คู่ควรทุกข้อ : เบนเซม่ากับ 13 สถิติที่ทำให้เขาคว้าบัลลงดอร์

เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ผลิกโผสำหรับ คาริม เบนเซม่า หลังผงาดคว้ารางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2022 ไปครองแบบไร้ข้อกังขา

โดย พิธีมอบรางวัล บัลลงดอร์ 2022 จัดขึ้นที่ โรงละครชาเตอเลต์ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งการคัดเลือกรางวัลในปีนี้จะเลือกจากผลงานของนักเตะจากในฤดูกาล 2021-22 ซึ่งจะแตกต่างจากหารคิดคะแนนรางวัลครั้งก่อนๆ ที่จะใช้เป็นปีปฏิทินเต็ม

ท้ายที่สุด กองหน้าจากก เรอัล มาดริด ที่พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปครอง คว้ารางวัลนี้ไปครองได้สำเร็จตามความคาดหมาย  พร้อมนับเป็นแข้งฝรั่งเศสในรอบ 24 ปีที่คว้ารางวัลนี้ และรายที่ 5 ต่อจาก ซีเนดีน ซีดาน, ฌอง-ปิแอร์ ปาแป็ง, เรย์มงด์ โกปา และมิเชล พลาตินี่

เชื่อว่าหลายคนอาจไม่ข้อสงสัยในตัวของ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสอยู่แล้ว แต่ UFA ARENA จะขอพาไปตอกย้ำกับอีก 13 สถิติที่ทำให้ เบนซ์ เหมาะสมกับการคว้าบัลลงดอร์ในปีนี้ทุกประการผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

มีส่วนกับประตูหลังเล่นแค่ 1 ชั่วโมงนิดๆ

ฤดูกาล 2021-22 ถือเป็นปีที่ เบนเซม่า โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขาก็ว่าได้ หลังซัดไป 44 ประตู กับ 15 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 46 นัดในทุกรายการ

นั่นหมายความว่าเขาจะมีส่วนร่วมกับ 1 ประตูที่ เรอัล มาดริด ทำได้ในทุกๆการลงเล่น 66.42 นาที หรือราวๆชั่วโมงเศษๆเท่านั้น

 

มีส่วนกับประตุมากที่สุดในยุโรป

จำนวน 59 ประตูที่ เบนซ์ มีส่วนร่วมกับทีมทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดเหนือใครๆในยุโรป ในฤดูกาล 2021-22

ไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (57), โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (47), เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ (37) และ ชิโร่ อิมโมบิเล่ (36) เมื่อซีซั่นก่อน

 

รับผิดชอบประตูเกือบครึ่งของราชันในลาลีก้า

ผลงานในลีกของ ดาวยิงจาก เรอัล มาดริด ก็ยอดเยี่ยมสุดๆ ด้วยจำนวน 27 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

นั่นเท่ากับว่า เขามีส่วนรับผิดชอบกับประตูที่ มาดริด ทำได้ถึง 48.75% ในลีกสูงสุดแดนกระทิงประจำซีซั่น 2021-22 ด้วย

 

ยิงจ่ายได้หมด

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า หอกทีมชาติฝรั่งเศส ซัดไป 27 ประตู กับ 12 แอสซิสต์ ในลาลีก้าซีซั่นก่อน แสดงให้เห็นว่าเขาอันตรายทั้งจังหวะทำประตูหรือการสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม

27 ประตูทำให้ เบนซ์ คว้าดาวซัลโวของลีกกระทิงมาครอง โดยทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ยาโก้ อัสปาส ดาวเตะจาก เซลต้า บีโก้ ถึง 9 ลูก พร้อมกันนี้ยังรั้งอันดับ 2 ของจอมแอสซิสต์ เป็นรองแค่ อุสมาน เดมเบเล่ เท่านั้น

 

ยิงปีเดียว UCL เท่าเลวี่

ยอดแข้งวัย 34 ปี ยิงในแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 ไปทั้งหมด 15 ประตู ครองสถิติเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูใน UCL ซีซั่นเดียวมากที่สุดเป็นอันดับ 3 เท่ากับที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เคยทำได้

ส่วนสถิติ 2 อันดับแรกก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทำไว้ 16 และ 17 ลูก สมัยเป็นเพื่อนร่วมทีมของ เบนซ์ ใน ‘โลส บลังโกส’

 

ยิงใน UCL มากกว่า ม้าลาย,ผี หรือ บาร์ซ่า

จำนวน 15 ประตูที่ หอกชาวฝรั่งเศส ทำได้ในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลก่อน เป็นตัวเลขการทำประตูที่มากกว่า 23 ทีมที่ผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายของรายการเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา

หนึ่งในนั้นมีทั้ง ยูเวนตุส, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, บาร์เซโลน่า, แอตเลติโก้ มาดริด, อินเตอร์ มิลาน และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

 

มีส่วนกับประตูทุก 65 นาทีในบอลยุโรป

นอกจาก 15 ประตูที่ พี่เบนซ์ ทำได้ใน UCL ฤดูกาลที่ผ่านมาแล้ว เขายังทำแอสซิสต์ไปอีก 2 ลูกด้วย

แม้ไม่ใช่จำนวนที่มากมายอะไร แต่ก็นั่นก็เท่ากับว่าเขามีส่วนร่วมกับ 17 ประตูในบอลยุโรป เท่ากับว่าเขาจะยิงหรือจ่ายในทุก 65 นาทีที่ลงเล่น

 

ยิงรอบน็อคเอ้าท์เท่า CR7

หอกวัย 34 ประตู ยิงไปแล้ว 10 ประตูใน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอ้าท์ ฤดูกาล 2021-22 นั่นทำให้เขาขึ้นไปเป็นนักเตะที่ยิงประตูในรอบนั้นมากที่สุดของ UCL ในฤดูกาลเดียว เท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เพื่อนเก่าของเขาที่เคยทำไว้ในฤดูกาล 2016-17

 

คนที่ 4 ยิง 2 รอบ 4 นัดใน UCL

เชื่อว่ายังไม่มีใครลืมช็อตที่ เบนเซม่า ช่วยให้ เรอัล มาดริด โกงตายในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และรอบรองชนะเลิศ ใน แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021-22 

นั่นก็ทำให้ หอกของ ราชันชุดขาว ทำสถิติเป็นนักเตะคนที่ 4 ที่ยิงประตูได้ทั้ง 2 เลกในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และรอบตัดเชือกใน UCL ตามรอยต่อจาก เฟร์นานโด มอริเอนเตส, เนย์มาร์ และ เอดิน เชโก้

 

อีกสถิติตามรอยโด้

อีกสถิติหนึ่งที่ หอกทีมชาติฝรั่งเศส ตามรอย โรนัลโด้ เพื่อนเก่า ก็คือเป็นนักเตะรายที่ 2 ที่ทำแฮตทริกได้ 2 เกมติดในแชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอ้าท์

โดยดาวเตะ แมมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำไว้สมัยค้าแข้งกับ ราชันชุดขาว โดยกด 3 เม็ดใส่ บาเยิร์น มิวนิค และ แอตเลติโก้ มาดริด ในปี 2017 

 

ดาวซัลโวเบอร์ 2 ของราชัน

ย้อนกลับไปในนัดชิงยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ช่วงต้นซีซั่นใหม่ ประตูของ เบนเซม่า ในวันนั้นทำให้เขาก้าวขึ้นไปรั้งดาวซัลโวตลอดกาลของ เรอัล มาดริด เป็นอันดับ 2 แซงหน้า ราอูล กอนซาเลซ (323 จาก 741 นัด) โดยลงเล่นน้อยกว่าถึง 135 นัด ซึ่งหากนับเวลานี้เขายิงให้ทีมไปแล้ว 328 ลูกด้วย

แน่นอนว่าคนที่ หอกเฟรนช์แมน เป็นรองก็คือ โรนัลโด้ เพือนเก่า (อีกแล้ว) ที่ยิงไป 450 ลูก ซึ่งตามหลังอยู่ 133 ลูก

 

คนที่ 4 เหมาดาวซัลโวลีกกระทิงและ UCL

ในยุคแชมเปี้ยนส์ลีก เบนซ์ เป็นนักเตะคนที่ 4 ที่คว้ารางวัลปิปิชี่ (ดาวซัลโวของลาลีก้า) และ รองเท้าทองคำของ แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลเดียว

โดย 3 คนที่ทำได้ก่อนหน้านี้ คือ ราอูล กอนซาเลซ (2000-01), ลิโอเนล เมสซี่ (2009/10, 2011/12, 2018/19) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (2013/14 & 2014/15)

 

ฟอร์มปังด้วยกับ ‘ตราไก่’

ไม่เพียงแต่ในสโมสรเท่านั้น เพราะ เบนซ์ ก็ฟอร์มยอดเยี่ยมกับทีมชาติฝรั่งเศสเช่นกันในตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา

หอกแดนน้ำหอมกดไป 6 ประตูกับ 1 แอสซิสต์ ให้ทัพ ตราไก่ ตลอด 10 นัด ช่วงฤดูกาล 2021-22 โดยหนึ่งในนั้นรวมไปถึงประตูตีเสมอในเกมนัดชิง ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่พบกับ สเปน ก่อนเอาชนะคว้าแชมป์มาครองได้ในท้ายที่สุด

 

บทความที่เกี่ยวข้อง