แม้ ลูคัส เลว่า อาจไม่ใช่นักเตะที่เก่งกาจที่สุดเท่าที่ ลิเวอร์พูล เคยมีมา หรือพาทีมคว้าแชมป์มากมาย แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นนักเตะที่แฟน ‘หงส์แดง’ ให้ความรักทั้งในตอนที่ค้าแข้งกับสโมสรหรือไม่ก็ตาม
กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน ใช้เวลา 10 ปีในถิ่น แอนฟิลด์ และย้ายไป ลาซิโอ ในปี 2017 ซึ่งในช่วงนั้นเพื่อนร่วมทีมต่างเลี้ยงส่งเขา ก่อนไปค้าแข้งในเซเรียอาด้วย
และไม่ได้สวมเสื้อ ลิเวอร์พูล แต่ ลูคัส ยังส่งแรงใจเชียร์ทีมเก่าของเขาที่อังกฤษเสมอ ซึ่งล่าสุด แข้งวัย 36 ปี ตัดสินใจแขวนสตั๊ดกับ เกรมิโอ สโมสรในบ้านเกิดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA ขอพาไปส่อง 7 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ ลูคัส เลว่า ยังเป็นที่รักและเคารพของเหล่า เดอะ ค็อป ทั่วโลก ผ่านบทความนี้
จากซีโร่สู่ฮีโร่
แฟนบอล ลิเวอร์พูล ต่างภูมิใจกับเสียงเชียร์ของพวกเขาที่มีต่อผู้เล่นในทีม แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่หวั่นเกรงที่จะบอกเช่นกัน หากมีนักเตะคนไหนทำผลงานได้ไม่ดีพอมาตรฐานที่ควรจะเป็น
ลูคัส เลว่า ก็เป็นนักเตะประเภทนั้นในช่วงแรกๆที่เขาย้ายมาเล่นกับ ลิเวอร์พูล พร้อมถูกเสียงโห่จากแฟนๆในแอนฟิลด์ หลังเกมที่เสมอกับ ฟูแล่ม 0-0 ปี 2008 แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้โกรธแค้นแต่อย่างใด
“คุณต้องเข้าใจแฟนๆ พวกเขาคาดหวังว่า ชาบี อลอนโซ่ ในเวลานั้น แต่เขากลับเป็นตัวสำรอง” กองกลางบราซิลเลี่ยน กล่าว
“รูปเกมไม่ดีนัก เราทำได้ไม่ดีนัก ดังนั้นผมจึงเข้าใจว่าการเล่นให้ดีเป็นทางเดียวที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้”
ด้าน ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือของทีมในตอนนั้นก็ออกมาพูดว่า “ผู้คนยังไม่รู้ว่า ลูคัส มีดีแค่ไหน” ซึ่งสิ่งที่กุนซือชาวสแปนิชพูดไว้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง เพราะอีก 2 ปีต่อมา ลูคัส ก็คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร
แม้เขาจะยกระดับตัวเองให้ดีขึ้นในเวลาต่อมา แต่น่าเสียดายที่ความสำเร็จเดียวที่เกิดขึ้นกับสโมสรคือแชมป์ลีก คัพ ในปี 2011 เท่านั้น
ผู้นำตัวจริง
แม้ดูเผินๆอาจมองว่า นักเตะลิเวอร์พูล ถูกบังคับให้มายืนหน้าเฟรมกล้องร่วมกัน แต่ความจริงแล้ว พวกเขาต่างเต็มใจมาบอกลา เลว่า ที่กำลังจะลาทีมในปี 2017
ในฐานะผู้เล่นที่อยู่ได้นานที่สุด ลูคัสมักจะเป็นคนที่เห็นนักเตะหน้าใหม่เข้ามาเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นต่างชาติ และนักเตะอังกฤษอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมคนปัจจุบัน หรือใครอีกหลายคน
เฮนโด้ กล่าวว่า: “ใครก็ตามที่เข้าร่วมสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ สถานะหรือประสบการณ์ใด ใครก็ตามที่กำลังมองหาแบบอย่างหรือตัวอย่างเพื่อทำตาม สำหรับผมแล้ว ไม่มีใครมีไปมากกว่าลูคัส เลว่า แล้ว”
“ไม่สำคัญสำหรับ ลูคัส ว่าคุณจะมาจากรันคอร์นหรือริโอ เขาจะหาเวลาให้คุณและพยายามเสนอประสบการณ์ของเขาเพื่อช่วยเหลือบางคนหรือทีมเมื่อจำเป็น”
เปลี่ยนบทบาทเพื่อทีมถึง 2 หน
‘เข้าข้างตัวเองทุกครั้ง’. นั่นคือคำขวัญของ บิลลี่ เบรมเนอร์ ตำนานกองกลาง ลีดส์ ยูไนเต็ด แต่สามารถนำไปใช้กับมุมมองของ ลูคัส ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
มันอาจยากที่เชื่อในตอนนี้ แต่ ลูคัส ย้ายมา ลิเวอร์พูล ในฐานะกองกลางตัวรุก ที่มีพร้อมทั้งลูกจ่ายที่ครบเครื่อง การสร้างสรรค์ หรือพละกำลังที่ต่างจากนักเตะบราซิลเลี่ยนส่วนใหญ่ ณ เวลานั้น
แต่ต่อมา เบนิเตซ ก็ขยับเขาลงไปเล่นเป็นกองกลางตัวรับ หรือตัวโฮลด์บอล ซึ่งโดดเด่นจนกลายเป็นตัวหลักในทัพ ‘หงส์แดง’ ยิ่งกว่าตอนเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์เสียอีก ทว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นยังไม่จบลง เมื่อเขาถูกถอยลงไปเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็ค แถมทำได้ดีเกินคาด จน แอนดี้ แคร์โรล สมัยที่เล่นให้ นิวคาสเซิ่ล ต้องออกปากชมเลย
“โอ้พระเจ้า เขาเล่นเป็นกองหลังดวลกับเรา ผมไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ทุกครั้งที่ผมได้บอล เขาจะแซะผมอยู่บ้าง ผู้ตัดสินก็ไม่เคยเปาฟาวล์เลย และผมไม่เคยอยากให้ฟาวล์ แต่เขาทำแบบนั้นกับผมทุกครั้ง”
“เขาอ่านผมได้อยู่หมัด ทำให้ผมเสียสมดุล ผมจึงแผลงฤทธิ์ยามเจอเขาไม่ออกเลย”
ไม่ถอดใจง่ายๆ
แม้ลูคัส เลว่า จะค่อยๆทำผลงานกับ ลิเวอร์พูล จนดีขึ้นตามลำดับ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ตกเป็นข่าวว่าจะย้ายออกจากถิ่น แอนฟิลด์ นับครั้งไม่ถ้วนตลอดช่วง 10 ปีกับสโมสร ทว่าเขาก็เลือกขอสู้ต่อ ไม่ย้ายไปไหน
คริสเตียน เพอร์สโลว์ ผู้อำนวยการของ ลิเวอร์พูล ในตอนนั้น ได้ต้อนรับ รอย ฮอดจ์สัน เข้ามาเป็นกุนซือใหม่ในปี 2010 และบอกให้เขาขาย ลูคัส ก่อนดึง คริสเตียน โพลเซ่น เข้ามาแทนที่ตำแหน่งของ แข้งบราซิลเลี่ยน ซึ่งจริงๆแล้ว กุนซือถึง 5 คนของ ‘หงส์แดง’ ในช่วงที่ ลูคัส เล่นให้ทีม ต่างซื้อนักเตะใหม่เพื่อมาแทนที่เขาทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม แม้มีโอกาสย้ายไปทั้ง อินเตอร์ มิลาน, นาโปลี, เบซิคตัส หรือ กาลาตาซาราย ลูคัส ก็ยังเลือกที่จะอยู่ และสู้ต่อเพื่อตำแหน่งในทีม
ในที่สุด ลูคัส ก็ลาทีมในฐานะนักเตะที่อยู่ ‘หงส์แดง’ นานที่สุด ณ เวลานั้น โดยเป็นนักเตะต่างชาติที่อยู่กับนานที่สุดเป็นอันดับที่ 5 โดยมีเพียงแต่ 4 คนเท่านั้นที่อยู่นานกว่าเขา (อาร์เธอร์ รีลี่ย์,เบอร์รี่ นูเวนฮุยส์, บรูซ กร็อบเบลลาร์ และ แยน โมลบี้)
ฟอร์มโคตรดีก็มีเหมือนกัน
หลังจากคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสรและเซ็นสัญญาฉบับใหม่เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว ฤดูกาล 2011-12 กลายเป็นปีที่ ลูคัส โดดเด่นสุดๆ
อันที่จริง ฟอร์มของเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนในเดือนพฤศจิกายนด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น แมนออฟเดอะแมตช์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์ ชนิดที่ว่าเก็บ ยายา ตูเร่ ไว้ในกระเป๋าจนทำอะไรไม่ถนัดเลย
แต่เพียงไม่กี่วันต่อมา ระหว่างเกมลีก คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศที่ ‘หงส์แดง’ ชนะ เชลซี กองกลางแซมบ้า ก็ปิดเทอมก่อนใคร เมื่อบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าหลังปะทะกับไรอัน เบอร์ทรานด์
ลูคัส ไม่เคยคืนฟอร์มเก่งเหมือนช่วงเวลาก่อนหน้านั้นได้เลย แม้เขาหวังว่าจะกลับมาได้ในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งเป็นช่วงที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์สเข้ามาแทนที่ เคนนี่ ดัลกลิช แต่อดีตกุนซือ สวอนซี ก็ดึงโจ อัลเลน ศิษย์เก่าจาก ‘หงส์ขาว’ เข้ามาทันที
นูริ ซาฮิน ก็ตามมา, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็เช่นกัน ขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็ถูกวางไว้เป็นตัวเลือกแรกอยู่แล้ว เมื่อรวมกองกลางที่มี ทำให้ เลว่า กลายเป็นตัวเลือกที่ 5 ของทีม แต่แทนที่จะโอดครวญกับโอกาสที่อาจมีไม่มาก เขาก้มหน้าลงและทำตัวให้มีประโยชน์อีกครั้ง
เกมรับแจ่มแม้ยิงห่วย
แม้ว่าเขาจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกก่อนที่เขาจะมาร่วมทีมลิเวอร์พูล แต่ลูคัสก็รู้ถึงขีดจำกัดของตัวเอง
“ในอังกฤษ เมื่อคนที่นี่คิดถึงนักเตะบราซิลเลี่ยน พวกเขาจะถึงนักเตะที่ทักษะแพรวพราวแบบ โรบินโญ่ หรือ โรนัลดินโญ่” เจ้าของเบอร์ 21 ในรั้วแอนฟิลด์ กล่าวกับ The Independent เมื่อปี 2008
“แต่เราไม่ลืมว่าเรามีผู้เล่นดีๆในบราซิล ที่ทำสิ่งที่แตกต่างจากนี้ ผมเป็นกองกลาง และผมก็ทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอก”
การจบสกอร์ ไม่ใช่จุดแข็งของเขาเช่นกัน เพราะ 10 ปีในทีม เขาทำได้แค่ 7 ลูกเท่านั้น แม้แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ หงส์แดง คนปัจจุบัน ก็เคยหัวเราะลั่นข้างสนามมาแล้ว หลังเห็นการยิงของ ลูคัส แต่หากเป็นเรื่องการเล่นเกมรับ ทั้งการดึงจังหวะคู่แข่ง, การชะลอเกม, เข้าปะทะ หรือแย่งบอล เขาทำได้ดีไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
สเก๊าเซอร์พันธุ์แซมบ้า
ลูคัสเข้าใจความหมายของการเล่นให้ลิเวอร์พูล เขาเข้าใจถึงความสำคัญของสโมสรที่มีต่อเมืองนี้ และถือเป็นสิทธิพิเศษที่ได้สวมเสื้อสีแดงแดงฤทธิ์
ลูคัส ก็ไม่ต่างกับ กับ แยน โมลบี้ แข้งชาวต่างชาติที่เล่นให้ ‘หงส์แดง’ มายาวนาน ที่โอบรับความเป็นสเก๊าเซอร์อย่างเต็มใจ ทั้งสำเนียงการพูดหรือชีวิตความเป็นอยู่ อีกทั้งลูกๆของเขายังเกิดในลิเวอร์พูล โดยลูกชายเล่นให้กับทีมอคาเดมี่ของสโมสร และเขาก็เป็นทูตให้กับมูลนิธิของ ลิเวอร์พูล ด้วย
สำหรับทุกสิ่งที่ลิเวอร์พูลมอบให้กับลูคัส เขาก็พยายามอย่างเต็มที่เท่าเพื่อตอบแทนสิ่งนั้นกลับคืนให้สโมสรที่เขารักเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง
