ในบรรดาสโมสรฟุตบอลฮอลแลนด์ มีอยู่หลายทีมเป็นที่รู้จักและคุ้นหูแฟนบอลต่างแดนอยู่ไม่น้อย ซึ่งมักจะโผล่มาเล่นในฟุตบอลยุโรปอยู่บ่อยครั้ง
ไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และ เฟเยนูร์ด ที่ครองอำนาจในลีกดัตช์เป็นเวลานานหลายปี โดยเฉพาะในยุคใหม่ที่คว้าแชมป์ลีกได้ถึง 36, 24 และ 15 ครั้งตามลำดับ
ขณะที่ อาแซด อัลค์มาร์ กับ เอฟซี ทเวนเต้ คือ 2 สโมสรที่เคยคว้าแชมป์ เอเรดิวิซี่ ในศตวรรษที่ 21 เท่านั้น ส่วน เฮชวีวี เดน ฮาก ก็เคยคว้าแชมป์ลีก 10 สมัยด้วยกัน เพียงแต่ทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ทั้งสิ้น
แม้ปัจจุบัน 3 ทีมดังในแดนกังหันจะวนเวียนผลัดกันครองอำนาจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า สโมสรระดับที่เล็กลงมาจะไม่สามารถสร้างผลกระทบได้เลย ซึ่งทีมนั้นก็คือ วิลเล่ม ทเว อีกหนึ่งทีมเก่าแก่ในลีกดัตช์
สโมสรจาก ทิลเบิร์ก คว้าแชมป์ลีกได้ 3 สมัย ซึ่งเกิดขึ้นในยุคที่หลายคนอาจไม่ทันได้เห็น แต่สิ่งที่ทำให้ทีมนี้โดดเด่นก็คือ การปั้นดาวรุ่งขึ้นมาประดับวงการอยู่เสมอ แม้จะต้องเสียให้ทีมที่ใหญ่กว่าในลีกก็ตาม
และนี่คือ 8 นักเตะชื่อดังที่หลายคนอาจลืมหรือไม่รู้ว่าเคยมีโอกาสสวมเสื้อ วิลเล่ม ทเว ลงสนาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค
กองหลังจอมแกร่งชาวดัตช์ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ โกรนิงเก้น อีกทีมดังในบ้านเกิด ซึ่งได้ลงเล่นไป 66 นัด ก่อนจะย้ายไปโด่งดังขึ้นอีกขั้นกับ เซลติก จากนั้นก็ เซาแธมป์ตัน ก่อนจะพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นปราการหลังระดับต้นๆของโลกกับ ลิเวอร์พูล
แต่ก่อนหน้าที่ เขาจะอยู่กับ โกรนิงเก้น แข้งวัย 30 ปี เป็นนักเตะเยาวชนของ วิลเล่ม ทเว มาก่อน โดยเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา แต่ก็ไม่เคยได้ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่เลย ณ ตอนนั้น เขาคงไม่คิดว่าตัวเองจะกลายเป็นกัปตันทีมชาติฮอลแลนด์ในอนาคตอย่างแน่นอน
มาร์ค โอเวอร์มาร์ส
โอเวอร์มาร์ส ใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้นกับ วิลเล่ม ทเว แต่ก็ทำผลงานได้ดีพอที่จะย้ายไป อาแจ็กซ์ สโมสรที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของเขาทั้งในฐานะนักเตะและหลังจากแขวนสตั๊ดในอนาคต โดยอดีตปีก อาร์เซน่อล ลงเล่นให้ วิลเล่ม ทเว 31 นัด ยิงไป 1 ประตู
ทันทีที่ ปีกชาวดัตช์ ย้ายไปสวมเครื่องแบบ ‘ปืนใหญ่’ เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก พร้อมกับส่วนหนึ่งของทีมชุดดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1997-98 ก่อนจะย้ายไปล้มเหลวกับ บาร์เซโลน่า ทีมที่เขาไม่เคยได้สัมผัสถ้วยแชมป์แม้แต่รายการเดียว
เฟรงกี้ เดอ ยอง
หนึ่งในกองกลางที่โดดเด่นที่สุดของวงการลูกหนังยุโรป แฟรงกี้ เดอ ยอง กลายเป็นกองกลางตัวหลักในถิ่น คัมป์ นู เรียบร้อย แต่ก่อนที่เขาจะกลายเป็นดาวจรัสแสงกับ อาแจ็กซ์ แข้งวัย 25 ปี ใช้เวลาช่วงหนึ่งกับทีมเยาวชนของ วิลเล่ม ทเว ด้วยเช่นกัน
หลังจากประเดิมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2014-15 เดอ ยอง ก็ถูก ทีมดังจากอัมสเตอร์ดัม กระชากตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวแค่ 1 ยูโร ก่อนที่ อาแจ็กซ์ จะนำค่าตัว 10 เปอร์เซนต์ จาก 75 ล้านยูโร ที่บาร์เซโลน่า จ่ายเป็นค่าสู่ขอ เดอ ยอง ให้กับสโมสรทิลเบิร์ก ตามสัญญา
ซามี่ ฮูเปีย
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ ซามี ฮูเปีย ในอาชีพค้าแข้งคงหนีไม่พ้นช่วงที่เขาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เป็นแน่แท้ ด้วยการลงเล่นให้ ‘หงส์แดง’ กว่า 466 นัด คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงเกียรติประวัติส่วนตัวมากมาย แต่หลายคนคงไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นของแข้งชาวฟินแลนด์มาจากที่ไหน
ฮูเปีย ได้ย้ายจาก วิลเล่ม มาเล่นใน แอนฟิลด์ เมื่อปี 1999 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขาคว้านักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟินแลนด์ ก่อนจะครองรางวัลนี้ในเวลาต่อมารวม 10 ครั้ง โดยก่อนหน้านั้น เขาลงเล่นให้ทีมจากแดนกังหันลม 100 นัด และกลายเป็นขวัญใจของ เดอะ ค็อป ในเวลาต่อมา
มูซ่า เดมเบเล่
แม้ปัจจุบัน เดมเบเล่ จะกลายเป็นแข้งไร้สังกัดหลังยกเลิกสัญญากับ กวางโจว ซิตี้ แต่ครั้งหนึ่ง อดีตกองกลาง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็เคยสร้างชื่อในฮอลแลนด์มาก่อน ในตอนที่ย้ายจาก เชอร์มินอล เบียร์ช็อต สโมสรจากเบลเยี่ยม ไปอยู่กับ วิลเล่ม ในปี 2005 และ ซัดไป 9 ประตูจาก 33 นัดในเอเรดิวิซี่ ฤดูกาล 2005-06
ด้วยลีลาการลากเลื้อยในวัยหนุ่ม ทำให้เขาได้ย้ายไปอยู่กับ อาแซด อัลค์มาร์ พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาล 2008-09 ก่อนจะเซ็นสัญญากับ ฟูแล่ม และกลายเป็นกองกลางที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆในลีกสูงสุดแดนผู้ดีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ยาป สตัม
ดูเหมือนว่า วิลเล่ม ทเว จะเป็นแหล่งกำเนิดของ กองหลังชั้นยอดหลายคนของพรีเมียร์ลีกในอนาคต และ ยาป สตัม ก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และเป็นแข้งตัวหลักของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชุดทริปเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาล 1998-99
แต่ก่อนที่เขาจะฉายแสงในแดนผู้ดี กองหลังชาวดัคช์ได้สร้างชื่อในบ้านเกิดมาก่อนกับ สโมสรจากทิลเบิร์กและ พีเอสวี จากนั้น สตัม ย้ายกลับมาเล่นในฮอลแลนด์อีกครั้งกับ อาแจ็กซ์ในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง ก่อนจะแขวนสตั๊ดในปี 2007
อเล็กซานเดอร์ อิซัค
ดาวรุ่งชาวสวีดิชจาก เอไอเค โซลน่า ได้เซ็นสัญญาไปอยู่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเดือนมกราคมปี 2017 แม้ว่าจะมีข่าวลือกับ เรอัล มาดริด แต่ทว่า แข้งวัย 20 ปี ก็ไม่สามารถเบียดขึ้นชุดใหญ่เสือเหลืองได้ ทำให้ วิลเล่ม ตัดสินใจขอยืมไปใช้งานในตลาดนักเตะหน้าหนาวปี 2019
การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้ อิซัค กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง เมื่อหอกเลือดไวกิ้ง ซัดไป 14 ประตูจาก 18 นัดให้สโมสร ฟอร์มแบบนี้ไปเตะตา เรอัล โซเซียดาล และคว้าเขาไปร่วมทีมทันทีในซัมเมอร์ปี 2019 ซึ่ง อิซัค ก็ยังรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีระดับหนึ่งด้วยการรัว 43 ประตู จาก 130 เกมให้สโมสรจากแดนกระทิง
เคมี่ อกุสเตียน
อดีตกองกลาง เบอร์มิ่งแฮม, คริสตัล พาเลซ, สวอนซี และ ไบรท์ตัน เริ่มต้นในเส้นทางลูกหนังอาชีพกับ วิลเล่ม ตั้งแต่เป็นเยาวชนและเลื่อนมาเล่นชุดใหญ่ได้ครั้งแรกในปี 2002 ก่อนจะย้ายไปร่วมทีม อาแซด อัลค์มาร์ ในปี 2006
แม้แข้งทีมชาติคูราเซา จะวนเวียนอยู่กับการตกชั้นและหล่นไปเล่นลีกรองในแดนผู้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ช่วงเวลาหนึ่ง เขาก็เคยคว้าแชมป์ลีกคัพมาครองได้ในฤดูกาล 2012-13 กับทีมหงส์ขาว ยุคที่มี ไมเคิล เลาดรู๊ป กุมบังเหียน