พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลทีมชาติไทย ยืนยันทัพ “ช้างศึก” จะเข้าร่วมศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ดวลกับบรรดาทีมจากอาหรับ
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทีมชาติไทยได้รับเชิญจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียตะวันตก ( WAFF) ให้เข้าร่วมแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2023
ซึ่งทาง นาย พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และให้ความสนใจอย่างมากเพราะจะสามารภให้ทีมชาติไทยไต่อันดับแร้งกิ้งฟีฟ่าได้สูงขึ้น
ล่าสุด พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่าได้รับคำยืนยันจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียตะวันตก ให้ทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2023 ตามที่ได้ส่งจดหมายเชิญมาก่อนหน้านี้
ประมุขบอลไทยได้เปิดเผยว่า “ก่อนอื่น ผมต้องขอชื่นชมและแสดงความยินดีกับ ทีมชาติไทย ที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์อาเซียน ประจำปี 2022 ได้สำเร็จ และขอขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่เข้ามาชมกันเต็มสนามในเกมนัดที่ผ่านมา”
“สมาคมฯ และทีมงานสต๊าฟโค้ช ได้มีการประชุมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทย ก่อนเข้าร่วมแข่งขันทัวร์นาเมนต์สำคัญ อาทิ การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก รวมถึง ฟุตบอลเอเชียนคัพ รอบสุดท้าย ที่จะแข่งขันในช่วงหลังจากนี้ไป”
“โดย สมาคมฯ แจ้งความสนใจส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการ WAFF 10th Championship ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 20 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ซึ่งทาง WAFF ได้ส่งหนังสือยืนยันสิทธิ์การเข้าร่วม ระเบียบการแข่งขัน และโปรแกรมการแข่งขันให้กับสมาคมฯ เพื่อดำเนินการขั้นต่อไปแล้ว”
“หลังจากนี้ ได้มอบหมายให้บริษัท ไทยลีก ดำเนินการประสานกับสโมสรสมาชิก เพื่อปรับโปรแกรมการแข่งขันให้สอดคล้องและเหมาะสม สำหรับการเตรียมทีมชาติไทย ในการทำการแข่งขันฟุตบอลรายการดังกล่าว ซึ่งผมเชื่อว่าฟุตบอลรายการนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทีมชาติไทย รวมถึงนักเตะไทยที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้อย่างมาก”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชียตะวันตก ครั้งที่ 10 ประจำปี 2023 นอกจากทัพ “ช้างศึก” ยังมีอีก 11 ชาติที่เข้าร่วมซึ่งมาจากตะวันออกกลางทั้งหมดได้แก่ บาห์เรน, อิรัก, จอร์แดน, คูเวต, เลบานอน, โอมาน, ปาเลสไตน์, ซาอุดิอาระเบีย, ซีเรีย, ยูเออี และ เยเมน โดยการจับฉลากแบ่งสายจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมนี้
ส่วนการแข่งขันจะเริ่มฟาดแข้งกันในช่วงระหว่างวันที่ 20 มีนาคม ไปจนถึง 2 เมษายน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงของการพักเบรกฟีฟ่าเดย์พอดี และรายการนี้ยังถูกจัดว่าเป็นระดับ ฟีฟ่า Tier1 (เพื่อนับเป็น ‘A’ Match) โดยคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง จะส่งผลต่อการจัดอันดับแรงกิ้ง ในการจัดโถฟุตบอล เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย