สำหรับแฟนบอลส่วนใหญ่ย่อมตื่นเต้นไม่น้อยยามที่ทีมรักของพวกเขาคว้าแข้งชาวบราซิลเลี่ยน ชาติที่ขึ้นชื่อว่าเต็มไปด้วยนักเตะลีลาแพรวพราวมากที่สุด และครั้งหนึ่งสาวก เอฟเวอร์ตัน ก็เคยเป็นเช่นนั้น
เหล่าเอฟเวอร์โตเนี่ยน ต่างเนื้อเต้นเมื่อทีมคว้าตัวรุกจาก โบตาโฟโก้ โรดริโก้ มาร่วมทีมแบบยืมตัวในปี 2002 หลังแจ้งในแดนแซมบ้า จนมีชื่อติดทีมชาติบราซิลก่อนบอลโลกที่ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม
มากไปกว่านั้น เขายังถูกเรียกว่า โรดริโก้ เบ็คแฮม เนื่องจากงานถ่ายแบบและทรงผมของเขาในช่วงนั้นละม้ายคล้ายคลึงกับ เดวิด เบ็คแฮม ปีกหน้าหยกชื่อดังชาวอังกฤษอีกด้วย
แต่นอกจากนั้น แข้งชาวบราซิลเลี่ยนก็ไม่มีอะไรใกล้เคียงกับ อดีตนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลย ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง, ความสามารถ หรือ ความสำเร็จ อีกทั้งลงสนามให้ท็อฟฟี่แค่ 4 นัดเท่านั้น
ดังนั้น UFA ARENA จะพาทุกท่านย้อนไปดูหนึ่งในดีลที่ล้มเหลวที่สุดของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ในพรีเมียร์ลีกเมื่อ 20 ปีก่อนผ่านบทความชิ้นนี้กัน
โดดเด่นเหนือ กาก้า
โรดริโก้ ถือเป็นดาวรุ่งที่โดดเด่นมาก หลังฉายแววสุดๆกับ บาตาโฟโก้ ตั้งแต่ปี 1999 และยังได้รับเกียรติถูกโหวตให้เป็นแข้งที่น่าจับตามองที่สุดในบราซิล โดย โกลโบ เอสสปอร์เต้ สื่อในบ้านเกิดเมื่อปี 2001 เหนือ ริคาร์โด้ กาก้า หรือ โรมาริโอ้ เลยทีเดียว
จนในปี 2002 เขาได้ย้ายไปผจญภัยในยุโรปเป็นครั้งแรกกับ เอฟเวอร์ตัน ยุคเดวิด มอยส์ ด้วยสัญญายืมตัว 1.25 ล้านปอนด์ พ่วงด้วยเงื่อนไขซื้อขาดในราคา 3 ล้านปอนด์
แข้งแดนแซมบ้าได้ย้ายมาร่วมทีมพร้อมๆกับ ลี คาร์สลีย์, อลัน สตัปส์ และ โทนี่ ฮิบเบิร์ต พร้อมทั้งกลายเป็นแข้งชาวบราซิลเลี่ยนคนแรกที่ค้าแข้งกับท็อฟฟี่ด้วย อีกทั้งลีลาเท้าซ้ายของ โรดริโก้ เบ็คแฮม ก็มีแรงดึงดูดน่าสนใจไม่แพ้ใบหน้าของเขาเลย
โรดริโก้ในวัย 26 ปี ทำผลงานได้น่าประทับใจตั้งแต่แรก หลังยิงประตูในเกมพรีซีซั่นกับ เร็กซ์แฮม ขณะที่เขากำลังเรียกความฟิตกลับมา หลังต้องบาดเจ็บหนักที่หัวเข่าตอนเล่นกับ แอตเลติโก้ มิเนย์โร่ แบบยืมตัวช่วงต้นปี 2002
“ผมรู้สึกฟิตแค่ 50 เปอร์เซนต์ในตอนนั้น และผมจะทำเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าผมพร้อมสำหรับศึกพรีเมียร์ชิพใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า” โรดริโก้กล่าว
“ขณะที่โค้ชต้องการให้ผมเล่นในหลายๆตำแหน่ง ผมรู้สึกสบายใจมากกว่าเมื่อได้เล่นหลังกองหน้า 2 คน, เชื่อมเกมรับและรุก แต่ผมจะเล่นตรงไหนก็ได้ หากโค้ชรู้สึกว่าผมสร้างประโยชน์ให้ทีมได้ดีที่สุดจากจุดนั้น”
จุดเริ่มต้นความล้มเหลว
ออสติน ราธ ได้เขียนไว้ในเว็บไซต์ เอฟเวอร์ตัน-แมด ว่า “ผมพนันว่า กราเวอร์เซ่น และ โรดริโก้ จะกลายเป็น 2 กองกลางของเรา แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่านั่นจะเหมาะสมกับแข้งชาวบราซิลเลี่ยนอย่างไร เขาดูโอเคในเกมพบ เร็กซ์แฮม แต่นั่นไม่ใช่เกมพรีเมียร์ชิพ ซึ่งเราจะได้รู้กัน”
เมื่อถึงวันเปิดฤดูกาลที่เอฟเวอร์ตัน บุกไปเยือน ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ดาวเตะที่รูปหล่อไม่แพ้เบ็คแฮม กลับมีชื่อในม้านั่งสำรองแทน โดย มาร์ค เพมบริดจ์ และ โธมัส กราเวอร์เซ่น ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแดนกลาง
แข้งป้ายแดงได้ลงสนามแทน หลี่ เถีย ในช่วง 14 นาทีสุดท้าย และเกมจบลงด้วยผลเสมอ 2-2 แต่ฟอร์มการเล่นของเขาก็ถูกบดบังจนหมดสิ้นจาก เวย์น รูนี่ย์ ลูกหม้อตัวเก่งที่เพิ่งประเดิมชุดใหญ่นัดแรก และยิงประตูแรกในเกมนั้น พร้อมกลายเป็นแข้งอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในประวัติศาสตร์ของท็อฟฟี่เป็นอันดับ 2 ด้วยวัย 16 ปี
แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาแฟนบอลในตัวโรดริโก้ กลับเป็นชื่อบนด้านหลังเสื้อของ โรดริโก้ ที่เขียนว่า ‘โรดริโกล’ (Rodrigol) ซึ่งเจ้าตัวได้อธิบายไว้ว่าที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ตัวแอล ท้ายชื่อมาจาก โลเปซ ที่เป็นชื่อกลางของเขานั่นเอง
“ชื่อเต็มของผมคือ จูเลียโน่ โลเปซ โรดริโก้” มันไม่เหมือน กาเบรียล บาติสตูต้า ที่ถูกเรียกว่าบาติโกล นั่นเป็นฉายาที่แฟนบอลตั้งให้เขาเพราะเขาทำประตูได้มากมาย”
อย่างไรก็ดี นั่นก็ไม่ได้ทำให้โอกาสลงสนามของ อดีตแข้งโบตาโฟโก้ในเสีเสื้อท็อฟฟี่มีมากกว่าเดิมนัก เพราะเขาได้ลงเล่นเพิ่มอีก 3 นัดเท่านั้นในฐานะตัวสำรองกับเกมเสมอ เบอร์มิ่งแฮม, แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เซาแธมป์ตัน ก่อนจะพบเรื่องร้ายแรงที่สุดในอาชีพค้าแข้ง
“เราจัดทีมแข่งกันในสนามเล็ก ผู้รักษาประตูขว้างบอลไปให้เขา ซึ่งเขาใช้อกพักบอลก่อน” มอยส์ กล่าวในเว็บไซต์ของสโมสร “เขาพลิกตัวในเวลาเดียวกัน และเข่าของเขาก็เคลื่อน”
กุนซือชาวสก็อตกล่าวเสริมว่า “ผมเสียใจที่ต้องเสียเขาไป แต่สำหรับเขา มันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ เขามาที่นี่เพื่อทำผลงานให้ดี และใกล้จะได้มีส่วนร่วมกับทีมในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา”
“เรารู้เสมอว่าเขามีความฟิตไม่มากนัก ตอนที่ย้ายมาแรกๆ แต่เขาได้รับคำแนะนำในลงเล่น 1 หรือ 2 เกม ลงเล่นเล็กน้อย และเขาก็กำลังพร้อมจะเป็นตัวจริง”
“เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ยอดเยี่ยม ทุกคนชื่นชอบเขาในสนามซ้อม และเราทุกคนล้วนเสียใจกับเขา”
เข่าพัง อาชีพพัง
ต่อมา โรดริโก้ ถูกพบว่าเอ็นหัวเข่าขวาฉีก แต่การวินิจฉัยอาการที่ไม่เหมาะสมนำไปสู่การผ่าตัดที่ไม่เสร็จสมบูรณ์หลายต่อหลายครั้ง จนส่งผลเสียต่ออาชีพค้าแข้งของเขานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
แข้งแดนแซมบ้าไม่เคยได้ลงเล่นให้ เอฟเวอร์ตัน อีกเลย และกลับไปค้าแข้งในบราซิลบ้านเกิด พร้อมรับสถานะเป็นแข้งจอมพเนจร แถมไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวหลักได้เลยใน 9 สโมสรที่เขาลงเล่นต่อจากนั้น
หลังจากแขวนสตั๊ดในปี 2010 มีรายงานได้เผยว่า โรดริโก้ ได้ทุ่มเทตัวเองให้กับการเล่นเซิร์ฟ, สเก็ตบอร์ด, ศึกษาฟุตบอล และ ตลาดการเงิน รวมถึงลองงานกุนซือช่วงสั้นๆกับ โบวิสต้าในปี 2015-2016
ส่วน เอฟเวอร์ตัน ก็ประสบความโชคร้ายคล้ายๆกันกับแข้งชาวบราซิลเลี่ยนในปีต่อมาๆ ทั้ง แอนเดอร์สัน ซิลวา, โช และ ฟิลิเป้ มัตติโอนี่ ไม่มีใครแจ้งเกิดในกูดิสัน ปาร์ค ได้เลยซักคน
แต่เรื่องราวทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อทีมคว้า แบร์นาร์ด และ ริชาร์ลิสัน ที่กลายเป็นตัวรุกคนสำคัญของสโมสรในเวลาต่อมา แถมพวกเขายังกลายเป็นแข้งเอฟเวอร์ตัน 2 คนแรกที่ถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลด้วย
บางทีอาจเป็นเพราะความโชคร้ายที่ทำให้ โรดริโก้ ไม่มีโอกาสได้รับเกียรติเช่นนี้ และตลกร้ายตรงที่เขากลายเป็นผู้เล่นอีกคนในวงการลูกหนังที่ถูกจดจำในฐานะแข้งหน้าตาดี
หาใช่ฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมไม่…
บทความที่เกี่ยวข้อง
