เรียกว่าเป็นไปตามที่สื่อหลายเจ้าคาดการณ์ไว้ เมื่อ เอฟเวอร์ตัน ทำการปลด แฟร้งค์ แลมพาร์ด ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมอย่างเป็นทางการ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
ตำนานแข้ง เชลซี วัย 44 ปี เข้าคุมทัพในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค เมื่อเดือนมกราคม ปี 2022 แทนที่ ราฟา เบนิเตซ ก่อนช่วยทีมที่อยู่อันดับ 16 ของตาราง รอดตกชั้นสำเร็จ
แต่ผลงานในฤดูกาลนี้ กลับย่ำแย่ไร้การพัฒนา โดยความพ่ายแพ้ต่อ เวสต์แฮม 0-2 ทำให้ทีมพ่าย 9 จาก 12 นัดหลังสุด และรั้งอันดับรองบ๊วยด้วยการมี 15 คะแนนจาก 20 นัด ดีกว่าทีมบ๊วย เซาธ์แฮมป์ตัน เพียงประตูได้เสีย ก่อนกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายกับสโมสร
นั่นทำให้ สโมสรจากเมอร์ซี่ย์ ต้องมองหากุนซือถาวรคนใหม่คนที่ 6 ในรอบ 5 ปีหลังสุด และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 5 ตัวเต็งกุนซือคนใหม่ของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน หลังจากนี้
ฌอน ไดช์
ตัวเต็งที่สื่อหลายสำนักในอังกฤษตกให้เป็นว่าที่กุนซือคนใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน คงหนีไม่พ้น ฌอน ไดช์ ที่ว่างงานตั้งแต่ช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว หลังโดน เบิร์นลี่ย์ ปลดพ้นตำแหน่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ช่วงปีสุดท้ายกับ เดอะ คลาเร็ตส์ อาจจบลงไม่สวย ทว่าผลงานโดยรวมกับทีมก็ถือว่าเป็นประจักษ์ของแฟนบอลพรีเมียร์ลีก หลังพาทีมเลื่อนชั้นถึง 2 ครั้ง พร้อมอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดถึง 6 ปีด้วย
ทว่าสิ่งหนึ่งที่อาจทำให้ ฌอน ไดซ์ ถูกตั้งคำถามก็คือสไตล์การทำทีม ที่เน้นบอลไดเร็คท์หรือการเล่นบอลแบบโบราณ ซึ่งดูตกยุคเกินไปในตอนนี้ แต่อย่างน้อยประสบการณ์พา เบิร์นลี่ย์ เอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีก น่าจะเป็นจุดที่ บอร์ดท็อฟฟี่อาจเลือกเขามารับงานช้างในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค
โอกาสรับงาน : 4/5
มาร์เซโล่ บิเอลซ่า
นอกจาก ฌอน ไดซ์ แล้ว มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่สื่อมองว่าน่าจะมีโอกาสเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ของ เอฟเวอร์ตัน หลังว่างงานมาเกือบ 1 ปีเต็ม นับตั้งแต่โดน ลีดส์ ยูไนเต็ด ปลดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022
ด้วยประสบการณ์การคุมทีมมานานกว่า 30 ปี ทำให้ เอล โลโค่ มีคุณสมบัติให้การคุม ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน พร้อมด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน เล่นเกมรุกแบบจัดเต็ม ซึ่งน่าจะถูกใจแฟนๆไม่น้อย
แต่การเล่นเกมเพรสซิ่งแบบเต็มสูบที่กุนซือชาวอาร์เจนไตน์วางไว้ ก็ถือเป็นดาบสองคมเช่นกัน เนื่องจากต้องใช้พลังงานสูงอย่างมากในการไล่กดดันคู่แข่ง ซึ่งก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าแข้งท็อฟฟี่จะปรับตัวกับแผนการเล่นของ บิเอลซ่า ได้ หากเข้ามารับงานในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค โดยมีเงื่อนไขหลักคือหนีรอดตกชั้น
โอกาสรับงาน : 4/5
เวย์น รูนี่ย์
อดีตลูกหม้อของสโมสรอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ก็มีข่าวกับทีมตั้งแต่ช่วงที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ทำผลงานได้ย่ำแย่ตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลัง แลมพ์ ถูกปลด ก็ไม่แปลกที่ชื่อของ อดีตกองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้งในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค แม้กำลังรับงานคุม ดีซี ยูไนเต็ด ก็ตาม
ผลงานที่โดดเด่นของ วาสซ่า นับตั้งแต่รับงานกุนซือคือพา ดาร์บี้ หนีรอดตกชั้นใน เดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ฤดูกาล 2020-21 ก่อนที่จะร่วงตกชั้นไปลีกวันฤดูกาลต่อมา หลังโดนหักแต้ม 21 คะแนน จากปัญหาการเงิน
อย่างไรก็ดี การหนีรอดตกชั้นในพรีเมียร์ลีก ยากกว่าแชมเปี้ยนส์ชิพ หลายเท่าตัว อาจเป็นงานที่เกินตัวเกินไปสำหรับ รูนี่ย์ จึงมีโอกาสเกิดขึ้นไม่มากนัก
โอกาสรับงาน : 3/5
ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล
แม้เพิ่งโดน เซาแธมป์ตัน ปลดในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2022 แต่ ราล์ฟ ฮาเซนฮุตเทิ่ล กลับมีชื่ออยู่ในว่าที่กุนซือใหม่ของ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ของบ่อนถูกกฎหมายจากอังกฤษด้วย แม้อัตราต่อรองจะไม่สูงก็ตาม
กุนซือชาวออสเตรีย สร้างชื่อด้วยการพาอิงโกลสตัดท์ เลื่อนชั้นมาเล่นบุนเดสลีก้าครั้งแรก รวมไปถึงพา แอร์เบ ไลป์ซิก คว้าอันดับ 2 ได้ตั้งแต่ปีแรกในลีกสูงสุดเยอรมัน และช่วง 4 ปีกับทีมนักบุญ ที่ถือว่าค้อนข้างดี หากไม่นับช่วงท้ายกับสโมสรที่โดนปลด
ส่วนสไตล์การเล่นก็เน้นการบีบพื้นที่ หรือ กีเก้นเพรสซิ่ง ที่ใช้มาตั้งแต่สมัยคุมทีมในเมืองเบียร์แล้ว ทว่าผลงานช่วงท้ายๆกับ เซาแธมป์ตัน อาจเป็นคำถามตัวโตๆที่ ฟาฮัด โมชิริ เจ้าของสโมสรและบอร์ด ต้องคิดให้ถี่ถ้วนว่าจะยื่นเสนอให้ ฮาเซนฮุตเทิ่ล ดีหรือไม่
โอกาสรับงาน : 2/5
ดันแคน เฟอร์กูสัน
ด้วยฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ พร้อมด้วยภาษากายในสนามที่ดูห่อเหี่ยว คงต้องให้กุนซือสายโหดเข้ามากระตุ้น และบางที ดันแคน เฟอร์กูสัน ตำนานอีกคนของ เอฟเวอร์ตัน อาจเหมาะสมเข้ามานั่งเก้าอี้ที่ว่างอยู่ในถิ่น กูดิสัน ปาร์ค ก็เป็นได้
จากการที่ บิ๊กดังก์ อยู่กับ ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน นานกว่า 20 ปี ทั้งในฐานะนักเตะและสต๊าฟโค้ช ทำให้เขารู้เรื่องตื้นลึกหนาบางภายในสโมสรได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเคยรับงานคุมทีมขัดตาทัพ ช่วงที่สโมสร ปลด มาร์โก ซิลวา ในปี 2019 และ ราฟาเอล เบนิเตซ ในปี 2022
ทว่าคำถามสำคัญก็คือ อดีตกองหน้าวัย 51 ปี จะรับมือไหวหรือไม่กับภารกิจพาทีมหนีตกชั้นให้ได้ในฤดูกาลนี้ เนื่องจากไม่เคยได้คุมทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวเลยแม้แต่หนเดียว
โอกาสรับงาน : 3/5
บทความที่เกี่ยวข้อง
