ผีคิดให้ดี : 5 วีรกรรมชวนปวดหัวของแม่ราบิโอต์

ผีคิดให้ดี : 5 วีรกรรมชวนปวดหัวของแม่ราบิโอต์

เชื่อว่าแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงผิดหวังไม่หายกับการคุมทีมพรีเมียร์ลีกนัดแรกอย่างเป็นทางการของ เอริค เทน ฮาก หลังพาทีมพ่ายแก่ ไบรท์ตัน 1-2 คารังช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

จากผลงานช่วงพรีซีซั่น ไม่แปลกที่แฟน ‘ปีศาจแดง’ หลายคนจะคาดหวัง แต่เมื่อสะดุดล้มตั้งแต่เกมแรก ก็ชัดเจนว่าคุณภาพของผู้เล่นหลายคนในทีมยังไม่ดีพอ โดยเฉพาะในแดนกลางที่หลายคนมองว่าควรพอได้แล้วกับการใช้ เฟร็ด และ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ยืนคู่กัน

ล่าสุด ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวกับ อาเดรียง ราบิโอต์ กองกลางจาก ยูเวนตุส และมีรายงานว่ายื่นข้อเสนอไปแล้ว และคงไม่ใช่เรื่องยากในการปิดดีลนี้ แต่หลายคนก็ตั้งคำถามว่า กองกลางเฟรนช์แมน คือตัวเลือกที่เหมาะสมจริงๆหรือ เพราะฟอร์มการเล่นช่วง 3 ปีกับ ม้าลาย ก็ไม่ได้ดีหรือโดดเด่นอะไร

มากไปกว่านั้น สิ่งที่หลายคนกลัวยิ่งกว่าคือ เวโรนิก แม่แท้ๆของเขาต่างหากที่รับบทบาทเป็นเอเย่นต์ให้ลูกชาย ซึ่งมีอิทธิพลต่ออาชีพค้าแข้งของเขาแบบที่มากเกินพอดี พร้อมสร้างวีรกรรมมนุษย์ป้าจนทำให้หลายคนในวงการลูกหนังเอือมระอาส่ายหน้าหนีมานักต่อนักแล้ว

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปย้อนระลึกถึง 5 วีรกรรมหลักๆชวนปวดหัวของ เวโรนิก ตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่ ยูไนเต็ด ควรคิดดีหากคิดคว้าลูกชายของเธอมาร่วมทีมจริงๆ

 

ทำลูกชายอดย้ายไปบาร์ซ่า

Report: Rabiot Agrees To Terms With Barcelona

โดมินิค เซเวรัค ผู้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเปแอสเช เคยพูดถึง เวโรนิค อย่างน่าสนใจว่าผ่านสื่อ เลอ ปารีเซียง ว่า “เธอมีส่วนกับการตัดสินใจของเขาทุกอย่าง แถมบางเรื่องก็เป็นคนเริ่มเองด้วยซ้ำ เธอกำหนดตัวของเธอเองผ่านเขา อิทธิพลของเธอนั่นสำคัญมากๆ”

ย้อนกลับไปในช่วงที่ โรม่า ในยุคของ รูดี้ การ์เซีย พยายามมเจรจาคว้าตัว ราบิโอต์ เธอได้เข้าพบกับวอลเตอร์ ซาบาตินี่ อดีตผู้อำนวยการกีฬาของสโมสร แต่สุดท้ายการเจรจาก็ยุติลง รวมไปถึงกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส การพูดคุยก็จบลงในเวลาไม่นานด้วยเช่นกัน เนื่องจากการเรียกร้องเงินส่วนแบ่งของ เวโรนิค ที่มากเกินไปในสายตาของสโมสร

แต่ที่หนักสุดๆ จนทำให้น่าทำให้ กองกลางวัย 27 ปี อาจเสียใจภายหลัง คือดีลย้ายไป บาร์เซโลน่า โดยทีมจากสเปน ตกลงกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ได้แล้ว แต่ติดที่เงินส่วนแบ่งของคุณแม่ ที่จะเอามากกว่านี้ สุดท้าย ดีลเลยล่มไป ก่อนย้ายไป ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัวในเวลาต่อมา

 

บุกแคมป์เปแอสเช

Mercato - PSG - Véronique Rabiot : "Il n'y a pas la moindre discussion entre Leonardo et moi" - Eurosport

ย้อนกลับไปในช่วงที่ ราบิโอต์ มีอายุเพียง 15 ปี เขาถูกเชิญไปร่วมทัวร์ของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่กาตาร์ในปี 2012 แต่ก็ถอนตัวออกไปจากทีม หลังสโมสรปฏิเสธให้แม่ของเขาเดินทางร่วมทัวร์ไปด้วย โดยในช่วงที่เล่นแบบยืมตัวกับ ตูลูส อาแลง คาซาโนว่า เฮดโค้ชของทีมก็ยอมรับว่าเขาเคยปฏิเสธคำขอของ เวโรนิค เช่นกันกับการอนุญาตให้เธอเข้าชมการฝึกซ้อมทุกครั้ง

พอปี 2012 ได้สัญญาอาชีพเต็มตัวจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง แต่แทนที่จะดีใจ เวโรนิค ไปโวยใส่ผู้บริหารสโมสร บังอาจนำประวัติลูกชายไปใช้โดยพละการโดยไม่ขออนุญาตก่อน จนหลายคนงงงวย

อีกหลายปีต่อมา กองกลางชาวฝรั่งเศส ได้โอกาสเบียดขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ช่วงปี 2014 เวโรนิค ก็ดันไปมีปัญหากับ โลร็องต์ บล็องก์ กุนซือของ เปแอสเช เพราะไม่พอใจที่ลูกชายโดนดรอปไปทีมสำรอง ถึงขั้นดักรอเคลียร์ที่ลานจอดรถ จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องมาจัดการ

อีกทั้ง เธอยังเคยบุกไปแคมป์ฝึกซ้อมที่ โดฮา ประเทศกาตาร์ ช่วงที่ลูกชายของเธอ ยังเล่นกับ เปแอสเช ซึ่งนั่นทำเอาคนในสโมสรงงกันทุกคน เพราะทีมไม่อนุญาตให้นักเตะพาคนนอกเข้ามาที่แคมป์

รวมไปถึงตอนที่ กองกลางวัย 27 ปี โดนลดขั้นไปเล่นกับทีมสำรองในเดือนมกราคมปี 2019 หลังจากคำร้องของค่าเหนื่อยเพิ่มถูกปฏิเสธ เวโรนิค ก็ออกมาโวยใส่ทีมดังจากปารีส แบบชุดใหญ่ว่า “ลูกชายของฉัน เป็นตัวประกันของสโมสรนี้ ไม่นานเขาจะอยู่อย่างนักโทษ และให้ทานแค่น้ำกับขนมปังเท่านั้น”

 

วีรกรรมสมัยทีมเยาวชนเรือ

Euro 2021: Who is Veronique Rabiot, the woman at the heart of France's latest controversy? | Marca

ราบิโอต์ เคยได้โอกาสไปฝึกวิชาลูกหนังในอังกฤษช่วงสั้นๆปี 2008 โดยฟอร์มการเล่นของเขาเข้าตาแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ณ ตอนที่เล่นใน แกลร์ฟงแตน ศูนย์ฝึกเยาวชนในฝรั่งเศส

แน่นอนว่าด้วยฝีเท้าของแข้งเลือดน้ำหอมถือว่าโดดเด่น ดูมีอนาคตไม่น้อย เพียงแต่สุดท้าย เขาก็เล่นในทีมเยาวชนของ ‘เรือใบสีฟ้า’ ได้ราวๆ 6 เดือนเท่านั้น โดยเหตุผลหลักๆก็มาจากตัวของ เวโรนิค เองนั่นแหละ ที่มีข่าวว่าไปขอเงินเพิ่มในการต่อสัญญาฉบับใหม่ให้ลูกชาย แต่ ซิตี้ ปฏิเสธ จึงไม่พอใจก่อนพาลูกชายหอบข้าวของกลับฝรั่งเศสดื้อๆ

 

โทษป็อก, บับเป้ ทำตราไก่ร่วงยูโร

Adrien Rabiot's mother 'clashed with' Paul Pogba's family after Euro 2020 elimination

หลังจาก ฝรั่งเศส โดน สวิตเซอร์แลนด์ ตามตีเสมอ 3-3 ในยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ดันพลาดจุดโทษช่วงชี้ขาด ส่งผลให้ทีมแดนนาฬ่ิกาได้เข้ารอบต่อไป ส่วน ตราไก่ ที่มีดีกรีแชมป์โลกก็เก็บของกลับบ้านไปแบบผิดหวัง

อย่างไรก็ตาม เรื่องนอกสนามในวันนั้นกลับได้รับความสนใจจากแฟนบอลมากกว่า เมื่อมีกล้องจับภาพได้ว่า เวโรนิค ไปด่ากับ พ่อเอ็มบัปเป้ กับ แม่ของ ปอล ป๊อกบา หลังโทษลูกของทั้งสองว่าเป็นตัวการทำฝรั่งเศสตกรอบฟุตบอลชิงแชมป์ยุโรปในซัมเมอร์นั้น

The Athletic สื่อดังจากอังกฤษ ได้รายงานว่ามีพยานพบเห็นว่า แม่ของ ราบิโอต์ ได้มีปากเสียงกับครอบครัวของ ป็อกบา ตั้งแต่การแข่งขันปกติแล้ว โดยเฉพาะจังหวะที่ อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำพลาดจนถูก สวิตเซอร์แลนด์ ยิงประตูที่ 3

แหล่งข่าวอีกแห่งของ The Athletic ที่อยู่วงในทีมชาติฝรั่งเศสรายงานว่า “แม่ของ ราบิโอต์ เป็นที่รู้กันดีว่าเป็นคนอ่อนไหวและสนิทกับลูกชายมาก และเธอไม่ได้โอเคกับสิ่งที่เพื่อนของ ป็อกบา พูดถึงหนึ่งในตอนที่ อาเดรียง ได้สัมผัสบอล”

“ดังนั้นเธอจึงโทษป็อกบาที่เสียบอลในตำแหน่งกองกลาง (นำไปสู่ประตูที่สามของสวิตเซอร์แลนด์) จากนั้นเธอก็ไปหาพ่อของเอ็มบัปเป้: ‘คุณควรดูแลลูกชายของคุณเพราะเขาดูอวดีและได้รับการปกป้องจากสื่อมากเกินไป และฉันคิดว่าเขาหยิ่งด้วย” 

นั่นจึงกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความยุ่งเหยิง อย่างที่เธอเคยทำให้เห็นเหมือนสมัยลูกชายอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 

 

ทำเพื่อลูกชายแบบไม่สนคนรอบข้าง

Rabiot's mum is an absurd character

มิเชล พ่อของ ราบิโอต์ ซึ่งเป็นสามีของ เวโรนิค ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองในปี 2007 ทำให้เขามีอาการอยู่ในภาวะล็อคอิน ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่หายากและร้ายแรง ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อส่วนหนึ่งของก้านสมองของคุณเสียหาย

ผู้ที่มีอาการล็อคอินจะเป็นอัมพาตทั้งหมด แต่ยังมีสติและความสามารถทางปัญญาตามปกติ จากนั้นเป็นต้นมา โวโรนิค ก็เข้ามารับผิดชอบกับอาชีพของลูกชายอยู่เรื่อยมา

ความเจ็บป่วยของสามี เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ เวโรนิค มีบทบาทสำคัญในอาชีพของลูกชาย และเป็นตัวแทนของลูกชายของเธอในการเจรจาสัญญาทั้งหมด เช่นเดียวกับการพูดกับสื่อในนามของเขา

การที่ เวโรนิค จะพยายามเข้ามาจุ้นจ้าน ร้องขอผลประโยชน์ทุกอย่างแบบไม่ประนีประนอมทั้งสิ้น หลายคนก็พยายามเข้าใจได้ว่าเธอทำไปเพื่อครอบครัว เพื่อลูกชายเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม การทำเรื่องดังกล่าวโดยไม่สนใจด้วยว่า ลูกของเธอจะใช้ชีวิตในทีมอย่างไร มองหน้าเพื่อนร่วมทีมคนอื่นติดหรือไม่ ดูเป็นการทำลายชีวิตค้าแข้งลูกชายของเธอในทางอ้อม และกว่าที่เธอจะรู้ตัวในเรื่องนี้ก็อาจสายเกินไปแล้วก็เป็นได้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เอื้อทีมใหญ่?: เปลี่ยนตัว 5 คนส่งผลต่อทีมพรีเมียร์ลีกอย่างไร
เอื้อทีมใหญ่?: เปลี่ยนตัว 5 คนส่งผลต่อทีมพรีเมียร์ลีกอย่างไร