เมสซี่มาแน่? : 6 แข้งคว้าบัลลงดอร์หลังฟอร์มแจ่มในบอลโลก

เมสซี่มาแน่? : 6 แข้งคว้าบัลลงดอร์หลังฟอร์มแจ่มในบอลโลก

ลิโอเนล เมสซี่ เป็นนักเตะผู้ครองรางวัลบัลลงดอร์ มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวน 7 สมัย และหลายคนคิดว่าเขาน่าจะยุติการคว้ารางวัลดังกล่าวเพียงเท่านี้ หลังพลาดมีชื่อเข้าชิงในปี 2022 ที่ คาริม เบนเซม่า คว้ารางวัลไปครอง

นี่ยังเป็นครั้งแรกที่ ดาวเตะอัจฉริยะร่างเล็ก พลาดมีชื่อเข้าชิง นับตั้งแต่ปี 2005 ทว่าหลายคนมั่นใจว่า เมสซี่ อาจคว้ารางวัลนี้เป็นสมัยที่ 8 หลังพาทีมชาติอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก มาครองอย่างยิ่งใหญ่ หลังเอาชนะ ฝรั่งเศส ด้วยการดวลจุดโทษในนัดชิงชนะเลิศที่ กาตาร์

ในอดีตที่ผ่านมา ใครก็ตามที่ฉายแสงโดดเด่นในเวทีเวิลด์ คัพ ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศหรือคว้าแชมป์มาครอง ส่วนใหญ่มักจะได้คว้าเกียรติยศส่วนตัวนี้มาครอง และก่อนที่ เมสซี่ จะคว้ารางวัลนี้เป็นหนที่ 8 ในปีหน้า UFA ARENA ขอพาไปพบกับ 6 แข้งคว้าบัลลงดอร์หลังฟอร์มแจ่มในบอลโลกผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

ลูก้า โมดริช (2018)

Luka Modric wins World Cup Golden Ball as Mbappe and Courtois also honoured

ช่วงก่อนหน้านี้ร่วม 10 ปี เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต่างผลัดกันคว้าบัลลงดอร์มาครอง จนหลายคนเห็นจนชินตา แต่ทว่าในปี 2018 ลูก้า โมดริช กลายเป็นผู้เล่นคนแรกในรอบทศวรรษที่คว้ารางวัลนี้ไปครองนอกจาก 2 ยอดแข้งแห่งยุค

กองกลางทีมชาติโครเอเชีย พาบ้านเกิดไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้พ่ายให้กับ ฝรั่งเศส ไป แต่เขาก็คู่ควรกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์ที่ รัสเซีย อีกทั้งยังพา เรอัล มาดริด ต้นสังกัดคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้ 3 ปีติดอีก

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่ในปลายปีนี้ หลายคนจะเทใจให้ กองกลางโครแอต คว้าบัลลงดอร์ไปครองแบบไร้ข้อกังขาใดๆ

 

ฟาบิโอ คันนาวาโร่ (2006)

Azzurri return home in triumph | European Qualifiers | UEFA.com

ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เป็นกำลังสำคัญที่พา อิตาลี คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 ได้ในเยอรมัน เมื่อปี 2006 โดยที่เขาได้ลงเล่นทุกนาทีในทัวร์นาเม้นต์ พร้อมช่วยให้ อัซซูรี่ ไม่เสียประตูจากลูกโอเพ่นเพลย์อีกด้วย

ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในเวิลด์ คัพ ครั้งนั้นทำให้ กองหลังชาวอิตาเลี่ยน ได้ย้ายจาก ยูเวนตุส ไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในช่วงซัมเมอร์นั้นด้วย ก่อนที่ช่วงปลายปีนั้นจะคว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปครองในช่วงปลายปี

น่าเสียดายทีชีวิตค้าแข้งหลังจากนั้นของ คันนาฯ ไม่สวยงามเท่าไหร่ เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ตกลงตามวัย แม้ย้ายกลับไปยูเวนตุสอีกครั้ง ก็ไม่ช่วยให้ฟอร์มดีขึ้น ก่อนย้ายไปแขวนสตั๊ดกับ อัล-อาห์ลี ในฤดูกาล 2010-11

 

โรนัลโด้ (2002)

Ronaldo's redemption: recalling the Brazil striker's World Cup fairytale 15  years on | Brazil | The Guardian

โรนัลโด้ กลายเป็นนักเตะคนแรกจาก อเมริกาใต้ ที่คว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปี 1997 หลังระเบิดฟอร์มสุดปังกับ 1 ฤดูกาลใน บาร์เซโลน่า และย้ายไปร่วมทัพ อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวสถิติโลก

ทว่าอาการบาดเจ็บที่รบกวนบริเวณหัวเข่า ทำให้ R9 ฟอร์มหล่นไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็หายทันช่วยทีมชาติบราซิล ลุยฟุตบอลโลก ปี 2002 ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม

ในเวิลด์คัพปีนั้น เจ้าฉายา ‘โล้นทองคำ’ ระเบิดฟอร์มเก่งอีกครั้ง จนพาทัพ เซเลเซา คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 5 พร้อมคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของรายการ และดาวซัลโว หลังซัดไป 8 ประตูในทัวร์นาเม้นต์นั้น 

นั่นทำให้ โรนัลโด้ คว้าบัลลงดอร์มาครองเป็นสมัยที่ 2 ก่อนที่ได้ย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ในยุคกาลาติกอส ในเวลาต่อมา

 

ซีเนดีน ซีดาน (1998)

Zinedine Zidane Goal 45'+1' | Brazil vs France | 1998 FIFA World Cup France™

แม้ โรนัลโด้ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลกปี 1998 ที่ฝรั่งเศส แต่ ซีเนดีน ซีดาน คือนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมกระเทียมทอง ด้วยการพา ‘ตราไก่’ คว้าแชมป์โลกมาครองเป็นสมัยแรก ด้วยการอัดทัพ เซเลเซา ของ R9 ในนัดชิงถึง 3-0

หลังจากนั้น ซิซู ก็คว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปครองแบบเห็นพ้องต้องกันทั่วโลก และจากนั้นชีวิตค้าแข้งของเขาก็ทะยานขึ้นไปอีก ทั้งการพา ฝรั่งเศส คว้าแชมป์ยูโรในปี 2000 หรือพาเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2002 ด้วยลูกวอลเลย์สุดคลาสสิตในนัดชิงชนะเลิศที่ดวลกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

 

ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ (1994)

FIFA World Cup on Twitter: "1994 #WorldCup hero Hristo Stoichkov turns 50  today! WATCH: https://t.co/6sA8sYEg0H READ: https://t.co/U6AZIcS5L4  https://t.co/reVsp5y36P" / Twitter

ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ ยกระดับตัวเองให้กลายเป็นนักเตะระดับโลก ตั้งแต่ก่อนเข้าร่วมในฟุตบอลโลกปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา แล้วว หลังซัดไปเกิน 100 ประตู และคว้าแชมป์ลาลีก้า 4 ปีติดใน บาร์เซโลน่า ยุคดรีมทีมที่มี โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นกุนซือ

ทว่าตอนก่อนไปลุยเวิลด์คัพกับทีมชาติบัลแกเรีย เขาต้องเจ็บปวดไม่น้อย หลัง บาร์ซ่า พ่ายให้กับ เอซี มิลาน ของฟาบิโอ คาเปลโล่ ด้วยสกอร์ 4-0 ในแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงปีนั้น 

อย่างไรก็ตาม สตอยช์คอฟ ก็ใช้ความเจ็บปวดเป็นแรงผลักดันจนยิงกระจายถึง 6 ลูก พร้อมพาทีมบ้านเกิดทะลุไปเล่นรอบตัดเชือกอย่างเหลือเชื่อ ก่อนคว้ารางวัลดาวซัลโวร่วมกับ โอเล็ก ซาเลนโก้ จากนั้นก็คว้าบัลลงดอร์ในเวลาต่อมา

โดยอันดับที่ 2 ในปีนั้นคือ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ซึ่ง เจ้าของฉายา ‘เทพบุตรเปียทองคำ’ น่าจะคว้ารางวัลนี้ไปครองแน่นอน หากว่าเขาไม่พลาดจุดโทษช่วงชี้ขาดในเกมนัดชิงบอลโลกที่พ่ายให้กับ บราซิล

 

โลธาร์ มัทเธอุส (1990)

Matthaus: I was afraid of dropping the trophy

โลธาร์ มัทเธอุส คือนักเตะที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ กับ 25 นัดจาก 5 สมัย ก่อนถูกทำลายโดย ลิโอเนล เมสซี่ ในปี 2022 หลังลงเล่นในนัดที่ 26 อย่างไรก็ตามปี 1990 คือช่วงเวลาที่เจ้าของฉายา ‘ซูเปอร์แมน’ โดดเด่นอย่างแท้จริง

แม้ว่า ซัลวาตอเร่ สคิลาชี่ ดาวยิงทีมชาติอิตาลีทีมเจ้าภาพ จะคว้านักเตะยอดเยี่ยมและดาวซัลโว (6 ประตู) ในฟุตบอลโลกปีนั้น แต่ มัทเธอุส คือกัปตันทีมชาติเยอรมัน ผู้ได้สัมผัสแชมป์โลกไปครอง

โดยในนัดชิงวันนั้น เขาคือคนที่จัดการ ดีเอโก้ มาราโดน่า ดาวเตะของ อาร์เจนติน่า จนแผลงฤทธิ์ไม่ออก ในเกมนัดชิงชนะเลิศที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ก่อนเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ลิซานโดรคนล่าสุด : 5 แข้งปีศาจแดงผู้คว้าแชมป์โลก
ลิซานโดรคนล่าสุด : 5 แข้งปีศาจแดงผู้คว้าแชมป์โลก