เป็นนายแบบ,จบบริหารธุรกิจ,… : 10 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับ “โธมัส ทูเคิ่ล”

หลังจากสั่งเด้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด เพียงไม่กี่อึดใจ เชลซี ก็ประกาศแต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาเป็นเฮ้ดโค้ชคนใหม่ของทีมทันที ด้วยสัญญาระยะเวลา 18 เดือน พ่วงออปชั่นขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี

 

ทูเคิ่ล กลายเป็นกุนซือคนที่ 15 ในยุคของ โรมัน อับราโมวิช และเป็นเทรนเนอร์ชาวเยอรมันคนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร โดยนายใหญ่วัย 47 ปี เข้ามาพร้อมกับประสบการณ์การคุมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 2 ฤดูกาล และคุมปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2 ฤดูกาลครึ่ง ซึ่งในช่วงเวลาที่กุมบังเหียนเปแอสเช เขาพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกเอิงได้ทั้ง 2 ซีซั่น ทั้งยังนำทีมทะลุเข้าไปถึงรอบชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

 

ด้วยชั่วโมงบินในวงการลูกหนังที่สั่งสมมา เชื่อว่าน้อยคนที่จะไม่รู้จัก ทูเคิ่ล แต่ถ้านอกเหนือจากเรื่องในสนามล่ะ? คุณรู้หรือเปล่าว่ากุนซือคนใหม่บนถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์มีอะไรอีกบ้างที่น่าสนใจ

 

นายแบบนิตยสาร

 

ในปี 2017 ทูเคิ่ล ถ่ายแบบให้กับนิตยสารผู้ชายของเยอรมันที่มีชื่อว่า “Die Zeit” โดยมีโลเคชั่นเป็นที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งในขณะนั้น เป็นช่วงเวลาที่เขาเพิ่งถูก ดอร์ทมุนด์ ปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากพาทีมคว้าแชมป์เดเอฟเบ โพคาลมาได้แค่ไม่กี่วัน

 

 

แขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร

 

ทูเคิ่ล เคยฝึกฝีเท้าอยู่กับทีมเยาวชนของ เอาก์สบวร์ก ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเล่นในระดับอาชีพกับ สตุ๊ตต์การ์เทอร์ คิกเกอร์ส ทีมในบุนเดสลีก้า 2 และ เอสเอสวี อูล์ม ทีมในบุนเดสลีก้า 3 ทว่าด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่า ทำให้เขาต้องยุติเส้นทางการค้าแข้งด้วยวัยเพียง 24 ปี

 

จบปริญญาด้านธุรกิจ

 

หลังจากแขวนสตั๊ด ทูเคิ่ล ก็เข้าเรียนสาขาบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมัน

 

 

ทำงานเสริมในบาร์

 

ในขณะที่ ทูเคิ่ล กำลังร่ำเรียนศาสตร์ด้านธุรกิจ เขาหารายได้เสริมด้วยการทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ควบคู่ไปด้วย และมันก็เป็นหนึ่งในประสบการณ์ชีวิตเล็กๆที่ช่วยให้เขามีวันนี้

 

“ผมค่อยๆพัฒนาความมั่นใจของตัวเองขึ้นใหม่ในบาร์ ทำงานกะแล้วกะเล่า ทำงานคืนแล้วคืนเล่า” ทูเคิ่ล ให้สัมภาษณ์กับ ZEITmagazin MANN “ผมต้องก้าวข้ามความกังวลในการเริ่มพูดคุยกับคนแปลกหน้า ถามพวกเขาว่าพวกเขาต้องการให้ผมช่วยอะไรไหม”

 

ราล์ฟ รังนิกผู้ดึง ทูเคิ่ล เข้าสู่เส้นทางโค้ช

 

ทูเคิ่ล พยายามที่จะกลับมาเล่นฟุตบอลอีกครั้ง โดยการติดต่อไปหา รังนิก อดีตเจ้านายที่เคยร่วมงานกันที่สโมสรอูล์ม ซึ่งในขณะนั้นคุมสตุ๊ตการ์ทอยู่ แต่ปัญหาเดิมที่หัวเข่าทำให้แผนการคัมแบ็คของเขาต้องล้มเหลวไป อย่างไรก็ตาม รังนิก ได้โน้มน้าวให้ ทูเคิ่ล ผันตัวมารับงานโค้ชทีมเยาวชนของม้าขาว และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในอาชีพกุนซือของเขา

 

 

สร้างชื่อที่ ไมนซ์ 05

 

เดือนสิงหาคมปี 2009 ทูเคิ่ล ในวัย 35 ปีได้ก้าวขึ้นมากุมบังเหียนทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกกับ ไมนซ์ โดยเป็นการเข้ามาสานงานต่อจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ย้ายไปคุมดอร์ทมุนด์ และเขาก็พาทีมเล็กๆทีมนี้ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญกว่าเรื่องของความสำเร็จ คือสไตล์การเล่นอันน่าตื่นเต้นที่ ทูเคิ่ล นำเข้ามาติดตั้งให้กับสโมสร ซึ่งนั่นทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นวงกว้าง ก่อนที่จะถูกดึงเข้ามาเป็นนายใหญ่คนใหม่บนถิ่นซิกนัล อิดูน่า พาร์คในปี 2015 และมันก็เป็นอีกครั้งที่เขารับไม้ต่อจาก คล็อปป์

 

ข้อความจาก เจอร์เก้น คล็อปป์

 

“ผู้จัดการทีมที่น่าอัศจรรย์ และน่าอัศจรรย์” คล็อปป์ บอกกับ Get French Football News “คุณสามารถเห็นอิทธิพลของเขาอย่างแท้จริง สไตล์การเล่นของพวกเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก วิธีที่พวกเขาเล่น ระบบการเล่นที่แตกต่าง และอะไรทำนองนั้น ผมรู้จักหลายคนที่เคยร่วมงานกับเขา พวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความเคารพในตัวเขา”

 

 

ฟางเส้นสุดท้ายกับ เปแอสเช

 

ทูเคิ่ล ถูก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไล่ออกในช่วงคริสต์มาสอีฟปีที่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อของเยอรมันอย่าง Sport1 ว่า “ในช่วง 6 เดือนแรก ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองยังเป็นโค้ชอยู่ หรือเป็นนักการเมืองในวงการกีฬา หรือเป็นรัฐมนตรีกระทรวงกีฬา ตอนนี้บทบาทโค้ชของผมในสโมสรอยู่ที่ไหน?

 

เชื่อกันว่าเรื่องนี้นี่แหละที่เป็นจุดแตกหักระหว่าง ทูเคิ่ล กับผู้อำนวยการกีฬาอย่าง เลโอนาร์โด้ รวมถึงบอร์ดบริหารของสโมสร แม้ว่าหลังจากนั้นไม่นานเขาจะออกมาแก้ต่างว่าเกิดจากการ “แปลความหมายผิด” ก็ตาม

 

 

มีทีมงานของตัวเอง

 

ทูเคิ่ล มีทีมงานส่วนตัวที่ต้องหนีบไปด้วยเสมอในทุกๆที่ ประกอบไปด้วยนักวิเคราะห์วิดีโอ , ผู้ช่วยโค้ช (มือขวา) , โค้ชฟิตเนส และผู้เชี่ยวชาญการเล่นลูกตั้งเตะ ซึ่งก็น่าสนใจเหมือนกันว่าหลังจากนี้ เชลซี จะเปลี่ยนไปอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความฟิตของนักเตะ และประสิทธิภาพในการเล่นลูกเซ็ตพีช

 

เมินโอกาสคุม บาเยิร์น มิวนิค

 

ในปี 2018 ทูเคิ่ล ปฏิเสธโอกาสที่โค้ชชาวเยอรมันหลายคนได้แต่ฝันถึง นั่นคือการกุมบังเหียนสโมสรอันดับ 1 ของประเทศอย่าง บาเยิร์น มิวนิค อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้บอกปัดโอกาสดังกล่าวเพราะภักดีต่อ ดอร์ทมุนด์ เพียงอย่างเดียว อีกเหตุผลคือในตอนนั้นเขาเตรียมตัวที่จะไปรับงานกับ เปแอสเช แล้ว