นักเตะคนที่ 12 เป็นการนิยามแฟนบอลในรูปแบบนึง ที่ช่วยตะโกนเชียร์ ช่วยกดดันคู่แข่ง รวมถึงปลุกเร้าทีมมันสามารถช่วยนักเตะที่อยู่ในสนามได้มาก หลายครั้งเราได้เห็นความฮึดของนักเตะที่มาจากเสียงเชียร์ของแฟนบอล กำเนิดเป็นวลีนรกทีมเยือนนั้นไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
วันนี้ UFAARENA จะพาไปรู้จักสนามฟุตบอลที่นับว่าเป็นนรกของผู้มาเยือน ไม่ว่าจะบรรยากาศของแฟนบอล สภาพสนาม และแรงกดดันที่ต้องเจอกับการมาเยือนสนามแห่งนั้นๆ
เริ่มกันที่สนามที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกลูกหนัง ด้วยความจุ 99,354 ที่นั่ง นอกจากทีมเยือนจะต้องเจอกับทีมสุดแข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลกแล้ว เสียงเชียร์จากแฟนบอลเกือบแสนชีวิต ก็เรียกได้ว่าสามารถกดดันคู่แข่งได้เป็นอย่างดี ถือเป็นนรกทีมเยือนระดับเบาะๆ เพราะบรรดาแฟนบอลเจ้าบุญทุ่มเองก็ไม่ได้เกรี้ยวกราดอะไรขนาดนั้น เพียงแค่เสียงเชียร์ของพวกเขามันแทบจะนับเป็นนักเตะคนที่ 12 ของสนามแห่งนี้เลยทีเดียว
ซิกนัล อิดูนา ปาร์ค | โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
“กำแพงสีเหลือง” คือชื่อเรียกของแฟนบอลดอร์ทมุนด์ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นแฟนบอลที่เข้าไปชมเกมทีมรักมากที่สุดในโลกในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา จากการรวบรวมสถิติของ CIES Football Observatory เมื่อปี 2018 ที่เก็บสถิติจากแฟนบอลที่เข้าชม 51 ลีกทั่วโลกช่วงระหว่างปี 2013-2018 โดยพวกเขามีจำนวนแฟนบอลเฉลี่ยต่อเกม 80,230 คน นำหน้าทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด , บาร์เซโลน่า , บาเยิร์น มิวนิค และ เรอัล มาดริด ด้วยความที่มีสนามที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมัน ทำให้การไปเยือนพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
Yellow Wall Borussia Dortmund! pic.twitter.com/P4SI0uEnZG
— 𝐂𝐚𝐬𝐮𝐚𝐥 𝐔𝐥𝐭𝐫𝐚 𝐎𝐟𝐟𝐢𝐜𝐢𝐚𝐥 (@thecasualultra) August 23, 2020
เอสตาดิโอ เอร์นันโด ซิเลส | คลับ โบลิวาร์ , เดอะ สตรองเกสต์ , ลาปาซ เอฟซี
แม้จะเป็นสนามร่วมของทีมโนเนมในประเทศโบลิเวีย แต่คำว่านรกของพวกเขาอาจจะไม่ใช่แฟนบอลที่มีเข้าไปชมเกมมากที่สุด ความดุดันของแฟนบอล หรือความเข้มข้นของการเชียร์ แต่มันเป็นการที่สนามแห่งนี้ตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 3,637 เมตร ทำให้ความเหนื่อยล้าของร่างกายหนักกว่าที่อื่น ในระดับที่ว่าขนาด ลิโอเนล เมสซี่ ยอดสตาร์ดังของโลกลูกหนังยังหมดสภาพมาแล้วในการมาเยือนเมื่อปี 2013 ในเกมทีมชาติ เจ้าตัวถึงกับต้องให้ออกซิเจนระหว่างแข่งเลยทีเดียว โดยดาวดังเลือดฟ้าขาวกล่าวว่า “มันแย่มากที่ได้เล่นที่นี่ที่ระดับความสูง ผู้เล่นบางคนมีอาการปวดหัวและเวียนหัว ทุกครั้งที่คุณพยายามเล่นด้วยความเร็วสูง”
แม้จะมีความจุสนามแค่ 45,522 แต่ความคลั่งไคล้ในฟุตบอลของสาวกหงส์แดง ต้องบอกว่าเป็นอันดับต้นๆของโลก พร้อมทั้งยังมีเพลงเชียร์ที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง ‘You’ll never walk alone’ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ด้วยแพชชั่นมหาศาลของแฟนบอล ไม่ต้องบอกเลยว่าทีมที่มาเยือนจะต้องเจอความกดดันขนาดไหน ไม่ว่าจะทีมเล็กทีมใหญ่ นอกจากนี้ในปี 2011 เคยมีการสำรวจสถิติกันว่า แฟนบอล ลิเวอร์พูล มีระดับความดังในการเชียร์ถึง 97 เดซิเบล สูงที่สุดในเกาะอังกฤษ และเป็นอันดับต้นๆของโลก ขนาดว่าในช่วงเวลานั้น ยังเป็นช่วงที่พวกเขาตกต่ำอยู่ยังขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงปัจจุบันที่พวกเขายกระดับขึ้นมาเป็นทีมลุ้นแชมป์ทุกปี หากวัดระดับความดังในการเชียร์อีกครั้งคงมากกว่า 97 เดซิเบลแน่
ซาน ซิโร่ | เอซี มิลาน/อินเตอร์ มิลาน
สนามของสองทีมเมืองมิลานที่ใช้ร่วมกัน มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ด้วยความจุ 80,018 ที่นั่ง ถือเป็นสนามที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นในเวลา เอซี มิลาน หรือ อินเตอร์ มิลาน ใช้งานสนามนี้ในฐานะเจ้าบ้าน ก็ต้องบอกว่าเป็นนรกของทีมเยือนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะทั้งสองทีมที่มีกลุ่มแฟนบอลอัลตร้าประจำทีม ฝั่งงูใหญ่ใช้ชื่อว่า Curva Nord หรือแฟนบอลที่จะไปประจำอยู่ที่สแตนด์ฝั่งเหนือ ส่วนทางปีศาจแดงดำใช้ชื่อ Curva Sud ที่จะประจำสแตนด์ฝั่งใต้ ยิ่งเวลาที่ทั้งสองทีมนี้เจอกันเองก็มักจะมีการใช้ป้ายแบนเนอร์ พลุไฟ หรือการปลุกเร้าต่างๆมาโถมใส่กันอย่างเต็มที่ จนบรรยากาศของศึก มิลานดาร์บี้ อย่างกับสงครามกันเลยทีเดียว
ดิเอโก อาร์มันโด มาราโดน่า | นาโปลี
แม้จะเป็นสนามที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลี แต่ในด้านความคลั่งไคล้ฟุตบอลของชาวเมืองเนเปิ้ลส์ ต้องบอกว่าไม่เป็นสองรองใครเลย ถ้าหากเทียบความยิ่งใหญ่ของสนามไม่ว่าจะของสองทีมเมืองมิลาน หรือสนามของทีมเมืองหลวงอย่างโรม่า สนามดิเอโก อาร์มันโด มาราโดน่า ก็ถูกยกให้เป็นโคลอสเซี่ยมประจำเมืองเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าในเรื่องของจำนวนแฟนบอลในสนามอาจจะสู้ทีมที่มีสนามใหญ่ๆไม่ได้ แต่เรื่องเสียงเชียร์ ความดุดันในการข่มขวัญฝั่งตรงข้ามพวกเขาเป็นที่หนึ่งในอิตาลีเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเคยถูกยกให้เป็นสนามที่แฟนบอลเชียร์กันแบบเสียงดังสุดๆระดับต้นๆของโลกลูกหนังอีกด้วย
แฟนบอลตุรกีขึ้นชื่อในการเชียร์ฟุตบอลกันอย่างบ้าคลั่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แม้สนามจะมีความจุแค่ 45,000 ที่นั่งแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเชียร์ของสาวกอินทรีดำเลยแม้แต่น้อย พวกเขาตะโกนเชียร์กันเหมือนปอดจะแตกคอจะพังกันเลยทีเดียว โดยระดับเสียงที่เคยบันทึกไว้ว่าดังที่สุดในการเชียร์ของ สนามโวดาโฟน พาร์ค คือในเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล บนเวทียุโรป ซึ่งความดังในวันนั้นสูงถึง 132 เดซิเบล หรือดังกว่าฟ้าผ่าและเสียงเครื่องบินเสียอีก นอกจากเรื่องเสียงแล้วเรื่องบรรยากาศความกดดันก็ไม่เป็นรองใคร โดย เบน ฟอสเตอร์ อดีตนายทวารแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยออกมาเปิดเผยว่า “มันเป็นประสบการณ์ที่น่าสยดสยองและสับสน ผมไม่ได้ยินอะไรที่กองหลังเราสั่งเลยสักนิด”
นักเตะคนที่ 12 คือชื่อที่ถูกตั้งให้บรรดาแฟนบอล โบคา จูเนียร์ ด้วยการมีส่วนร่วมกับเกมที่ทั้งตะโกนเชียร์ พยายามกดดันคู่แข่ง สร้างบรรยากาศที่แสนจะน่าสะพรึงของทีมเยือน จนถึงขั้นที่ว่าในแต่ละเกมที่พวกเขาแข่งต้องมีตำรวจเข้ามาควบคุมอย่างหนาแน่น โดยเฉพาะในเกมซูเปอร์กลาซิโกดาร์บี้กับริเวอร์เพลท คู่ปรับตลอดกาลของพวกเขา ความเดือดดาลในเกมก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก และถ้ายิ่งพวกเขาเป็นฝ่ายชนะ หรือเสมอได้ ก็ต้องบอกว่าหลังเกมสนามจะกลายเป็นลานฉลองของแฟนบอลเจ้าบ้านที่ลงมาเปิดฟลอร์เฮกันยกใหญ่ บอกเลยว่าเป็นความสยองของทีมเยือน ทั้งก่อนเกม ระหว่างเกม และหลังเกมเลยทีเดียว
เรดสตาร์สเตเดี้ยม | เรดสตาร์ เบลเกต
ยอดทีมจากประเทศเซอร์เบีย ที่แทบจะผูกขาดแชมป์ในประเทศไปหมดแล้ว แน่นอนว่าเรื่องนักเตะในสนามก็เป็นเรื่องที่ต้องให้เครดิต แต่ก็ลืมแฟนบอลที่เชียร์กันอย่างดุเดือดข้างสนามไม่ได้ หากการแข่งในลีกว่าเดือดแล้ว เมื่อพวกเขาได้โอกาสมาลุยบนเวทียุโรป ดีกรีความดุเดือดของแฟนบอลก็ยิ่งยกระดับขึ้นไปอีก ยิ่งในสมัยก่อนที่สนามแห่งนี้เคยจุแฟนบอลได้ถึง 110,000 ที่นั่งก่อนจะมาปรับลงเหลือ 53,000 ที่นั่งเพื่อความปลอดภัย การเชียร์ของสาวกเรดสตาร์ ไม่ได้มีแค่เสียงเชียร์ แต่ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง พลุไฟ,ระเบิดควัน และอุปกรณ์ทำมืออีกหลายอย่างที่มาใช้ในการเชียร์ และข่มขวัญคู่แข่งด้วย
เติร์ก เทเลคอม อารีน่า | กาลาตาซาราย
สนามที่เป็นจุดกำเนิดของคำว่า ‘นรกทีมเยือน’ ต้องยกให้รังเหย้าของ กาลาตาซาราย เลยไม่ว่าจะเกมลีกเกมยุโรป แฟนบอลของพวกเขาใส่เต็มที่ ตะโกนกันเต็มเสียงทุกนัดไหนจะพลุไฟที่นำมาสร้างบรรยากาศกดดันเพิ่มไปอีก ต้องบอกเลยว่าในแต่ละนัดในบ้านของพวกเขาต้องพึ่งพาตำรวจปราบจลาจลเต็มรูปแบบเพื่อเข้ามาคุมสถานการณ์แทบทุกนัด นอกจากนี้จากการเก็บสถิติแล้ว เสียงเชียร์ของพวกเขาดังมากถึง 131.76 เดซิเบล เกือบทุกนัดไม่ใช่แค่นัดใดนัดนึง ถูกจัดเป็นเสียงเชียร์ที่ดังที่สุดในโลก โดยถูกบันทึกลงใน Guinness World Records นับเป็นบรรยากาศสุดหูแตกของวงการฟุตบอล