โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เลือกลา บาเยิร์น มิวนิค เพื่อย้ายมาหาความท้าทายใหม่กับ บาร์เซโลน่า ในซัมเมอร์นี้ ด้วยค่าตัวราวๆ 45 ล้านยูโร หลังจากยืดเยื้อไปมาอยู่ช่วงหนึ่ง
ไม่มีใครปฏิเสธความยอดเยี่ยมของยอดดาวยิงทีมชาติโปแลนด์ โดยเฉพาะช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุดที่มีค่าเฉลี่ยยิงได้เกิน 1 ลูกต่อเกม ก่อนประกาศลา บาเยิร์น และได้ย้ายไปเล่นกับ ‘อาซูลกราน่า’ สมใจ
หลังจากที่ได้ประเดิมสนามนัดแรกให้กับ อาซูลกราน่า ในวันที่ 13 สิงหาคม เลวี่ ก็กลายเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมในทันที ขณะที่ฟอร์มการถล่มประตูก็ยังร้อนแรงต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดก็กดเพิ่มอีก 2 ประตูในเกมถล่ม เอลเช่ 3-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เท่ากับว่าตอนนี้เขายิงไปแล้ว 11 ประตูจากการลงเล่นให้ 8 นัดในทุกรายการ
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 10 สถิติสุดยอดที่ เลวานดอฟสกี้ ทำให้นับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่น คัมป์ นู โดยอ้างอิงจากสื่อลูกหนังทั้ง WhoScored, ESPN, Squawka และ Invictos ผ่านบทความชิ้นนี้กัน
อย่าให้เครื่องติด
เลวานดอฟสกี้ อาจเริ่มต้นได้อย่างเชื่องช้า หลังไม่สามารถทำประตูได้ในเกมลาลีก้านัดแรกของฤดูกาลที่เสมอกับ ราโย บาเยกาโน่ แบบไร้สกอร์ และได้รับค่าเฉลี่ยคะแนนในเกมนั้นเพียง 6.41 จาก WhoScored เท่านั้น
ดูเหมือน เลวี่ คงเก็บเรื่องนี้ไปคิดเหมือนกัน เพราะนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาก็กดไป 11 ประตูจากการลงเล่นเพียง 8 เกม รวมทั้งในลาลีก้า และ แชมเปี้ยนส์ลีก
ยิงทุกๆเกือบครบชั่วโมง
ดาวเตะชาวโปล ลงเล่นไปทั้งหมด 629 นาทีทั้งในลาลีก้า และ แชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ นั่นหมายความว่าเขามีค่าเฉลี่ยทำประตูทุกลูกต่อการลงเล่นทุกๆ 57.2 นาทีในทุกรายการ
พูดง่ายๆก็คือ เลวี่ จะยิงให้ บาร์ซ่า จากการลงเล่นเกือบๆครบ 1 ชั่วโมง
ยิงหรือจ่ายได้เพียง 48 นาที
เพิ่มเติมจากประตูเหล่านั้น กองหน้าวัย 34 ปี ทำไปทั้งหมด 2 แอสซิสต์ ดังนั้น หมายความว่าเขาจะมีค่าเฉลี่ยในการมีส่วนร่วมกับประตูทั้งยิงหรือจ่าย จากการลงเล่นเพียง 48.4 นาทีเท่านั้น
หากอธิบายให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นก็คือ เลวี่ จะยิงหรือจ่ายได้ หลังจากเริ่มต้นครึ่งหลังได้เพียง 3 นาทีเท่านั้น
3 แฮตทริกให้ 3 สโมสรใน UCL
ในเกมพบ วิคตอเรีย เพลเซ่น ณ ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก การที่ บาร์เซโลน่า สามารถเอาชนะทีมจากเสาธารณรัฐเช็กได้ด้วยสกอร์ 5-1 ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเท่าไหร่ เช่นเดียวกับการที่ เลวานดอฟสกี้ สามารถทำแฮตทริกได้ในเกมนั้นด้วย
ทว่า 3 เม็ดที่ เลวี่ ทำได้ในเกมวันนั้นทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกใน UCL ที่สามารถทำแฮตทริกได้จากการลงเล่นให้ 3 สโมสรแตกต่างกัน (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, บาเยิร์น มิวนิค และ บาร์เซโลน่า)
ซัด 2 ประตูนัดที่ 21 ในบอลยุโรป
ยังไม่จบกับเกมพบ วิคตอเรีย เพลเซ่น เพราะนั่นคือครั้งที่ 21 ที่หอกทีมชาติโปแลนด์ ยิงได้มากกว่า 2 ประตู ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก นับตั้งแต่เดบิวต์ในฟุตบอลถ้วยใหญ่ยุโรป เมื่อฤดูกาล 2011-12
มีเพียง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (31) และ ลิโอเนล เมสซี่ (26 )เท่านั้น ที่มีสถิติด้านนี้เหนือกว่า ยอดแข้งจาก บาร์เซโลน่า
อันดับ 3 ดาวซัลโวแชมเปี้ยนส์ลีก
3 ประตูที่ เลวี่ ทำได้ในเกมพบ วิคตอเรีย พัลเซ่น ทำให้เขาทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของดาวซัลโวตลอดกาลของศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยจำนวน 86 ลูก
ส่วนคนที่เขาเป็นรอง ตามหลังอยู่ หลายคนก็คงเดาได้ไม่ยาก เพราะก็คือ เมสซี่ ที่ยิงไปแล้ว 125 ประตู ซึ่งมีโอกาสทำเพิ่มอีก และ โรนัลโด้ ที่ทำไป 140 ประตู แต่คงยิงเพิ่มไม่ได้แน่ เพราะ แมนฯยูไนเต็ด หล่นไปเล่น ยูโรป้าลีกอยู่
ประเดิมลีกกระทิงแจ่มยิ่งกว่า CR7
สมัยที่ โรนัลโด้ ย้ายมาเล่นในสเปนครั้งแรก เขาทำผลงานยอดเยี่ยมทันที ด้วยการยิงให้ เรอัล มาดริด ได้ 5 นัดติดต่อกันในลีก ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สุดยอดแล้วในเวลานั้น
ทว่า หอกป้ายแดงของ บาร์เซโลน่า วัย 34 ปี ดูเหนือกว่านั้นเยอะเลย เพราะแม้ทำประตูเกมแรกไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาซัดไปแล้ว 8 เม็ด จากการลงเล่นในลาลีก้าฤดูกาลนี้เพียง 6 นัดเท่านั้น
อันตรายแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง
เลวี่ จัดการเหมา 2 ประตูจากการลงเล่นไป 3 เกมในลาลีก้าฤดูกาลนี้ อย่างไรก็ตาม บางทีผลงานที่น่าประทับใจที่สุดอาจเป็นเกมที่บุกไปถล่ม กาดิซ 4-0 ในเดือนกันยายนก็เป็นได้
ถึงไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่เมื่อ ชาบี เอร์นานเดซ ส่งเขาลงสนามในฐานะตัวสำรอง ก็ตอบแทนกุนซือด้วยการ ยิง 1 และ จ่ายให้เพื่อนยิงอีก 2 ลูก ทั้งๆที่ในวันนั้นเขาอยู่ในสนามเพียง 33 นาทีเท่านั้น
ติด 1 ใน 4 แข้งยิงแตะ 10 เม็ดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป
ณ เวลานี้ เลวานดอฟสกี้ เป็นนักเตะเพียงแค่ 4 คนใน 5 ลีกใหญ่ยุโรปที่สามารถยิงประตูได้มากกว่า 10 ลูกรวมทุกรายการของฤดูกาลล่าสุดนี้
นอกจากดาวเตะ บาร์ซ่า แล้ว อีก 3 คนก็ประกอบไปด้วย เนย์มาร์ กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ 2 ดาวเตะจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ หอกเด็กโหดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ยิงได้ทุกที่ ทุกสถานการณ์
การเป็นยอดกองหน้า ย่อมจำเป็นต้องประตูได้ทุกส่วน ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน และ หอกวัย 34 ปี ของ อาซูลกราน่า ก็จัดอยู่ในดาวยิงประเภทนั้น
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะเขายิงให้ทีมได้แล้ว ทั้งเท้าซ้าย, เท้าขวา และ ลูกโหม่ง รวมไปถึงยิงประตูที่ 1, 2 และ 3 ให้ทีม เช่นเดียวกับการยิงในเกมเหย้าหรือเยือน เลวี่ ก็จัดมาหมดแล้ว