หลังแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็มีอิสระในการเจรจากับสโมสรต่างๆในตอนนี้ ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่าเขาได้รับข้อเสนอจาก อัล-นาสเซอร์ สโมสรดังจากซาอุดิอาระเบีย ที่เรียกว่ามากมายมหาศาลเกินกว่าที่หลายคนจินตนาการออก
ฟาบริซิโอ โรมาโน่ เหยี่ยวข่าวคนดังสายตลาดซื้อขาย เผยว่า สโมสรแดนเศรษฐีน้ำมัน ได้เสนอค่าเหนื่อยให้ ดาวเตะวัย 37 ปี สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์วงการลูกหนัง ด้วยจำนวนเงินถึง 200 ล้านยูโรต่อฤดูกาล ซึ่งมีระยะเวลาสัญญาถึงปี 2025
หาก CR7 เลือกเซ็นสัญญานี้จริงๆ จะทำให้เขามีเงินมากกว่า 600 ล้านยูโร ในวัย 40 ปี เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใจจากเจ้าตัว เนื่องจากกำลังมุ่งมั่นช่วยทีมชาติโปรตุเกส ในฟุตบอลโลกที่ กาตาร์ อยู่
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 7 แข้งที่มีสัญญาค่าเหนื่อยสุดเว่อร์วังเท่าที่เคยเกิดขึ้นในวงการฟุตบอล โดยอ้างอิงตัวเลขจาก La Parisien สื่อจากฝรั่งเศส
7.ปอล ป็อกบา | แมนฯยูไนเต็ด (113 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา : 5 ปี (2016-2021)
ปอล ป็อกบา เป็นลูกหม้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในแคร์ริงตัน แต่ก็ย้ายไปแบบฟรีๆในปี 2012 ก่อนไปสร้างชื่อกับ ยูเวนตุส ในฐานะกองกลางเบอร์ต้นๆของยุโรปในเวลาต่อมา
หลังพา ‘ม้าลาย’ คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ 4 สมัย และพาทีมไปถึงรอบชิง แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ ‘ปีศาจแดง’ ยอมทุ่มเงินเพื่อดึงกองกลางเฟรนช์แมน กลับมา โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อีกครั้ง ด้วยสถิติโลก 89 ล้านปอนด์ และการที่มี เอเย่นต์ตัวแสบผู้ล่วงลับอย่าง มิโน่ ไรโอล่า ยิ่งทำให้เขาได้เงินมากมายจากเซ็นสัญญาครั้งนี้
ป็อกบาได้เงินมากกว่า 100 ล้านยูโร ในช่วงเวลา 5 ปีกับ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในปี 2016 โดยทีมได้ออปชั่นขยายสัญญาเพิ่มอีกปี ทำให้เขาอยู่กับเป็นปีที่ 6 ก่อนลาทีมไปแบบไร้ค่าตัวเป็นหนที่ 2 เพื่อซบ ‘เบี่ยงโคเนรี่’ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2022
โดยมิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส คว้าแชมป์ลีกคัพ และ ยูโรป้าลีก ในปีแรกกับ ยูไนเต็ด แต่หลังจากนั้น 5 ปีต่อมา กลับไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์ใดๆ และชัดเจนว่าการลงทุนครั้งนี้ของทีมสีแดงจากแมนเชสเตอร์ ไม่คุ้มทุนเอาเสียเลย
6.แกเร็ธ เบล | เรอัล มาดริด (178 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา : 6 ปี (2016-2022)
ในเดือนตุลาคมปี 2016 แกเร็ธ เบล ได้เซ็นสัญญาใหม่กับ เรอัล มาดริด ซึ่งนั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ได้รับค่าเหนื่อยมากที่สุดในโลกฟุตบอลเลย
เหตุผลที่เป็นแบบนั้นคือเรื่องที่หลายคนเข้าใจได้ หลังปีกทีมชาติเวลส์ พา ‘โลส บลังโกส’ คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย รวมไปถึงแชมป์ลาลีก้า 1 จาก 3 สมัย ทว่าหลังจากนั้น สโมสรก็เป็นเสียมากกว่าได้ประโยชน์จากการต่อสัญญาใหม่ครั้งนี้แทน
น่าเศร้าไม่น้อยที่ต้องเห็น เบล กลายเป็นผู้เล่นส่วนเกินของ ‘ราชันชุดขาว’ ในช่วง 6 ปีสุดท้ายใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว แต่ด้วยค่าเหนื่อยมหาศาลระดับนี้ก็เข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงเลือกอยู่กับทีมจนหมดสัญญา ก่อนย้ายซบ แอลเอ เอฟซี แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์ปี 2022
5..คริสเตียโน่ โรนัลโด้ | ยูเวนตุส (220 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา : 4 ปี (2018-2022)
ย้อนกลับไปในซัมเมอร์ปี 2018 ยูเวนตุส เดินหน้าคว้าแชมป์เซเรียอา มา 7 สมัยติดต่อกัน ครองความเป็นหนึ่งในอิตาลีแบบไร้ข้อกังขา นั่นทำให้เป้าหมายของพวกเขาคือการเป็นเจ้ายุโรป
และการที่ ‘ม้าลาย’ อกหักจบแค่รองแชมป์ใน แชมเปี้ยนส์ลีก 2 ครั้งในช่วงเวลานั้น ทำให้พวกเขาทุ่มทุนคว้า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงจาก เรอัล มาดริด มาร่วมทีม ด้วยความหวังว่านี่จะเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ทำให้เขาสมหวังในบอลยุโรปเสียที
ด้วยสถิติค่าตัวของสโมสร 117 ล้านยูโร เพื่อคว้า CR7 มาร่วมทีม น่าจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนี่คือดาวซัลโวตลอดกาลของ UCL พร้อมเคยชูถ้วยบิ๊กเอียร์มาแล้ว 4 ครั้งจาก 5 ปีหลังสุด ทีมจากตูรินจึงประเคนค่าเหนื่อยให้ทะลุ 200 ล้านยูโรในสัญญา 4 ปี
แม้ ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส จะยิงกระจายในอิตาลีได้จริงๆ จนคว้าแชมป์ลีกอีก 2 ปี และโคปปา อิตาเลียในปี 2021 แต่หลายอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผนในแชมเปี้ยนส์ลี เมื่อร่วงตกรอบช่วง 3 ปีติด โดยพ่ายให้กับ อาแจ็กซ์, โอลิมปิก ลียง และ ปอร์โต้
ช่วงซัมเมอร์ปี 2021 โรนัลโด้ เลือกลา ยูเว่ โดยที่ยังเหลือสัญญาถึง 2 ปี โดยรีเทิร์น แมนฯยูไนเต็ด ทีมที่เขาแจ้งเกิดเป็นแข้งระดับโลก ส่วน ‘ม้าลาย’ ที่ไร้กองหน้าอย่างพี่โด้ ก็ทรงๆทรุดๆจนจบอันดับ 4 ในฤดูกาล 2021-22
4.คริสเตียโน่ โรนัลโด้ | เรอัล มาดริด (220 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา: 5 ปี (2016-2021)
1 เดือนหลังจากที่ เบล ต่อสัญญาใหม่ โรนัลโด้ ก็ได้สัญญาใหม่เช่นกัน และกลายเป็นนักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยสูงสุดใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ด้วยสัญญายาว 5 ปี
ณ ตอนนั้น CR7 กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ ‘โลส บลังโกส’ เรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้การปล่อยให้เขาหมดสัญญาลงจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส ก็อยู่ไม่ครบสัญญา ด้วยการย้ายไป ยูเวนตุส ก่อนเปิดใจถึงสาเหตุที่เลือกลาทีมจากมาดริดในเวลาต่อมา
“ผมรู้สึกว่าในสโมสร โดยเฉพาะจากประธานสโมสร (ฟลอเรนติโน่ เปเรซ) พวกเขาไม่มองผมในแบบเดิมที่เคยเป็นในตอนแรกอีกต่อไป ในช่วง 4-5 ปี ผมรู้สึกว่าผมเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้” เขากล่าวกับ France Football
“หลังจากนั้นก็น้อยลง ประธานสโมสรมองผมด้วยสายตาที่อยากพูดสิ่งที่เคย ราวกับว่าผมไม่ใช่คนที่ขาดไม่ได้สำหรับพวกเขาอีกต่อไป คุณรู้ว่าใช่มั้ยว่าผมหมายถึงอะไร?”
พี่โด้ กดประตูให้ มาดริด ถึง 450 ประตูในช่วงที่พีกสุดๆในอาชีพ และขายทำกำไรได้ด้วย ทั้งที่เขาอยู่ในวัย 33 ปี แม้ลาทีมแบบไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็ถือเป็นการทำธุรกิจที่ไม่เลวสำหรับ เปเรซ เลย
3.เนย์มาร์ | เปแอสเช (267 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา: 6 ปี (2017-2023)
ด้วยความต้องการอยากหลุดจากร่มเงาของ ลิโอเนล เมสซี่ ทำให้ เนย์มาร์ เลือกย้าย บาร์เซโลน่า เพื่อย้ายซบ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในปี 2017 โดยที่ทีมจากฝรั่งเศส ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญากว่า 222 ล้านยูโรด้วย
และก็ไม่แปลกเช่นกัน ที่ดาวเตะทีมชาติบราซิล เลือกย้ายไปค้าแข้งใน ปาร์ค เดส์ แพรงส์ เมื่อได้รับค่าเหนื่อยก้อนโตกว่าที่ บาร์ซ่า เคยให้อยู่หลายเท่าตัว
ณ เวลานี้ ปีกวัย 30 ปี ค้าแข้งในปารีสนานกว่า 5 ปีกว่าแล้ว และเขาน่าจะได้เงินไปแล้วร่วมๆ 267 ล้านยูโรจากสัญญาที่มี
2.ลิโอเนล เมสซี่ | บาร์เซโลน่า (555 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา: 4 ปี (2017-2021)
ด้วยสถานะของ ลิโอเนล เมสซี่ ในบาร์เซโลน่า ที่มีความสำคัญสุดๆ ไม่ว่าในสนาม หรือเรื่องนอกสนาม ทำให้ โจเซป มาเรีย บาร์โตเมว อดีตประธานสโมสร ไม่มีทางเลือกมอบสัญญาและค่าเหนื่อยตามที่ ดาวเตะร่างเล็กเรียกร้อง และทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ได้ค่าเหนื่อยสูงสุดในโลก
ทว่านั่นกลับกลายเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ บาร์ซ่า ประสบปัญหาด้านการเงิน จากการจัดการที่ผิดพลาด ซึ่งส่งผลให้หลายสิ่งพังลงมาแบบไม่ทันตั้งตัวและมาพร้อมด้วยหนี้ก้อนโตกว่า 1 พันล้านยูโร ก่อนที่ ดาวเตะอาร์เจนไตน์ จะลาสโมสรที่เขารักทั้งน้ำตา ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021 หลัง บาร์ซ่า ไม่สามารถต่อสัญญาใหม่เขาได้
1.คิลิยัน เอ็มบัปเป้ | เปแอสเช (630 ล้านยูโร)
ช่วงเวลาสัญญา: 3 ปี (2012-2025)
คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ถูกคาดหมายว่าจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ของ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์ปี 2022 หลังจากกำลังหมดสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และเรื่องนี้ไม่น่ามีอะไรพลิกโผ เนื่องจาก ‘โลส บลังโกส’ เป็นสโมสรในฝันของ หอกทีมชาติฝรั่งเศสตั้งแต่เด็กด้วย
ทว่าเรื่องกลับพลิกล็อคเมื่อ เปแอสเช ประกาศต่อสัญญากับ ดาวเตะเฟรนช์แมน ไปจนถึงปี 2025 สร้างความผิดหวังให้กับ มาดริดนิสต้า ไม่น้อย พร้อมกับสาปส่ง เอ็มบัปเป้ เช่นกันว่าเป็นคนเห็นแก่เงินมากกว่าความฝัน
ทว่าการที่ เอ็มบัปเป้ มีสิ่งการันตีว่าเขาจะได้เงินถึง 630 ล้านยูโร ในเวลา 3 ปี ซึ่งมากกว่าที่ เบล เคยได้ตอนอยู่กับ มาดริด 6 ปีหลังสุด ก็ไม่แปลกเช่นกันที่เขาจะปักหลักค้าแข้งในบ้านเกิดต่อไป