อนาคตหงส์: เอลเลียตต์ ว่าที่สตาร์เด่นแห่งแอนฟิลด์

เอลเลียตต์

 

แม้ว่า ลิเวอร์พูลจะเสียกองกลางของทีมออกไปถึง 2 รายทั้ง จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เซอร์ดราน ชากิรี่ แต่กุนซือของทีมอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ยังยืนกรานที่จะไม่ซื้อใครมาเสริมทีม พร้อมดันดาวรุ่งอย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ขึ้นมายืนเป็นตัวหลักหลังผ่านไป 3 นัดในลีก ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น แถมยังทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจอีกด้วย

 

แน่นอนว่าเส้นทางของเขายังอีกยาวไกล วันนี้ UFA ARENA จะพาไปทำความรู้จักว่าที่สตาร์เด่นแห่งแอนฟิลด์ที่ชื่อ เอลเลียตต์

 

เลือดหงส์เข้มข้น

How Harvey Elliott Snubbed Real Madrid And Sergio Ramos To Join Liverpool

หลังจากที่ดาวรุ่งชาวอังกฤษได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกด้วยอายุที่น้อยที่สุดในวัยเพียง 16 ปี 30 วันเมื่อปี 2019 กับฟูแล่ม เจ้าตัวก็ตกเป็นเป้าหมายของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่เลยทันที ก่อนที่จะเป็น ลิเวอร์พูลที่สามารถดึงเขาไปร่วมทัพได้ในปีเดียวกันนั้น

 

ซึ่งนอกจากจะมีฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมแล้ว เจ้าตัวยังเป็นแฟนตัวยงของทัพหงส์แดง โดยมี โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ แนวรุกชาวอียิปต์เป็นไอดอลถึงขั้นที่ว่าในช่วงเวลาเดียวกับที่ยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ยื่นข้อเสนอไปก็มีอีกหลายทีมตามจีบด้วยทั้ง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แอร์เบ ไลป์ซิก และ เชลซี แต่ก็เลือกปฏิเสธไปทั้งหมด

 

โดยเฉพาะกับราชันชุดขาว ที่เจ้าหนู เอลเลียตต์ ให้เหตุผลไว้ว่าไม่อยากไปร่วมงานกับ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังกัปตันทีมเนื่องจากเป็นต้นเหตุที่ทำให้ไอดอลของเขาอย่าง โม ซาลาห์ บาดเจ็บในเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีก 2018 อีกด้วย เรียกว่าเลือดสาวกหงส์แดงเข้มข้นเลยทีเดียวสำหรับหนุ่มน้อยรายนี้

 

ฟอร์มเด่นกับแบล็คเบิร์น

You're a star Harvey". Liverpool fans react to Harvey Elliott's class  gesture

หลังจากย้ายมาเล่นอยู่ในทีมเยาวชนของทีมอยู่ปีนึง ในช่วงซัมเมอร์ 2020 ลิเวอร์พูล ก็ตัดสินใจปล่อยตัวเขาออกไปให้กับ แบล็คเบิร์น ในลีกแชมเปี้ยนส์ชิพยืมตัว และสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจากการลงสนาม 41 นัด ยิง 7 ประตู 11 แอสซิสต์ถือเป็นอันดับ 3 ของลีก รองจาก ไมเคิล โอลิส(เรดดิ้ง) และ เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย(นอริช) รวมถึงมีสถิติจ่ายบอลสำคัญอยู่ที่ 0.79 ครั้งต่อ 90 นาทีอีกด้วย

 

 น่าเสียดายที่ผลงานโดยรวมของทีมไม่ได้ใกล้เคียงการเลื่อนชั้นเลยจากการจบในอันดับ 15 ของตาราง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฟอร์มการเล่นของเขาในลีกรองแดนผู้ดีก็จัดว่ายอดเยี่ยมเหลือเกิน

 

 

การปรับตำแหน่งสุดไฉไล

Jurgen Klopp lauds Liverpool's new "triangle" as Harvey Elliott stands out  - Liverpool FC - This Is Anfield

หลังจากที่เขากลับมาภายใต้การดูแลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขาก็ถูกเปลี่ยนตำแหน่งจากเดิมที่เล่นในตำแหน่งปีกตัวรุก เปลี่ยนมาเป็นกองกลางแทนตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น ซึ่งเขาก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งการผ่านบอลและการเพรซซิ่ง โดยนายใหญ่ชาวเยอรมันก็ได้ให้ความเห็นไว้ว่า “สิ่งสำคัญสำหรับเด็กวัยนี้ คุณต้องเรียนรู้ในการเล่นในหลายตำแหน่ง เพื่อความยืดหยุ่นในอนาคต และเพื่อให้มีส่วนร่วมกับทีมได้มากขึ้น”

 

ในขณะที่ตัวนักเตะเองก็เปิดเผยถึงตำแหน่งใหม่ว่า  “บอกตามตรง ผมไม่สนใจหรอกว่าจะได้เล่นตำแหน่งไหน ไม่ว่าจะเล่นตรงไหนผมก็ตื่นเต้นเสมอที่ได้สวมเสื้อตัวนี้ลงสนามในทุกๆ นัด และทุ่มเทเต็มร้อย ทำงานหนักเท่าที่ตัวเองจะทำได้และพยายามสร้างอิมแพคในเกม ไม่ว่าบอสจะบอกให้ผมไปเล่นตรงไหน ผมจะมั่นใจและต้องการไปเล่นตรงนั้น” โดยตำแหน่งกองกลางก็กลายเป็นตำแหน่งหลักของตัวเขาหลังผ่านมา 3 เกมของซีซั่น 2020/21 

 

เทียบแข้งรุ่นเดียวกัน

Neco Williams reveals what keeps his friendship with Curtis Jones and Harvey  Elliott more dynamic

เมื่อเทียบกับดาวรุ่งรุ่นราวคราวเดียวกัน เอลเลียตต์ ดูจะได้รับโอกาสและความไว้วางใจที่มากกว่า อย่างในรายของ เบน วู้ดเบิร์น ที่ถูกจับตามองไม่น้อย แต่ก็แทบจะยังไม่ได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่เลยเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ก่อนโดนปล่อยยืมไปให้กับ แบล็คพูล ในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง และได้โอกาสลงสนามไป 11 นัดแต่ยังทำผลงานไม่ได้ ส่วนในซีซั่นนี้เขาถูกปล่อยไปให้กับ ฮาร์ทส์ ในลีกสก็อตต์ยืมตัว

 

ในขณะที่คนที่ได้รับโอกาสมาแล้วก่อนหน้านี้อย่าง เคอติส โจนส์ แม้จะได้ลงให้กับทีมชุดใหญ่ไปทั้งหมด 34 นัด เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ก็ไม่สม่ำเสมอนัก ส่วนผลงานก็กดไปได้ 4 ประตู 5 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ โดยถ้าเทียบความหลากหลาย เอลเลียตต์ก็ทำได้ดีกว่าจากการถูกปรับตำแหน่งจากปีกมาเล่นกองกลาง แต่ก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม

 

ความไว้วางใจจากคล็อปป์

Liverpool boss Jurgen Klopp to reward Harvey Elliott with first  professional contract | Football | Sport | Express.co.uk

“พวกเราได้กองกลางคนใหม่แล้ว นั่นคือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์” นี่เป็นสิ่งที่นายใหญ่หงส์แดงกล่าวไว้เมื่อได้เห็นฟอร์มอันยอดเยี่ยมของแข้งรายนี้ในเกมปรีซีซั่นกับ แอธเลติก บิลเบา นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทีมเลือกที่จะไม่เสริมตำแหน่งกองกลาง ทั้งที่เสีย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เซอร์ดราน ชากิรี่ ออกไปเนื่องจากกุนซือเมืองเบียร์ให้ความเชื่อใจในตัวดาวรุ่งรายนี้อย่างเต็มที่

 

และด้วยการที่ในแดนกลางมีช่องว่างทำให้ คล็อปป์เริ่มส่งตัวเอลเลียตต์ยืนคุมแดนกลางเคียงข้างกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ มาตั้งแต่เกมนัดที่ 2 แถมยังได้ลงสนามในฐานะตัวจริงที่ได้เล่นเต็มเกมครบ 90 นาทีเลยทีเดียว 

 

นอกจากนี้ในเรื่องของฟอร์มการเล่นเขาก็ทำได้ดี ทั้งการลงมาช่วยเกมรับ ในจังหวะที่มาซ้อน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ รวมถึงการเข้าเพรซซิ่งใส่คู่แข่ง รวมถึงการจ่ายบอลตัดผ่านแนวรับ จนทำให้เขาเกือบทำแอสซิสต์ได้ในเกมที่พบกับ เบิร์นลี่ย์ ซึ่งเขาแทงบอลทะลุไปให้กับ โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ หลุดไปยิงแต่น่าเสียดายที่เป็นล้ำหน้าไปเสียก่อน

 

น่าสนใจว่าในฤดูกาลนี้เขาจะสามารถทำผลงานได้ตามที่ใครต่อใครคาดหวัง โดยเฉพาะ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ทุ่มความไว้ใจให้เขาอย่างเต็มที่ได้หรือไม่

 

มีอนาคต! เนวิลล์ออกปากชมเอลเลียตต์ฟอร์มเด่นเกมพบเชลซี

เอลเลียตต์