ฟุตบอลโลก 2022 เป็นรายการที่ต้องใช้พลังงานจากผู้เล่นสูงมากๆ ไม่ว่าในแง่ของร่างกายหรือด้านจิตใจ และการที่พรีเมียร์ลีกจะกลับมาแข่งขันกันในเร็วๆนี้ นี่จึงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับดาวดังในเวิลด์คัพที่เตรียมตัวให้พร้อมกับเกมระดับสโมสรอีกครั้ง
บอลโลกเข้าสู่ช่วงสุดท้ายแล้ว หลังหลายๆชาติต่างกลับไปบ้านเกิด โดยบางทีมต่างครุ่นคิดถึงช่วงเวลาและโอกาสที่พวกเขาทำพลาดไปที่ กาตาร์ ซึ่งความท้าทายทั้งด้านร่างกายกับ จิตใจคือสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญมันอย่างเลี่ยงไม่ได้
บางคนหวังว่าจะรักษาโมเมนตัม และฟอร์มการเล่นในเวิลด์คัพ ได้ในสโมสร โดยได้รับแรงหนุนจากประสบการณ์ที่ผ่านมา สำหรับคนอื่นๆ แม้แต่คนที่ยังกังวลใจ ก็อยากกลับคืนสู่สนามและสร้างความทรงจำใหม่ – ความทรงจำที่แตกต่างจากที่ กาตาร์ ซึ่งอาจส่งผลต่อฟอร์มการเล่นของเขาในนัดต่อๆไป
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาวิเคราะห์กันว่าแข้งจากฟุตบอลโลกหนนี้จะมีเวลาพักมาน้อยแค่ไหน รวมไปถึงความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ก่อนเตรียมตัวกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกที่กำลังจะแข่งขันกันอีกครั้งในช่วงสัปดาห์เศษๆต่อจากนี้
เวลาเตรียมตัวที่กระชั้นชิด
โดยทั่วไป หลังจบทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ มักมีเวลาน้อยที่จะหยุดและไตร่ตรอง เช่นหลังการดวลจุดโทษของอังกฤษที่พ่ายแพ้ต่ออิตาลีในนัดชิงชนะเลิศชิงยูโร 2020 ที่เวมบลีย์และเริ่มฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ก็มีเวลาห่างกันราวๆ 30 วัน
ทว่าในฟุตบอลโลกครั้งนี้ การแข่งขันบ็อกซิ่งเดย์อยู่ห่างออกไปไม่ถึงสัปดาห์ หลังทราบว่าทีมไหนได้ชูถ้วยแชมป์โลกที่ กาตาร์
ยกตัวเช่น แฮร์รี่ เคน ผู้พลาดจุดโทษสำคัญจนทำให้ อังกฤษ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย มี 3 เกมที่ สเปอร์ส ต้องบุกไปเยือนคู่แข่งจากลอนดอน หลังกลับมาจากบอลโลก และรวมไปถึงเกมเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้กับ อาร์เซน่อล
คำถามก็คือด้วยความคาดหวังจากทีมเอง เช่นเดียวกับของแฟนบอลที่มีสูงไม่แพ้กัน ผู้เล่นจะกลับมามีสมาธิได้หรือไม่เมื่อคราวต้องเล่นให้สโมสร หากทำได้จะมากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นนักเตะจากชาติที่กลับบ้านไปตั้งแต่รอบแรก หรือร่วงในรอบน็อคเอ้าท์
สโมสรไม่เคยหยุดพัก
ฟุตบอลโลกยังคงมีความสำคัญอย่างมากในปฏิทินฟุตบอล รายการนี้แสดงให้เห็นถึงความรักชาติ แต่มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆเช่นกัน ผู้เล่นต่างร่ำไห้ เมื่อทราบว่าอาการบาดเจ็บทำให้เขาอดโชว์ฝีเท้าในรายการ และมักจะร้องไห้ออกมาเช่นกัน เมื่อทีมของพวกเขาตกรอบไปไม่ถึงฝัน
แต่ถึงอย่างนั้น การแข่งขันระดับสโมสรก็ยังไม่ได้หยุดนิ่งในช่วงเวลาเดียวกัน
“ผมหวังว่าจะได้พักสักหน่อย ผมต้องเวลาลืมเรื่องฟุตบอล” ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ แนวรับทีมชาติญี่ปุ่น และ อาร์เซน่อล กล่าว หลังทัพ ‘ซามูไรบลูส์’ พ่ายช่วงดวลจุดโทษต่อ โครเอเชีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทว่าทีมของเขากำลังรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก และกำลังทำตามเป้าหมายที่วางไว้อยู่
ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ครั้งหนึ่งก็เคยยอมรับว่า เขาใช้งาน อเล็กซิส ซานเชซ เร็วเกินไป หลังผู้เล่นเพิ่งคว้าแชมป์โคปา อเมริกา กับทีมชาติชิลีมา โดยกล่าวว่า “ผู้เล่นทุกคนที่คว้าแชมป์กับทีมชาติ ต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวและกลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง”
ซานเชซ ยิงประตูไม่ได้ใน 8 เกมแรกที่กลับมา แต่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ ปืนใหญ่ ครั้งแรก ในวันที่ 43 หลังจากคว้าแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ ทว่าในตอนนี้ 43 วันหลังจาก อังกฤษ พ่าย ฝรั่งเศส ในบอลโลก หลายทีมในพรีเมียร์ลีกจะต้องลงเล่นถึง 7 เกมด้วยกัน
ขีดจำกัดทั้งร่างกายและจิตใจ
นักเตะบางส่วนก็ยังอยู่กาตาร์ โดยเฉพาะสตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่าที่ค้าแข้งในแดนผู้ดี ต่างเข้าไปรอในรอบชิงชนะเลิศแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ, คริสเตียน โรเมโร่, ฆูเลี่ยน อัลบาเรซ, เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ซึ่งการแข่งขันรายการนี้จะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าทัพ ‘ฟ้าขาว’ จะคว้าแชมป์โลกได้หรือไม่ก็ตาม
มัตเตโอ โควาซิช จาก เชลซี และ อิวาน เปริซิช จาก สเปอร์ส ได้ลงเล่นให้ทีมชาติ โครเอเชีย ทุกนัดในรอบน็อคเอ้าท์ แถมลากยาวไปถึงช่วงต่อเวลาพิเศษถึง 2 เกม กับวันที่ชนะ ญี่ปุ่น และ บราซิล ก่อนมา พ่าย อาร์เจนติน่า ในรอบตัดเชือก ความล้าน่าจะส่งผลต่อพวกเขาแน่นอนหลังกลับมาเล่นให้สโมสร
ด้าน ราฟาแอล วาราน หากได้สตาร์ทเป็นตัวจริงกับทีมชาติฝรั่งเศส ในรอบรองชนะเลิศที่ดวลกับ โมร็อกโก นี่จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริง 5 เกมใน 19 วัน ซึ่งเขาไม่เคยทำมันมาก่อนตอนที่เล่นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ไม่ว่า วาราน จะกำลังพลักดันร่างกายของเขาจนถึงขีดสุด หรือเพื่อนร่วมชาติอย่าง อูโก้ โยริส จะกำลังไล่ตามความสำเร็จด้วยการเป็นกัปตันทีมคนแรกที่ชูถ้วยแชมป์โลก 2 สมัย พวกเขาจะถึงจุดสูงสุดทางร่างกายหรือจิตใจหรือไม่เมื่อกลับมา?
นั่นเป็นส่วนหนึ่งในแผนของพวกเขาด้วยหรือเปล่า?
สมหวัง,ผิดหวังก็ต้องเดินหน้าต่อ
แผนการที่ดีที่สุดของพวกเขาตลอดทั้งปี คือพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกเขาได้สร้างฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในเวลาที่สำคัญที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดประจำซึ่งมาเมื่อมาถึงช่วงท้ายฤดูกาล ทว่าเวิลด์คัพครั้งนี้ถูกกำหนดขึ้นในช่วงกลางซีซั่น ดังนั้นผู้เล่นจึงปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม
“ฟุตบอลโลกครั้งนี้คือความหลงใหล ผมสร้างฤดูกาลของผมในการแข่งขันนี้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ผมต้องการมันตั้งแต่มาถึงแล้ว และสำหรับตอนนี้ก็ด้วย” คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวเตะจากทีมชาติฝรั่งเศส กล่าว
เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมสโมสร ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ก็ต้องการคว้าแชมป์โลกไม่แพ้กัน อาร์เจนติน่าก็ต้องการมัน ราวกับว่าชีวิตได้นำไปสู่ช่วงเวลานี้ ทว่าเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นลงแล้ว ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ความผิดหวังอาจจะเกิดขั้นกับ เมสซี่ หรือ เอ็มบัปเป้ หรืออาจจะทั้งคู่ ถึงกระนั้น เปแอสเช จะต้องโน้มน้าวให้ทั้งคู่ รักษามาตรฐานการเล่นเพื่อถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกที่พวกเขากระหายและพยายามไขว่คว้ามาตลอดหลายปี
นี่เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การบาดเจ็บดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน สำหรับ กาเบรียล เชซุส ของ อาร์เซนอล มันได้เกิดขึ้นแล้ว และ กาลาตาซารายก็ไม่น่าจะได้เห็น โรแมง ซาอิส กองหลังกัปตันทีมชาติ โมร็อกโก ลงสนามเร็วๆ นี้ หลังบาดเจ็บในเกมที่เฉือน โปรตุเกส รอบ 8 ทีมสุดท้าย
นั่นกลายเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีส่วมร่วมในกาตาร์อย่างแน่นอน เช่น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล ที่แม้พวกเขาอยากจะไปที่นั่น แต่ตอนนี้อาจได้รับผลประโยชน์จากการพลาดโอกาสนี้
สำหรับนักเตะและแฟนบอล ไม่ว่าจะเป็นความอิ่มอกอิ่มใจและความปวดใจ ฟุตบอลโลกอาจเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตได้ แต่สำหรับวงการฟุตบอลแล้วมันก็ไม่เคยหยุดนิ่งให้กับช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
