เอซี มิลาน ถือเป็นหนึ่งในสโมสรเบอร์ต้นๆ ของทวีปยุโรป ตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้อาจมีช่วงที่ตกต่ำ ห่างหายจากความสำเร็จไปบ้าง แต่ก็ยังอุดมไปด้วยดาวเตะระดับท็อปอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม มีเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับ ‘รอสโซเนรี่’ บ่อยจนน่าตกใจ นั่นก็คือพวกเขามักจะเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่แรกๆ ของเหล่าสโมสรมหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่ต้องการบิ๊กดีลเพื่อประกาศศักดาให้โลกรู้อยู่เสมอ
อย่างกรณีล่าสุดที่ทีมเพิ่งปล่อย ซานโดร โตนาลี่ กองกลางหนุ่มคนสำคัญให้กับ นิวคาสเซิ่ล ด้วยค่าตัวบวกแอดออนราวๆ 70 ล้านยูโร จนสร้างความประหลาดให้กับแฟนๆ ทั่วโลก เพราะนี่คือนักเตะที่ช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีก เมื่อปีก่อนแท้ๆ
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปย้อนถึงเหตุการณ์ที่มิลานกลายเป็นแหล่งช็อปดีลใหญ่ของทีมเศรษฐีหน้าใหม่ ตั้งแต่ยุคต้น 2000 จนถึงปัจจุบัน
โดนสิงห์บลูส์ยุคเสี่ยหมีดูดเชว่า
เอซี มิลาน ประสบความสำเร็จอย่างมากในยุคต้น 2000 ทั้งแชมป์เซเรีย อากับ โคปปา อิตาเลีย อย่างละสมัย รวมไปถึงแชมป์ยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2003
หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของ ‘รอสโซเนรี่’ ในตอนนั้น หนีไม่พ้น อังเดร เชฟเชนโก้ ดาวยิงทีมชาติยูเครน ที่มีส่วนสำคัญช่วยให้พวกเขาคว้าแชมป์เหล่านั้นมาครอง พ่วงด้วยรางวัลบัลลงดอร์ ในปี 2004 และผลงานการถล่มประตูในเวลานั้น ดูจะเข้าตา โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ที่เพิ่งเทคโอเวอร์ เชลซี ในปี 2003
ในปี 2005 มีรายงานว่า เสี่ยหมี ยื่นเงินถึง 73 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติโลก เพื่อหวังคว้า เชว่า ไม่ร่วมทีม โดยพ่วงปล่อย เออร์นาน เครสโป ไปในเงื่อนไขซื้อตัวด้วย แต่ก็โดนทีมจาก อิตาลี ปฏิเสธ เนื่องจากยังต้องการให้ หอกตัวเก่งอยู่กับทีมต่อไป
อย่างไรก็ตาม อับราโมวิช ก็สมหวัง เมื่อคว้า เชฟเชนโก้ มาร่วมทีมได้ในซัมเมอร์ปี 2006 ด้วยค่าตัว 30.5 ล้านปอนด์ (ราว 43 ล้านยูโร) ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในฟุตบอลอังกฤษ เวลานั้นเลย และจะช่วยให้ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ แกร่งขึ้นแน่ๆ หลังเพิ่งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมา 2 ปีติด
อย่างไรก็ตาม หอกชาวยูเครน ดูมีปัญหาในการเล่นที่อังกฤษ พอสมควร หลังยิงเพียง 14 ประตู จาก 51 นัดในปีแรก อีกทั้งปีที่ 2 ก็ไม่ดีขึ้นเลย เมื่อยิงไปแค่ 8 ประตูจาก 25 นัด ก่อนถูกส่งตัวให้ มิลาน ยืมไปใช้งาน 1 ปี แต่เขาก็ไม่ใช่ เชว่า คนเดิมที่เก่งกาจ ยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ แบบที่แฟนๆ จดจำอีกแล้ว
เกือบเสียกาก้าให้เรือใบ
ไม่นานหลังจาก อับราโมวิช สร้าง เชลซี ให้กลายเป็นยอดทีม ชีค มันซูร์ และกลุ่มทุนอาบูดาบี ก็หวังตามรอย ด้วยการเทคโอเวอร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2008 ที่ขณะเป็นเพียงเพื่อนบ้านที่น่ารำคาญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่เพียงแต่ไม่มีลุ้นแชมป์ใดๆ เนื่องจากหนักไปทางหนีตกชั้นอีกด้วย
ในซัมเมอร์ปีนั้น เรือใบ เสริมทัพได้น่าสนใจพอสมควร และดีลบิ๊กสุดๆ คือการคว้า โรบินโญ่ ปีกจอมพริ้วของ เรอัล มาดริด มาร่วมทีมในวันสุดท้ายก่อนตลาดปิด สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่า ซิติเซนต์ ไม่น้อย
แต่นั่นก็ยังไม่หนำใจ ท่านชีค เนื่องจากมีข่าวว่าเขาต้องการทำลายสถิติโลก ด้วยการคว้า ริคาร์โด้ กาก้า จอมทัพหน้าหล่อ จาก เอซี มิลาน มาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโร ช่วงตลาดเดือนมกราคมปี 2009 ซึ่งทีมจากอิตาลี ก็พร้อมขายให้เช่นกัน เนื่องจากเป็นข้อเสนอที่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธได้เลย
ทว่ากองกลางบราซิลเลี่ยน ก็เลือกปฏิเสธ และขออยู่กับ รอสโซเนรี่ ต่อไป ก่อนสุดท้าย กาก้า จะไปลงเอยกับ เรอัล มาดริด แทนในช่วงซัมเมอร์
โดนปารีสจัดแพ็คคู่
ในปี 2011 กาตาร์ สปอร์ต อินเวสต์เมนต์ ได้เข้ามาเทคโอเวอร์ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เพียงแต่ปีแรก ก็ไม่ได้แชมป์ลีก เอิงตามที่ตั้งเป้าไว้ หลังจบอันดับ 2 โดนม้ามืดอย่าง มงต์เปลลิเย่ร์ คว้าแชมป์ไปแทน
นั่นทำให้ นาสเซอร์ อัล เคไลฟี่ ซีอีโอของ เปแอสเช ขอจัดหนักๆ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2012 ในการเสริมทัพด้วยการคว้าทั้ง ติอาโก้ มอตต้า, เอเซเกล ลาเวซซี่, มาร์โก แวร์รัตติ หรือ ลูคัส มูร่า
แต่ดีลเหล่านั้นก็ไม่ยิ่งใหญ่ทั้งตอนที่ดึง 2 ซูเปอร์สตาร์จาก เอซี มิลาน อย่าง ติอาโก้ ซิลวา และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาร่วมทีมในช่วงเวลาไล่เรี่ยกัน ซึ่งทั้งคู่คือกำลังหลักที่ช่วยให้ รอสโซเนรี่ คว้าแชมป์ลีกในปี 2011 ด้วย
ทั้ง 2 คนพา เปแอสเช คว้าแชมป์ได้ทันทีในฤดูกาลแรก และประสบความสำเร็จ คว้าแชมป์อีกหลายรายการ จนเป็นตำนานของสโมสรในเวลาต่อมา ส่วน ‘ปีศาจแดงดำ’ หลังจากนั้นก็ร้างแชมป์นาน 10 กว่าปี จนได้ ซลาตัน ในวัยชรากลับมาช่วยปลุกเร้าแข้งรุ่นน้องจนทีม เป็นแชมป์อีกครั้งเมื่อปี 2022
โตนาลี่รายล่าสุด
นิวคาสเซิ่ล อภิมหาเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งเทคโอเวอร์ทีมมาไม่นาน จากกลุ่มทุนจากซาอุดิอาราเบีย ซึ่งยกระดับทีมได้ทันตาเห็น จากที่เคยหนีตกชั้น ในฤดูกาล 2022-23 ก็คว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบ 20 ปีได้สำเร็จ
‘สาลิกาดง’ หวังต่อยอดความสำเร็จนี้ ด้วยการเสริมผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับความแข็งแกร่งให้ทีม และดีลสุดเซอร์ไพรส์ก็เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อพวกเขายื่นเงินในราคาระดับ 70 ล้านยูโร เพื่อสู่ขอ ซานโดร โตนาลี่ จาก เอซี มิลาน มาร่วมทีม
ด้วยข้อเสนอระดับนั้น ทำให้ ‘รอสโซเนรี่’ แทบจะห่อของขวัญผูกโบว์ส่งให้ ‘เดอะ แม็กพายส์’ เลย ซึ่งนั่นเท่ากับว่านี่จะเป็นดีลสถิตินักเตะอิตาลีที่แพงที่สุด แซงหน้า จอร์จินโญ่ ที่ย้ายจาก นาโปลี ไปเชลซี ด้วยค่าตัว 57 ล้านยูโร
อีกทั้ง กองกลางวัย 23 ปี จะกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดของ นิวคาสเซิ่ล ด้วย เทียบเท่ากับ อเล็กซานเดอร์ อิซัค กองหน้าชาวสวีดิช ซึ่งย้ายมาจาก เรอัล โซเซียดาด ด้วยค่าตัว 70 ล้านยูโรเช่นกัน เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
จริงๆ แล้วมีข่าวว่า โตนาลี่ ไม่อยากลาถิ่น ซาน ซีโร่ ไปแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังหวังจะแขวนสตั๊ด กับสโมสรด้วยซ้ำ และเมื่อรู้ว่าต้องย้ายทีม เขาถึงกับหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมรับการย้ายทีม เพราะเชื่อว่านี่คงจะช่วยด้านการเงินให้กับสโมสร รวมไปถึง เบรสชา อีกทีมเก่าที่เขาแจ้งเกิดด้วย