ ที่เคยเจอกันแค่ 2 นัดแต่หนึ่งในสองนั้นเจ้าตัวกดแฮตทริคใส่ไปได้สมัยค้าแข้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ปัจจุบันก็แขวนสตั๊ดไปเป็นที่เรียบร้อย ส่วนอีกรายยังคงค้าแข้งอยู่แถมเป็นดาวโรจน์พุ่งแรงด้วยอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่กดไป 3 ประตูเช่นกันในสมัยอยู่กับ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก
ตัวอันตราย : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (6 ประตู)
ยอดทีมจากสเปน ขาประจำรายการยุโรป มีโอกาสได้เจอกับยอดดาวยิงมามากมาย แต่หนึ่งเดียวที่ถลุงประตูใส่พวกเขาได้มากที่สุดคือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ซึ่ง 4 จาก 6 ประตูที่ยิงได้ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ภายในเกมเดียวเมื่อฤดูกาล 2012/13 ที่ราชันชุดขาวโดนกดไป 4-1 แต่ในฤดูกาลปัจจุบันต้องบอกว่าหายห่วงเนื่องจาก หอกชาวโปแลนด์ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า และไม่ได้อยู่ในการแข่งขันยุโรปครั้งนี้แล้ว จะไปทำให้หนักใจก็ตอนที่เจอกันในลีก