เบลลิ่งแฮมรายต่อไป? : ย้อน 6 แข้งบริติชในทัพราชันชุดขาว

เบลลิ่งแฮมรายต่อไป? : ย้อน 6 แข้งบริติชในทัพราชันชุดขาว

ถึงสหราชอาณาจักรจะปลุกปั้นนักเตะมากมาย แต่ก็มีไม่กี่คนที่จะได้โอกาสย้ายไปเล่นกับทีมยักษ์ในสเปนอย่าง เรอัล มาดริด และมีแววว่า จู้ด เบลลิ่งแฮม กองกลางจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จะกลายเป็นนักเตะจากเกาะอังกฤษคนใหม่ของ ‘ราชันชันชุดขาว’

กองกลางดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ทำผลงานได้โดดเด่นเกินวัย ทั้งในช่วงที่เล่นกับ เสือเหลือง รวมไปถึงฟุตบอลโลก 2022 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ทำให้มีรายงานว่าทีมยักษ์ใหญ่พยายามขายขนมจีบเพื่อนหวังคว้า เบลลิ่งแฮม ไปร่วมทีม แน่นอนว่า ‘โลส บลังโกส’ ถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งจากสื่อในชั่วโมงนี้

หากเป็นเช่นนั้นจริง เบลลิ่งแฮม จะกลายเป็นนักเตะคนที่ 7 จากสหราชอาณาจักรที่ได้โชว์ฝีเท้าใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ตามรอยรุ่นพี่ชาวบริติช 6 คนก่อนหน้านี้

ว่าแต่ 6 คนก่อนหน้านี้เป็นใครบ้าง UFA ARENA จะพาไปย้อนส่องผลงานของพวกเขากับ เรอัล มาดริด ว่าประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดในแดนกระทิง เพียงแต่ขอสปอยไว้ก่อนว่ามีไม่กี่คนหรอกที่ เบลลิ่งแฮม ควรเอาอย่างหากย้ายมาจริงๆ

 

แกเร็ธ เบล

Is the Gareth Bale-Real Madrid feud back on? | Marca

เขาอาจไม่มีความสุขนักกับการเล่นให้ เรอัล มาดริด ในช่วง 2-3 ปีสุดท้าย เนื่องจากไม่ค่อยปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตในสเปน และความรักที่เขามีต่อกีฬากอล์ฟมากเกินไปในสายตาสื่อ แต่ถึงเป็นเช่น เบล ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากในแดนกระทิง

หลังจากย้าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2013 ด้วยค่าตัวสถิติโลก ดาวเตะทีมชาติเวลส์ ก็ทำผลงานได้โดดเด่นไม่น้อยช่วง 3 ปีแรก แถมทำประตูสำคัญให้ทีมมากมาย แม้ไม่เคยชนะใจเหล่ามาดริดนิสต้าได้แบบเต็มร้อยก็ตาม

ความสำเร็จของ เบล ที่ชัดเจนใน เบอร์นาเบว คือการคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก 5 สมัย รวมถึงแชมป์ลาลีก้า 3 สมัย ก่อนย้ายไป แอลเอ เอฟซี หลังหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์ปี 2022 ที่ผ่านมา

 

โจนาธาน วู้ดเกต

Trouble in paradise: Jonathan Woodgate's nightmare spell at Real Madrid

หนึ่งในนักเตะที่ประเดิมสนามกับต้นสังกัดใหม่ได้อย่างย่ำแย่ และช่วงเวลาของ วู้ดเกต กับ เรอัล มาดริด ต้องบอกว่าเข้าขั้นหายนะเลยก็ว่าได้

กองหลังชาวอังกฤษ ต้องรอถึง 1 ปีกว่าจะได้ลงเล่นให้ ‘ราชันชุดขาว’ ได้เนื่องจากอาการบาดเจ็บ และเมื่อได้โอกาสก็ทำเรื่องงามหน้าตั้งแต่เกมแรก ทั้งทำเข้าประตูและโดนใบแดงในนัดเดียว

แต่ วู้ดเกต ก็ยังได้โอกาสลงเล่นอยู่บ้างในฤดูกาล 2005-06 แต่อาการบาดเจ็บที่เล่นงานเขาอีกครั้ง จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจย้ายกลับมา มิดเดิ้ลสโบรห์ ในปี 2006

ชื่อเสีย(ง)ของ อดีตแนวรับวัย 41 ปี ในสเปนยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เมื่อปี 2007 มาร์ก้า สื่อดังแดนกระทิง เผยว่า วู้ดเกต ถูกโหวตให้เป็นการเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดในศตวรรษที่ 21 จากผู้อ่านทั่วประเทศ

 

ไมเคิ่ล โอเว่น

Michael Owen on talkSPORT: 'Jamie Carragher begged me to stay at Liverpool but I would have always regretted turning down Real Madrid'

ผลงานโดยรวมอาจดูผิดหวังในสายตาของใครหลายๆคน แต่ถ้ามาดูกันจริงๆ ไมเคิ่ล โอเว่น ก็ไม่ได้แย่ขนาดที่ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันใน เรอัล มาดริด เลย

ดาวยิงฉายา ‘เบบี้ โกล’ ย้ายมาในช่วง กาลาติกอส โดยที่เขาต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งกองหน้าตัวจริงกับทั้ง ราอูล กอนซาเลซ และ โรนัลโด้

16 ประตูจาก 45 นัด ฟังดูไม่แย่มากนัก แต่กองหน้าทีมชาติอังกฤษรู้สึกผิดหวังกับโอกาสในทีมที่ไม่มากพอและเลือกย้ายกลับไป นิวคาสเซิล ในปี 2005

ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา Reboot – My Life, My Time โอเว่นกล่าวว่า “แม้จะฟังดูแปลกและบางทีก็ดูพ่ายแพ้ แต่เกือบจะทันทีที่เรามาถึงสเปน ผมรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าการลงเล่นของผมคงจะมีไม่มาก”

“ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม สโมสรพาเราไปที่โรงแรมในขณะที่เราพยายามหาบ้าน เราสองคนอยู่ในห้องเดียวกันซึ่งมีลูกสาวอายุน้อยซึ่งอยู่ในวัยที่เธอต้องการความสนุกสนาน คงจะลำบากพอสำหรับ 1 เดือน แต่ 1 เดือนกลายเป็น 2 และ 2 ก็กลายเป็น 4”

 

เดวิด เบ็คแฮม

Ex-Real Madrid ace Beckham in a Barcelona shirt | Goal.com

ด้วยชื่อเสียง, ฝีเท้า และราศีที่เหมาะสมกับการอยู่ในทีม กาลาติกอส ทำให้ เรอัล มาดริด ชิงตัดหน้า บาร์เซโลน่า คว้า เดวิด เบ็คแฮม จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์ปี 2003

การมาของเขาช่วยเพิ่มยอดขายเสื้อได้อย่างแน่นอน แต่กัปตันทีมชาติอังกฤษไร้แชมป์ใดๆ ในช่วง 3 ฤดูกาลแรกของเขาที่สเปน เนื่องจากผู้จัดการทีมหลายคนล้มเหลวในการดึงเอาความสามารถด้านเกมรุกที่ไม่ธรรมดาของพี่เบ็คออกมาใช้ให้เต็มที่

เมื่อ ฟาบิโอ คาเปลโล่ เข้ามาคุมทีมในฤดูกาล 2006-07 เบ็คแฮม ไม่มีส่วนกับทีมมากนักในช่วงแรกๆ แต่กองกลางเท้าชั่งทอง ก็พยายามอย่างเต็มที่จนเอาชนะใจกุนซือชาวอิตาเลี่ยนได้ ก่อนพา ‘โลส บลังโกส’ คว้าแชมป์ลาลีก้า ในฤดูกาลนั้น

นี่เป็นแชมป์ถ้วยเดียวที่ เบ็คแฮม ทำได้ในแดนกระทิง และยิงไปทั้งหมด 20 ประตูจาก 155 นัดให้กับ มาดริด ก่อนย้ายไป แอลเอ กาแล็คซี่ ในปี 2007

 

สตีฟ แม็คมานามาน

Liverpool icon Steve McManaman reveals how it felt scoring in a UEFA Champions League final for Real Madrid - Soccersouls

ช่วงเวลาของ แม็คมานามาน ในเรอัล มาดริด เน้นย้ำว่าเขาเป็นนักเตะมากสามารถคนหนึ่งที่ถูกมองข้ามในทีมบ่อยๆ 

ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจกับ ลิเวอร์พูล และ อังกฤษ ทำให้ แม็คก้า ย้ายไปค้าแข้งในต่างแดนเป็นครั้งแรกกับ สเปน ในปี 1999 แบบไร้ค่าตัว และมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาลแรก โดยคว้าตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมนัดชิงที่เอาชนะ บาเลนเซีย 3-0

ทว่าการมาของ หลุยส์ ฟิโก้ ทำให้เวลาลงสนามของเขาน้อยลง และสุดท้ายก็กลายเป็นส่วนเกินใน ‘โลส บลังโกส’ แต่เขาก็ยังไม่ย้ายไปไหน ก่อนมีส่วนช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยุโรปอีกครั้งในปี 2002

ด้วยความมุ่งมั่นและทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ทำให้ แม็คมานามาน กลายเป็นที่รักของแฟนมาดริด ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงทุกวันนี้

 

ลอรี่ คันนิ่งแฮม

Real Madrid C.F. on Twitter: "💫 33 años sin Laurie Cunningham. https://t.co/Bj1GAOwUtn" / Twitter

ลอรี่ คันนิ่งแฮม คือนักเตะชาวอังกฤษคนแรกที่ได้มาเล่นให้กับ เรอัล มาดริด หลังย้ายมาจาก เวสต์บรอมวิช ในปี 1979

ด้วยลีลาการเล่นที่คล่องแคล่วว่องไว และทำประตูได้ดี แม้อยู่ในตำแหน่งปีก ทำให้ คันนิ่งแฮม กดไป 2 ประตูในเกมประเดิมสนาม และช่วยให้ ‘ราชันชุดขาว’ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ตั้งแต่ฤดูกาลแรกของเขาในสเปน

แม้เป็นปีกซ้ายที่มีทักษะดี ความเร็วสูง จนสร้างความประทับใจให้แฟนไม่น้อย แต่อาการบาดเจ็บและนิสัยชอบเที่ยวกลางคืน ส่งผลให้คันนิ่งแฮมผลงานตกลงในเวลาต่อมา

เขาบอกลา เบอร์นาเบว ในปี 1984 และน่าเศร้าที่อีก 6 ปีต่อมา คันนิ่งแฮม ประสบอุบัติเหตุในกรุงมาดริดเสียชีวิตด้วยวัย 33 ปี ขณะที่ค้าแข้งกับ ราโย บาเยกาโน่ 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เมสซี่มาแน่? : 6 แข้งคว้าบัลลงดอร์หลังฟอร์มแจ่มในบอลโลก
เมสซี่มาแน่? : 6 แข้งคว้าบัลลงดอร์หลังฟอร์มแจ่มในบอลโลก