รอทาบเบ็คแฮม : วอร์ด-พราวส์ ราชาลูกนิ่งพรีเมียร์ลีกคนใหม่

รอทาบเบ็คแฮม : วอร์ด-พราวส์ ราชาลูกนิ่งพรีเมียร์ลีกคนใหม่

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีก ได้สร้างผู้เชี่ยวชาญด้านการสังหารลูกนิ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เดวิด เบ็คแฮม, เธียร์รี่ อองรี, จานฟรังโก้ โซล่า หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และในตอนนี้ ชื่อของ เจมส์ วอร์ด-พราวส์ ก็จัดอยู่ในนักเตะประเภทนั้นเรียบร้อยแล้ว

ลูกหม้อของ เซาแธมป์ตัน ถือเป็นอีกแข้งที่ขึ้นชื่อในการเตะลูกฟรีคิกในลีกสูงสุดแดนผู้ดีช่วง  2-3 ปีที่ผ่านมา และเขาตอกย้ำความสามารถนี้อีกครั้งด้วยการยิงประตูจากลูกนิ่งในเกมที่พาต้นสังกัดบุกเฉือนชนะ เชลซี 1-0 ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

นั่นทำให้ กองกลางชาวอังกฤษ เป็นนักเตะทำสถิตยิงลูกฟรีคิกไปแล้ว 17 ลูกในพรีเมียร์ลีก ตามหลัง เดวิด เบ็คแฮม ตำนานปีกเท้าช่างทองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แค่ลูกเดียวเท่านั้น

ดังนั้น กองกลางจากทีม ‘นักบุญ’ จะมีสิทธิ์ก้าวขึ้นไปเป็นจอมสังหารลูกนิ่งเบอร์หนึ่งในพรีเมียร์หรือไม่ UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ผ่านบทความชิ้นนี้กัน

 

ลูกหม้อทีมแดนใต้

James Ward-Prowse: I'd love to pick David Beckham's brains | Sport | The Times

แม้เขาจะเกิดในครอบครัวที่เชียร์ทีม พอร์ทสมัธ แต่ วอร์ด-พราวส์ เริ่มอาชีพนักฟุตบอลกับ เซาแธมป์ตัน ทีมอริแดนใต้ของ ‘ปอมปีย์’ ตั้งแต่เป็นเยาวชน ในปี 2003 ซึ่งในขณะนั้นเขามีอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น

เขาค่อยๆ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาเรื่อยจนกระทั่งได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ทีมนักบุญครั้งแรกในปี 2011 ด้วยวัยเพียง 16 ปี กับเกมลีก คัพ พบ คริสตัล พาเลซ และได้โอกาสลงเล่นมากขึ้นในฤดูกาลต่อมาหลังทีมเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกสำเร็จ

เจมส์ กลายเป็นตัวหลักให้เซาแธมป์ตันแบบจริงจังในฤดูกาล 2013-14 ที่ได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุมบังเหียน โดยได้ลงเล่นในเกมลีกถึง 34 นัด

ถึง พอช จะตำแหน่งนายใหญ่ของทีมแดนใต้ไป กองกลางชาวอังกฤษ ก็ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวใจในแดนกลางของสโมสร ทั้งในยุคที่มีกุนซือเป็น โรนัลด์ คูมัน, โคล้ด ปูแอล, เมาริซิโอ เปเยกริโน่, มาร์ค ฮิวจ์ส, ราล์ฟ ฮาเซนฮุทเทิล, นาธาน โจนส์ และ กุนซือขัดตาทัพอย่าง รูเบน เซเยส ในปัจจุบัน

สิ่งที่ทำให้ใครหลายคนรู้จักกับเขาก็คือลีลาการเล่นลูกตั้งเตะที่ยอดเยี่ยม แม่นยำวางจับวาง จนได้รับคำชื่นชมจากคนวงการลูกหนังมากมาย แต่ถึงจะมีข่าวลือกับสโมสรร่วมลีกเป็นครั้งคราว แต่ท้ายที่สุด เขาก็ยังปักหลักค้าแข้งในถิ่น เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม ต่อไป

ณ ตอนนี้ วอร์ด-พราวส์ เป็นนักเตะที่ลงเล่นให้กับ เซาแธมป์ตันมากที่สุดในชุดปัจจุบัน โดยลงสนามทั้งสิ้น 393 นัดในทุกรายการ พร้อมกับได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมในฤดูกาล 2020-21 ด้วย แทนที่ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก ที่ย้ายไปร่วมทีม ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในซัมเมอร์ปี 2020

 

ทีเด็ดลูกนิ่งที่เป็ปยังซูฮก

Pep Guardiola Hails Southampton Star as Best Free Kick Taker in The World Ahead of Messi - SportsBrief.com

ผลงานปัจจุบันของ เซาแธมป์ตัน อาจน่าผิดหวังที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากในฤดูกาล 2022-23 กลายเป็นอีกครั้งที่พวกเขาต้องลุ้นหนีตกชั้น แถมสาหัสเอาการ เมื่อรั้งบ๊วยของตาราง เก็บได้เพียง 18 แต้ม จาก 23 นัด

แต่ วอร์ด-พราวส์ กลับเป็นนักเตะเพียงคนเดียวของ ‘นักบุญ’ ในตอนนี้ที่ผลงานไม่ตก ทำได้ตามมาตรฐานของตัวเอง โดยเฉพาะลูกนิ่งที่ยิงให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ นับตั้งแต่ยิงฟรีคิกเป็นประตูลูกแรกในพรีเมียร์ลีกนัดพบ เวสต์บรอม เมื่อปี 2016

นอกจากนี้ กองกลางชาวอังกฤษ เป็นนักเตะคนที่ 9 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ยิงได้ 2 ประตูจากลูกฟรีคิกในเกมเดียว หลังเกมที่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า 4-3 ในฤดูกาล 2020-21 และเป็นคนแรกที่ทำได้นับตั้งแต่ คริสเตียน อีริคเซ่น เคยทำไว้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในเกมพบ สวอนซี ปี 2015 

2 ประตูดังกล่าวยังทำให้ เขากลายเป็นนักเตะที่ยิงฟรีคิกให้กับ ‘นักบุญ’ มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 8 ประตู แซงหน้า แมทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ตำนานของสโมสรไปแล้ว และปัจจุบันก็แซงหน้าไปไกลด้วยจำนวน 17 ประตู

ไม่แปลกที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเคยออกปากยกย่องให้ กองกลางวัย 28 ปี คือนักเตะที่ยิงฟรีคิกดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้

“ไม่มีใครที่ยิงฟรีคิกได้ดีกว่าเขาอีกแล้ว เซาแธมป์ตันมีนักเตะที่ยิงฟรีคิกได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา หรืออย่างน้อยเขาคือนักเตะที่ยิงฟรีคิกดีที่สุดในโลก ณ ตอนนี้” โค้ชชาวสแปนิช กล่าว

“เขาเก่งมาก เขาคือนักเตะที่เล่นเพื่อทีมและมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยม ทั้งตอนมีบอลและไม่มีบอล”

“เขาเข้าใจเกมเป็นอย่างดี แต่คนส่วนใหญ่สนใจลูกฟรีคิก, ลูกเซ็ตพีซ และลูกเตะมุมของเขามากกว่า”

 

เป้าหมายอยู่ใกล้แค่เอื้อม

Chelsea v Southampton player ratings: Joao Felix 5, Fernandez 6; Ward-Prowse 9, Lavia 8

จากที่เคยตามหลัง ทั้ง เธียร์รี่ อองรี่, จานฟลังโก้ โซล่า , เซบาสเตียน ลาร์สสัน , คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โลร็องต์ โรแบร์, มอร์เตน กัมส์ท พีเดอร์เซ่น, เอียน ฮาร์ท, แฟรงค์ แลมพาร์ด , เจมี่ เร้ดแน็ปป์ และ นอลแบร์โต้ โซลาโน่ วอร์ด-พราวส์ ก็แซงขึ้นมารั้งอันดับ 2 ของนักเตะที่ยิงประตูจากลูกนิ่งในพรีเมียร์ลีกแล้ว

ปัจจุบัน เดวิด เบ็คแฮม อดีตกองกลางแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังครองตำแหน่งเจ้าพ่อลูกนิ่งในพรีเมียร์ลีกอยู่ ด้วยจำนวน 18 ประตูจากการยิงฟรีคิก (ค่าเฉลี่ยยิงประตูจากฟรีคิกทุกๆ 1,198 นาที) ซึ่งเป้าหมายเดียวที่ กองกลางของ เซาแธมป์ตัน ตามหลังอยู่

หลายคนอาจเคยมองว่า การทำปะตูแซงหน้าตำนานปีศาจแดงอาจเป็นเรื่องยากพอสมควร และคงไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ แต่การที่ กองกลางของ นักบุญ ยิงลูกนิ่งได้ถึง 4 ลูกต่อฤดูกาล ในช่วงซีซั่น 2020-21 และ ซีซั่น 2021-22 ทำให้ตัวเลขของเขาพุ่งพรวดเกินคาด

และฤดูกาลปัจจุบัน เขาก็ยิงฟรีคิกไปแล้ว 3 ลูก โดยเกิดขึ้นในเกมพบ ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน และ เชลซี เป็นนัดล่าสุด ซึ่งด้วยฟอร์มการเล่น ณ ตอนนี้ เชื่อว่าประตูที่ 4 จากลูกนิ่งคงตามมาในอีกไม่ช้าแน่ๆ 

ขออีกแค่เพียงลูกเดียเท่านั้น เจ้าตัวจะทำสถิติยิงฟรีคิกเข้ามากสุดใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 18 ประตู เทียบเท่ากับ เบ็คแฮม ทันที และเป็นสิ่งที่เขาคาดหวังไม่น้อยหลังจากนี้

“มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมาก มันมีหลายประตูที่ผมทำได้ดีกว่าลูกนั้น แต่ผมก็ยินดีที่เห็นมันเข้าประตู” กองกลางเลือดผู้ดี เผยกับ BBC Sports หลังเกมพบ เชลซี

“เป็นเรื่องดีสำหรับผมที่รู้ว่าไม่ว่าจะสกิลไหน หากคุณฝึกอย่างหนักเพื่อมัน คุณก็สามารถทำมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ “ตอนเด็กๆ ผมพยายามฝึกยิงฟรีคิกในสวนของที่บ้าน นี่คือสิ่งที่ผมฝัน ซึ่งมันยอดเยี่ยมมากที่ทำสำเร็จแล้วในวันนี้”

เมื่อประตูที่เขารอคอยมาถึง ตำแหน่งราชาลูกนิ่งคนใหม่ของพรีเมียร์ลีก คงไม่ใช่ความฝันสำหรับ วอร์ด-พราวส์ อีกต่อไปอย่างแน่นอน

บทความที่เกี่ยวข้อง

แรชฟอร์ดนำเทรนด์? : เหตุใดชี้นิ้วที่ขมับเป็นท่าฉลองประตูสุดฮิต?
แรชฟอร์ดนำเทรนด์? : เหตุใดชี้นิ้วที่ขมับเป็นท่าฉลองประตูสุดฮิต?