ใครเห็นเป็นงง : ย้อนรำลึกเมื่อฟูแล่มเปิดตัวรูปปั้น ไมเคิ่ล แจ็คสัน

“ถ้าแฟนบอลงี่เง่าคนไหนไม่เข้าใจและยินดีกับของขวัญที่ชายคนนี้มอบให้โลก พวกเขาก็ไปตายได้เลย”

นี่คือคำพูดของ โมฮาเหม็ด อัล-ฟาเยด อดีตประธานสโมสรฟูแล่ม เคยกล่าวไว้ในเกมพรีเมียร์ลีกก่อนพบ แบล็คพูล เมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 2011 หลังเปิดตัวรูปปั้นใหม่ ซึ่งไม่ใช่แบบเดียวกับตำนานของทีม ‘เจ้าสัว’ อย่าง จอห์นนี่ เฮย์นส์ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ถนนสตีเวนิจทางผ่านเข้าสนาม คราเวน คอร์เทจ

สิ่งที่ทำให้หลายคนตกตะลึงก็คือ รูปปั้นนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือมีความสำคัญกับวงการฟุตบอลเลย เพราะนี่คือรูปปั้นของ ไมเคิ่ล แจ็คสัน ป็อปสตาร์ระดับโลกผู้ล่วงลับชาวอเมริกัน

แต่เพราะเหตุใดกัน อดีตประธานฟูแล่ม ถึงนำรูปศิลปินที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับทีมดังในลอนดอนมาตั้งหน้ารังเหย้าของพวกเขากัน…

 

แฟนเจ้าสัวร้องยี้

รูปปั้นที่มีโครงสร้างจากปูนปลาสเตอร์และเรซินสูง 7 ฟุต 6 นิ้ว ของนักร้องที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาเพลงป๊อป” ซึ่งสวมเสื้อแจ็คเก็ตสีเงิน ถุงเท้าและกางเกงขายาวสีดำพร้อมถุงมือเดี่ยวอันเป็นสัญลักษณ์ของเขา และ อยู่บนฐานที่ประดับด้วยเนื้อเพลงอันโด่งดัง

สื่อมวลชนรวมตัวกันทำข่าวด้วยความอยากรู้อยากเห็น และเป็นสักขีพยานในการเปิดตัว ก่อนการแถลงข่าวหลังการแข่งขัน เอียน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการทีมแบล็คพูล ได้แวะไปดูรูปปั้นนี้ด้วย ขณะที่ มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือของฟูแล่มและลูกทีมของเขาไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้นัก ณ เวลานั้น

แน่นอนว่าเสียงตอบรับที่แสดงออกมาจากแฟนบอลย่อมไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ อัล-ฟาเยด ก็ไม่ทนกับมัน พร้อมไล่แฟนบอลที่ไม่เห็นด้วยไปลงนรกเสีย และไม่ใช่แค่นั้น เมื่อพูดเสริมไปว่าพวกคนเหล่านั้นจะไม่ได้รับการต้อนรับใน ฟูแล่ม ด้วย

“ผมไม่ต้องการให้พวกเขามาเป็นแฟนบอลหรอก ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจ และไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ผมเชื่อ พวกเขาย้ายไปเชียร์ เชลซี ก็ได้” นักธุรกิจชาวอียิปต์ กล่าวในตอนนั้น

นั่นกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้คนมากมายพูดถึงรูปปั้นนี้ของ อัล-ฟาเยด หลายเท่าตัว

“คนส่วนใหญ่รู้สึกสับสน ไม่พอใจ หรือขบขันไปกับมัน มีไม่กี่คนที่บอกว่าไม่ได้น่าอายอะไรนัก” ทอม เกรเทรกซ์ ประธานกลุ่ม ฟูแล่ม ซับพอร์เตอร์ ทรัสต์ กล่าว

“อาจมีคนจำนวนมากที่พบว่ามันน่าอับอายทันทีที่พวกเขาเห็นมัน เพราะอีกสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับรูปปั้นนี้คือในบรรดารูปปั้นที่แย่ในสนามฟุตบอล มันต้องติดอันดับหนึ่งในสิ่งที่แย่ที่สุดแน่นอน เพราะผมไม่รู้ว่าคุณเคยเห็นมันใกล้ ๆ หรือเปล่า แต่ดูเหมือนถูกโละมาจาก มาดาม ทุสโซ ซึ่งเป็นหุ่นขี้ผึ้งที่ถูกปฏิเสธเพราะไม่ดีพอ”

 

MJ ในคราเวน คอร์เทจ

สิ่งเดียวที่พอเชื่อมโยงเรื่องของง แจ็คสัน กับ ฟูแล่ม ต้องย้อนไปในเดือนเมษายนปี 1999 เมื่อป็อปสตาร์ชื่อดังชาวอเมริกัน มาดูเกมใน คราเวน คอร์เทจ พร้อมกับ อัล-ฟาเยด ซึ่ง ‘เจ้าสัว’ เปิดบ้านเอาชนะ วีแกน 2-0 ซึ่งหลังจบได้มีการไปพูดคุยกับนักเตะถึงห้องแต่งตัวด้วย

“ผมจำได้ว่าอัล-ฟาเยดไปรอบ ๆ สนามเหมือนที่เขาทำเสมอ ตอนแรกเราคิดว่าดูคล้าย ๆ นะ ทำไม ไมเคิ่ล แจ็คสัน ตัวจริงต้องมาที่ ฟูแล่ม ด้วยล่ะ? เมื่อพระอาทิตย์เคลื่อนตัวออกจากเมฆ พวกเขาก็ดึงร่มฟูแล่มคันใหญ่ออกมากาง ณ จุดนั้น คุณรู้ได้ทันทีว่า แม่เจ้า นั่นไมเคิ่ล แจ็คสัน ตัวจริง! ” เกรเทรกซ์ ย้อนความ

แฟนบอลฟูแล่ม อาจรู้สึกดีขึ้นกว่านี้ไม่มากก็น้อย เมื่อพบว่าเรื่องจูงใจของการสร้างรูปปั้นนี้เกิดจากความสัมพันธ์ของ แจ็คสัน กับครอบครัวของ ฟาเยด

ในสายตาของ อัล-ฟาเยด เขามองว่า MJ คือเพื่อน และเป็นที่รู้กันดีว่าเปิดห้างดังในลอนดอนอย่าง แฮร์รอดส์ ในคืนหนึ่งเพื่อให้ ศิลปินดังเข้าไปช็อปปิ้งแบบส่วนตัว

รูปปั้นดังกล่าว เศรษฐีแดนมัมมี่ ได้มอบหมายให้ บิล มิตเชล ช่างที่เขาไว้วางใจสร้างสรรค์ หลังเคยทำออกแบบสร้าง ฮอลล์และบันไดเลื่อนแบบอียิปต์ในห้างของเขามาแล้ว

และเดิมที รูปปั้นของ แจ็คสัน ตั้งใจตั้งไว้ในห้าง แฮร์รอดส์ ด้วย แต่เมื่อห้างสรรพสินค้าถูกขายให้กับ ราชวงศ์ของกาตาร์ ในเดือนพฤษภาคมปี 2010 เขาจึงเลือกย้ายมาตั้งไว้ที่สนามของ ฟูแล่ม แทน

 

แม้ไม่พอใจแต่ก็ไม่ต่อต้าน

สำหรับแฟนบอลบางคนมีความลำบากใจและไม่พอใจพอสมควร ขณะที่บางคนคิดว่าจะเขียนจดหมายถึงสโมสร, บ้างก็ติดต่อสภาท้องถิ่นเพื่อสอบถามการอนุญาตในเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านอย่างรุนแรงเช่นกัน เหตุผลส่วนใหญ่เป็นเพราะสิ่งที่ อัล-ฟาเยด ทำให้ฟูแล่มในฐานะเจ้าของสโมสร

นักธุรกิจชาวอิยิปต์ เข้ามาพา ฟูแล่ม สโมสรระดับ 3 ในลีกแดนผู้ดี ทะยานขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกได้ภายในเวลาเพียง 4 ฤดูกาล อีกทั้งราว 12 เดือนเศษ ๆ ก่อนเปิดตัวรูปปั้น สโมสรได้ทะลุถึงรอบชิงยูโรป้า ลีก ท้ายที่สุด อัล-ฟาเยด ให้สโมสรใช้เงินกว่า 200 ล้านปอนด์ ก่อนขายไปโดยไม่ต้องใช้หนี้

“มันไม่ได้กวนใจผมมากนัก มันไม่ปกติ มันแตกต่าง แม้บางคนคิดว่าเป็นเรื่องอื้อฉาวและน่าขายหน้า แต่คนส่วนใหญ่คิดว่า “หลังจากที่สิ่งที่เขาทำให้กับสโมสรแล้ว ถ้า โมฮาเหม็ด อยากให้อยู่ที่นั่นก็ไม่เป็นไร” เดฟ การ์ดเนอร์ อดีตผู้อำนวยการของ ฟูแล่ม กล่าว

“เขาทำได้ทุกอย่างที่เขาบอกว่าจะทำ เขาบอกว่าจะพาทีมขึ้นไปลีกสูงสุดภายในเวลา 5 ปี และทำมันได้ใน 4 ปี”

ขณะแฟนบอลรู้สึกงุนงงกับเรื่องนี้อยู่ ก็มีกลุ่มแฟเพลงของแจ็คสันไม่น้อยที่ไม่พอใจ  หน้าตาของรูปปั้นที่ชวนตั้งคำถามทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้น ดังนั้นบางทีเพื่อช่วยเอาใจสาวก MJ บ้าง ฟูแล่มจึงเชิญผู้สนใจมาร่วมงานเลี้ยงมือเย็นสุดพิเศษกับรูปปั้น โดยมีการจับมือและร้องเพลง We Are The World ด้วยกัน

แต่สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นผลกระทบอีกอย่างของรูปปั้นนอกเหนือจากรูปลักษณ์และความสัมพันธ์กับฟูแล่ม การดึงดูดแฟนเพลงแจ็คสัน ช่วยเพิ่มความน่าสนใจในเชิงพาณิชย์ กับสินค้ารูปปั้นแจ็คสัน เช่นเสื้อยืดมีขายในร้านค้าของสโมสร ในขณะที่ นักท่องเที่ยวก็สามารถล่องเรือสำราญไปตามแม่น้ำเทมส์ ซึ่งจะหยุดตรงข้ามกับสนาม คราเวน คอร์เทจ เพื่อเยี่ยมชมรูปปั้น

แต่นั่นก็ไม่ตื่นตาเท่ากับการเห็นรูปป้้นแบบเต็ม 2 ตา ในสนามจริง ๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนบอลทีมคู่แข่ง รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปมาอย่างมาก แม้แฟน ‘เจ้าสัว’ ส่วนใหญ่ไม่สนกับรูปปั้นนี้ก็ตาม

นอกจากนี้ยังเพิ่มโปรไฟล์ของสโมสรให้เป็นที่น่าสนใจมากขึ้น หลังการเปิดตัวรูปปั้นดังกล่าวทำให้เป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลกตั้งแต่จีนไปจนถึงสหรัฐอเมริกา

 

ถูกแทนที่ด้วยตำนาน (ของจริง)

อย่างไรก็ตาม รูปปั้นนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ใน ฟูแล่ม ตลอดกาล เมื่อ อัล ฟาเยด ขายสโมสรให้กับ ชาฮิด ข่าน ในปี 2013 เจ้าของทีมใหม่ได้ทำการคืนรูปปั้นให้เขาทันที โดยชี้แจงว่าว่ามันไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการพัฒนาของสโมสร

“ตอนนี้มันฟังดูประหลาดนะ แต่กับแฟนบอลฟูแล่ม เรื่องนั้นทำให้เจ้าของคนใหม่ได้รับความนิยมตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาทันที” เกรเทรกซ์ กล่าว

มันถูกแทนที่ด้วย จอร์จ โคเฮน ตำนานของสโมสร และแข้งอังกฤษชุดแชมป์โลก ซึ่งเปิดตัวในปี 2016 ขณะที่รูปปั้นของ ราชาเพลงป็อป ถูกตั้งไว้ที่ดิน ณ เซอร์รีย์ มณฑลทางตอนใต้ในลอนดอน ที่ อัล ฟาเยด เป็นเจ้าของ

พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติซึ่งตั้งอยู่ในแมนเชสเตอร์ได้ติดต่ออดีตเจ้าของฟูแล่มเกี่ยวกับรูปปั้นดังกล่าว ขณะที่ มาร์ติน โยล อดีตกุนซือของ ‘เจ้าสัว’ ระหว่างปี 2011-2013 ก็สนใจเก็บสะสมรูปปั้นนี้ด้วยเช่นกัน

ท้ายที่สุด อัล-ฟาเยด ตกลงบริจาครูปปั้นให้กับ พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติซึ่งตั้งอยู่ในแมนเชสเตอร์ได้ติดต่ออดีตเจ้าของฟูแล่มเกี่ยวกับรูปปั้นดังกล่าว ในเดือนพฤษภาคมปี 2014 ซึ่งเขาอ้างว่าการถอนรูปปั้นออกจากสนาม เป็นสาเหตุที่ทำให้ ฟูแล่ม ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2013-14

“รูปปั้นนี้เป็นดั่งเครื่องราง และเราก็เอาโชคออกไปจากสโมสร และตอนนี้เราต้องชดใช้แล้ว” อัล-ฟาเยด กล่าว

“เมื่อ (ข่าน) ถามผมขอเอารูปปั้นออก ผมตอบกลับไปว่า ‘คุณจะบ้าหรอ’ นี่เป็นรูปปั้นที่สุดยอด ซึ่งแฟนบอลต่างพูดถึงกัน แต่ตอนนี้เขาต้องชดใช้แล้ว เพราะสโมสรตกชั้น ผมโทรหาผมเพื่อบอกผมว่าต้องการให้ ไมเคิ่ล กลับไปที่นั่นอีก แต่ผมตอบกลับไปว่า ‘ไม่มีทาง’ ”

 

ข่าวฉาวทำพิษ

ปัจจุบัน รูปปั้นไม่ได้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติอีกต่อไป หลังถูกถอดออกในปี 2019 เนื่องจากมีการกล่าวหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อนักร้องดังในซีรีส์สารคดีของช่อง 4 และ HBO เรื่อง Leave Neverland ซึ่งมีการเผยว่า เจมส์ เซฟชัค และเวด ร็อบสัน ชาย 2 คนที่เสียชีวิตในปี 2009 อ้างว่าพวกเขาถูกแจ็คสันล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่ครอบครัวแจ็คสันปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างดุเดือด

แม้ว่าสารคดีจะนำไปสู่การประเมินเรื่องราวของแจ็คสันอีกครั้ง คำถามที่ตามมาสำหรับแฟนฟูแล่มก็คือพวกเขาจะรู้สึกแตกต่างเกี่ยวกับรูปปั้นในวันนี้หรือไม่? 

“ถ้าก่อนหน้านี้มีการรับรู้มากขึ้น ผมคิดว่านั่นจะสร้างความแตกต่างให้กับทัศนคติของผู้คนมาก ๆ เลย” เกรียเทกซ์ กล่าวเสริม

ช่วงเวลาของรูปปั้นนี้ดูเหมือนจะสิ้นสุดลงแล้วและไม่คิดว่า อัล-ฟาเยด จะนำมันกลับมาในตอนนี้หลังจากบริจาคเป็นของขวัญให้กับพิพิธภัณฑ์แล้ว

ณ เวลานี้ รูปปั้นถูกเก็บไว้คลังเก็บของของพิพิธภัณฑ์ใน ดีปเดล จากการเปิดเผยของโฆษกพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลแห่งชาติ ผ่าน The Athletic สื่อกีฬาออนไลน์ชื่อดัง

ถึงจะค่อย ๆ หายไปในความคิดของใครหลาย ๆ คน แต่รูปปั้นของ ไมเคิ่ล แจ็คสัน ยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลฟูแล่มแน่นอน

ต่อให้พวกเขาไม่อยากจะพูดถึงมันนักก็ตาม

 

บทความที่เกี่ยวข้อง