แท็กทีมยิง! 5 คู่หูที่อันตรายที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

 

ที่ผ่านมา เราได้เห็นการจับคู่ที่มีชื่อเสียงมากมายในเกมลูกหนังเมืองผู้ดี แต่คุณรู้หรือไม่ว่าคู่ไหนที่มีสถิติการยิงประตูดีที่สุดเมื่ออยู่ในสนามพร้อมกัน ?

 

แน่นอนว่าฟุตบอลคือเกมที่เล่นเป็นทีม แต่นักเตะบางรายก็โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าและยิงประตูได้มากขึ้น เมื่อได้ลงสนามเคียงข้างกับเพื่อนร่วมทีมที่ใช่โดยที่ตัวเขาเองก็อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

 

และต่อไปนี้ คือ 5 คู่พาร์ทเนอร์ที่มีสถิติการส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก โดยนับจากเวลาที่เล่นร่วมกันมากกว่า 5,000 นาที

 

เฟร์นานโด ตอร์เรส & สตีเว่น เจอร์ราร์ด

 

 

ตอร์เรส และ เจอร์ราร์ด คือสองนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ของลีกที่ผนึกกำลังกันล่าสกอร์ให้กับ ลิเวอร์พูล ในระหว่างปี 2007-2011 และการจับคู่กันของพวกเขาก็เปรียบเสมือนฝันร้ายของคู่แข่งที่ต้องเผชิญหน้า

 

ทั้งสองทำประตูรวมกันไปทั้งหมด 81 ลูก (ตอร์เรส 52 , เจอร์ราร์ด 29) และเมื่อคู่นี้ลงสนามพร้อมกัน หงส์แดงมีอัตราการได้ประตูเฉลี่ยอยู่ที่ 1.13 ประตู ต่อ 90 นาที ซึ่งดาวยิงเลือดกระทิงก็ยอมรับว่าการได้เล่นร่วมกับ สตีวี่ จี คือสิ่งที่มีค่าเหลือเกินสำหรับตัวเขา

 

“ผมมักจะพูดเสมอว่านักเตะที่ดีที่สุดที่ผมเคยเล่นด้วยคือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด” ตอร์เรส กล่าวไว้ในปี 2019 “ผมค้นพบว่าเขาเป็นนักเตะที่ช่วยเติมเต็มให้กับเกมของผม ผมคิดว่าระดับของผมทะยานเข้าสู่ต่างมิติเมื่อผมอยู่ในสนามพร้อมกับเขา”

 

“มันเป็นเวลา 3 ปีครึ่งอันน่าอัศจรรย์กับการเล่นเคียงข้าง สตีเว่น และผมก็อยากย้อนกลับไปในวันเหล่านั้น แม้เพียง 1 นาทีก็ยังดี”

 

เธียร์รี่ อองรี & โรแบร์ ปิแรส

 

 

สองแข้งเฟรนช์แมนถือเป็นส่วนสำคัญในยุครุ่งเรืองของ อาร์เซน่อล โดยทีมปืนใหญ่ชุดที่มี เธียร์รี่ อองรี เป็นหน่วยล่าสังหารในแดนหน้า และมี โรแบร์ ปิแรส ลากเลื้อยอยู่ทางปีกขวา ได้สร้างปรากฏการณ์ไร้พ่ายให้เป็นที่เลื่องลือบนแผ่นดินผู้ดีในฤดูกาล 2003-04

 

คู่หูจากแดนน้ำหอม ยิงรวมกันในลีกไปทั้งหมด 162 ประตู โดย อองรี ซัดไป 108 ลูก ส่วน ปิแรส กดไป 54 ลูก และเมื่อพวกเขาอยู่ในสนามพร้อมกัน เดอะ กันเนอร์สมีอัตราการทำประตูเฉลี่ยอยู่ที่ 1.21 ประตู ต่อ 90 นาที

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สกอร์รวมของทั้งคู่น่าจะกลายเป็น 163 ประตูไปแล้ว หากแผนการยิงจุดโทษอันแสนลึกล้ำที่พวกเขาคิดกันมาจากบ้านไม่ล่มไปซะก่อน…

 

https://twitter.com/Aubazettes/status/1054363038546124800

 

เซร์คิโอ อเกวโร่ & ราฮีม สเตอร์ลิ่ง

 

 

จากพลังทำลายล้างในเกมบุกที่เราได้เห็นกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าเซอร์ไพรส์เลยกับการที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ในลิสต์นี้

 

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2017-18 เป็นต้นมา เรือใบสีฟ้าส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายของคู่แข่งมาแล้วมากกว่า 250 ครั้ง ซึ่งทั้ง กุน อเกวโร่ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ต่างก็เป็นขุนพลที่ยืนหยัดในชาร์ต 11 คนแรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาโดยตลอด

 

เมื่อพวกเขาลงเล่นเคียงข้างกันในลีก ดาวเตะอาร์เจนไตน์จัดการทำไป 65 ประตู ขณะที่แนวรุกสิงโตคำรามซัดได้ 35 ประตู และจาก 100 ลูกที่ยิงได้รวมกัน หมายความว่าอัตราเฉลี่ยการยิงประตูของคู่นี้อยู่ที่ 1.22 ประตู ต่อ 90 นาที

 

โมฮาเหม็ด ซาลาห์ & ซาดิโอ มาเน่

 

 

พวกเขาเป็นสองดาวยิงที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกทั้งที่เล่นเป็นตัวริมเส้น และเมื่อซีซั่นก่อน ทั้งคู่ก็เพิ่งแชร์รางวัลรองเท้าทองคำกับหัวหอกจากค่ายปืนโตอย่าง ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ด้วยจำนวน 22 ประตูเท่ากัน

 

ซาลาห์ สังหารไป 50 ประตูเมื่ออยู่ในสนามพร้อมกับ มาเน่ ส่วนปีกเซเนกัล กดไป 39 ประตูในช่วงเวลาที่เล่นเคียงข้างกับสตาร์อียิปต์ ทำให้ค่าเฉลี่ยการยิงประตูเมื่อทั้งสองเล่นร่วมกันอยู่ที่ 1.26 ประตู ต่อ 90 นาที

 

“ผมมักจะบอกเสมอว่ามันง่ายมากที่จะเล่นร่วมกัน (กับ ซาลาห์ และ เฟอร์มิโน่)” มาเน่ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารทางการของ ลิเวอร์พูล ในปี 2019 “โดยส่วนตัวแล้ว ผมแค่คิดว่าตัวเองโชคดีมากที่ได้เล่นร่วมกับนักเตะชั้นยอดเหล่านั้น”

 

“นักเตะทุกคนที่เล่นเคียงข้างกับพวกเขาจะสนุกกับเกม เพราะพวกเขาเป็นนักเตะที่ดีมาก และพวกเขาทำให้ทุกอย่างดูง่ายไปเลย ดังนั้น ผมจึงแค่สนุกไปกับการเล่นเคียงข้างพวกเขา”

 

แฮร์รี่ เคน & ซน เฮือง มิน

 

 

มีคู่หูที่โด่งดังมากมายในประวัติศาสตร์ของลีกสูงสุดเมืองผู้ดี แต่จากสถิติที่ออกมา ชัดเจนว่าสองแนวรุกจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คือคู่พาร์ทเนอร์ที่อันตรายที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก

 

พวกเขายิงรวมกันได้ 103 ประตู ในช่วงเวลาที่เล่นเคียงข้างกัน โดย แฮร์รี่ เคน ทะลวงไป 67 ลูก ส่วน ซน เฮือง มิน ซัดได้ 36 ลูก ทำให้ค่าเฉลี่ยการยิงประตูของคู่นี้อยู่ที่ 1.29 ประตู ต่อ 90 นาที

 

น่าเศร้าสำหรับไก่เดือยทองที่ในตอนนี้ ทั้งสองต่างก็โดนอาการบาดเจ็บลักพาตัวออกไปจากสังเวียนแข้ง และอาจต้องรอจนถึงฤดูกาล 2020-21 เลยทีเดียวกว่าที่ทั้งคู่จะได้กลับมาเพิ่มสกอร์ร่วมกันอีกครั้ง