ตัวใหญ่ล้มดัง : เมื่อเฟเนร์บาห์เช่เคยกลายร่างเป็นทีมหนีตกชั้น

เฟเนร์บาห์เช่ คือหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตุรกี รวมถึงได้ลงโม่แข้งในเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกแทบทุกปี แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พวกเขาแปรสภาพจากทีมลุ้นแชมป์กลายเป็นทีมหนีตกชั้นเต็มรูปแบบ

แม้คว้าแชมป์ลีกแดนไก่งวงครั้งสุดท้ายในฤดูกาล 2013-14 แต่ก็ไม่มีใครคาดว่าเจ้าของแชมป์ลีก 19 สมัย จะทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานจนน่าใจหาย ในฤดูกาล 2018-19 

“ในตอนเริ่มฤดูกาล ถ้าเราต้องเป็นเขียนถึงเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดล่ะก็ คงไม่มีใครคิดว่าเราจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้ในปัจจุบันหรอก” อาลี คอช ประธานสโมสรฟาเนบาร์เช่กล่าวในตอนนั้น

พวกเขาเคยย่ำแย่ถึงขั้นหล่นลงไปรั้งที่ 17 ตำแหน่งรองบ๊วยของลีกมาแล้ว และมีแต้มตามหลัง กาลาตาซาราย แชมป์ลีก และ อิสตันบูล บาซัคเซเฮียร์ รองแชมป์ ร่วม 20 แต้ม ยังดีที่สุดท้ายพวกเขาเร่งเครื่องดิ้นรนจนขึ้นมาจบอันดับ 6 ในตาราง

ทว่าเพราะอะไรกันถึงทำให้ครั้งหนึ่งยักษ์ใหญ่จากตุรกีต้องแปรสภาพจากทีมลุ้นแชมป์มาเป็นทีมดิ้นรนท้ายตารางเมื่อ 3 ปีก่อน

 

จุดที่ไม่คุ้นเคย

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2017-18 ฟอร์มของพวกเขาถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ แม้จะทำได้แค่ที่รองแชมป์ก็ตาม โดย เฟเนร์บาห์เช่ คว้าแชมป์ตุรกี ซุปเปอร์ลีกไปถึง 19 สมัย มีแต่กาลาตาซารายเท่านั้นที่คว้าแชมป์ลีกไปครองได้เหนือกว่าพวกเขา (21 สมัย)

อีกทั้ง ยอดทีมจากอิสตันบูล ไม่เคยตกชั้นเลยนับตั้งแต่ที่ลีกแดนไก่งวงก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1959 รวมถึงอันดับที่ต่ำที่สุดที่พวกเขาเคยทำได้ก็คืออันดับ 10 ในฤดูกาล 1980-81 และพวกเขาก็ไม่เคยหลุดท็อปโฟร์เลยนับตั้งแต่ปี 2002-03

หากนึกภาพพวกเขาไม่ออก ลองจินตนาการว่าสโมสรอย่างอาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ในโซนตกชั้นดูสิ แล้วคุณจะเข้าใจ

ดังนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ณ ตอนั้น?

 

แข้งดังต่างแดนไม่ช่วยอะไร

เมื่อก่อน ทีมดังจากรุงอิสตันบูล มักจะมีดาวดังต่างแดนมาค้าแข้งในทีมเสมอ เช่น เจย์-เจย์ โอโคชา, ปิแอร์ ฟาน ฮอยดองค์, อเล็กซ์, นิโคล่าส์ อเนลก้า, โรแบร์โต้ คาร์ลอส รวมแข้งในยุค 2010 เป็นต้นมา อย่าง เดิร์ก เค้าท์, นานี่ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ด้วย

ในฤดูกาล 2018-19 พวกเขามี มาร์ติน สเคอร์เทล อดีตแนวรับลิเวอร์พูล, โรแบร์โต้ โซลดาโด้ หัวหอกจาก บาเลนเซีย, อังเดร อายิว ปีกดีกรีทีมชาติ, อิสลาม สไลมานี่ แข้งค่าตัวสถิติของ เลสเตอร์เมื่อปี 2016 และ มาติเยอ วัลบูเอลน่า ตัวรุกร่างเล็กชาวฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม ผลงานในทีมกลับตรงกันข้ามกับคุณภาพผู้เล่นที่มี รวมถึงนักเตะในประเทศที่มีก็ได้โดดเด่นไปกว่านั้น และกว่าจะรู้ตัวอีกที พวกเขาก็หล่นไปอยู่ท้ายตารางเรียบร้อยแล้ว

บาร์จิส เอร์เตน กูรูลูกหนังแดนไก่งวงให้ความเห็นผ่านทาง บีบีซี สื่อดังในอังกฤษว่า “ทีมชุดนี้เป็นชุดที่ดูขี้เหร่ที่สุดในรอบ 20 ปีเลย คุณภาพในทีมนั้นแย่มากๆ”

“พวกเขามีผู้เล่นดาวรุ่งที่มีโอกาสโชว์ฝีเท้ามากนัก บวกกับผู้เล่นต่างชาติคุณภาพกลางๆและแข้งสูงวัยในทีมแล้ว ทำให้มันดูไม่เข้ากันเลยจริงๆ” 

 

กุนซือที่ลูกทีมไม่ให้ใจ

ฟิลิป โคคู เป็นกุนซือชาวดัชต์ที่มีผลงานแฟนบอลได้ประจักษ์มาแล้วจากการคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ 3 สมัย กับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แต่ก็ถูก เฟเนร์บาห์เช่ ปลดออกจากตำแหน่งหลังเข้ามาคุมแค่ 4 เดือน เนื่องจากพาทีมแพ้ไปถึง 5 จาก 10 เกมในลีก

เอร์เตนกล่าวต่อว่า “คุณคาดว่าจะอะไรๆจะดีขึ้นเมื่อใช้กุนซือคนอื่นหรอ? เป็ป กวาร์ดิโอล่า หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะได้ทำได้ดีกว่านี้มั้ย? ผมก็ไม่แน่ใจนะ แต่ด้วยทีมแบบนี้คุณคงคาดหวังให้เขาประสบความสำเร็จไม่ได้หรอก”

“ผลลัพธ์มันออกมาแย่มาก บอร์ดบริหารต้องการให้มันได้ผล โค้ชต้องการให้ดีกว่านี้ แต่โคคูเสียคอนเน็คชั่นกับผู้เล่นและแฟนๆไปแล้ว เขาไม่ต่างอะไรกับโชเซ่ มูรินโญ่ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรอก เขาเป็นผู้จัดการที่ดี แต่ไม่มีใครเชื่อใจเขาอีกต่อไป” 

แม้ลองเสี่ยงดัน เออร์วิน คูมัน มือขวาของ โคคู ขึ้นมารับช่วงต่อในช่วงปลายเดือนตุลาคม แต่ฟอร์มการเล่นของทีมก็หนักยิ่งกว่าเก่า ร่วงลงมาจมรองบ๊วยเป็นครั้งแรก หลังเตะไป 15 นัดในลีก

ด้วยสถานการณ์ที่ไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น ทำให้ เฟเนร์บาห์เช่ ต้องไปดึง เอร์ซุน ยานาล อดีตกุนซือของทีมกลับเข้ามารับงานที่นี่เป็นคำรบที่สองในเดือนธันวาคม

 

ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆ

ปัญหาของ เฟเนร์บาห์เช่ นั้นมาจากกฏไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ของยูฟ่าด้วย ซึ่งคอยจำกัดอำนาจในการใช้เงินเสริมทัพ รวมไปถึงควมคุมรายรับรายจ่ายของสโมสรให้อยู่ในความสมดุลด้วย

หลังหมดยุคของ อาซิส ยิลดิริม ที่รั่งตำแหน่งประธานสโมสรมา 20 ปี ทำให้ อาลี คอช เข้ามาเป็นประธานคนใหม่ในซัมเมอร์ปี 2018 และได้ไปดึง ดาร์เมี่ยน โคโมลี่ อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และลิเวอรพูลมาร่วมงานด้วย 

กฏของยูฟ่านี้ นอกจากจะจำกัดเรื่องการใช้เงินที่เกินตัวแล้ว ยังมุ่งเน้นให้สโมสรใช้นักเตะดาวรุ่งในทีมด้วย แต่ คอช หาทำเช่นนั้นไม่ 

โดยเขาบอกกับสื่อว่าสโมสรไม่สามารถทำตามกฏที่ยูฟ่าระบุไว้ได้ และอาจต้องยอมทิ้งบอลยุโรปเพื่อกลับมามุ่งมั่นกับการเป็นแชมป์ลีกในประเทศอีกครั้ง

“ในตุรกีทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสำเร็จ ไม่เหมือนไบรท์ตัน หรือ สเปอร์ ที่นี่คุณต้องเป็นแชมป์เท่านั้น” เอร์เตน กล่าวเสริม

“คอช เป็นหนึ่งในเศรษฐีที่รวยที่สุดในตุรกี แต่เขาไม่สามารถใช้เงินของตัวเองได้เพราะกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ซึ่งเขาก็เคยบอกแล้วว่าอาจจะไม่เล่นในบอลยุโรป แต่จะใช้เงินของตัวเองสร้างผู้เล่นชั้นดีมาในทีมแทน” 

 

เกือบไม่รอด

ยังคงมีเรื่องดีๆอยู่สำหรับการที่ ยานาล เข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งนายใหญ่ชาวเติร์กก็มีเป้าหมายว่าจะคว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 มาให้ได้ ซึ่งจะส่งผลให้พวกเขาคว้าดาวดวงที่ 4 มาประดับบนตราสโมสรได้

กุนซือวัย 59 ปีเคยพาทีมเมืองหลวงแดนไก่งวง คว้าแชมป์ลีกครั้งล่าสุดในฤดูกาล 2013-14 แต่ตัดสินใจลาออกเนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกันกับบอร์ดบริหารในสโมสร

ผลงานของทีมหลังวันขึ้นปีใหม่ในปี 2019 เริ่มดีขึ้น แต่มันก็ยังไม่เพียงพอให้แฟนๆมั่นใจว่าพวกเขาจะอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุด หลังอันดับยังไม่ห่างจากโซนอันตรายมากนัก

อย่างไรก็ตาม ช่วง 4 นัดสุดท้าย ยานาล ก็เค้นฟอร์มลูกทีมจนคว้าชัยชนะได้ 4 นัดรวด ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 6 หลังจบฤดูกาล

แต่ผลงานของ ยานาล ในฤดูกาลต่อมาก็ไม่ดีสมกับที่หลายคนคาดหวัง แม้ไม่แย่ถึงขั้นต้องหนีตกชั้นแบบปีก่อน แต่ก็หมดลุ้นแชมป์ตั้งแต่ไก่โห่ ก่อนแยกทางกับทีมช่วงเดือนมีนาคมปี 2020 โดย จนอันดับที่ 7 ในปีนั้น

ปัจจุบัน เฟเนร์บาห์เช่ กลับมาอยู่สถานะทีมลุ้นแชมป์อย่างที่ควรอีกครั้งในฤดูกาล 2020-21 โดยคว้าอันดับ 3 มาครอง ตามหลัง แชมป์ในปีนั้นอย่าง เบซิคตัส แค่ 2 แต้มเท่านั้น และกำลังเดินหน้าไล่ล่าแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ต่อไปในฤดูกาล 2021-22

คงยอดเยี่ยมหากพวกเขาคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ และคงเยี่ยวยาบาดแผลของแฟนๆที่เกือบเห็นทีมรักตกชั้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อ 3 ปีก่อนได้ไม่มากก็น้อย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง