คงไม่มีใครคิดว่า ลิเวอร์พูล จะฟอร์มตกหนักหนาสาหัสขนาดนี้ในฤดูกาล 2022-23 และวิกฤตที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ก็ยากที่เข้าใจได้
ฤดูกาลที่แล้ว ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังมีลุ้นกลายเป็นสโมสรแรกในเกาะอังกฤษที่คว้า 4 แชมป์มาครอง แม้พลาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยการตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแต้มเดียว แต่ก็ยังคว้าแชมป์ลีกคัพ และ เอฟเอ คัพ มาครอง
ทว่าในฤดูกาลล่าสุด หงส์แดง ดูไม่ใช่ทีมเดิมที่หลายคนรู้จัก พวกเขาฟอร์มตกตั้งแต่ช่วงก่อนพักเบรกฟุตบอลโลกแล้ว และก็ผลงานก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นในช่วงปีใหม่ เมื่อตกรอบ ลีกคัพ และ เอฟเอ คัพ ไปแล้วเรียบร้อย รวมถึงโอกาสติดท็อปโฟร์ไปแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ค่อนข้างหริบหรี่อย่างมาก
ด้วยฟอร์มตอนนี้ เดอะ ค็อป อาจเชื่อว่าการไปเล่นฟุตบอลยุโรป ก็อาจเป็นไปได้ยากแล้ว เมื่อพลาดท่าพ่ายให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน 3-0 ใน โมลินิวซ์ และกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ทีมโชว์ฟอร์มได้ย่ำแย่ที่สุดอีกด้วย
และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 8 สถิติสุดวิกฤตที่บ่งบอกชัดเจนว่า ลิเวอร์พูล ย่ำแย่มากแค่ไหนในฤดูกาลนี้
พ่ายเกมเยือนลีก 3 นัดติด
นับตั้งแต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้ามาคุม ลิเวอร์พูล เขาไม่เคยทำทีมแพ้ 3 นัดในเกมเยือนพรีเมียร์ลีก จนกระทั่งในฤดูกาล 2022-23 (เบรนท์ฟอร์ด, ไบรท์ตัน และ วูล์ฟส์)
อีกทั้งนี่เป็นครั้งแรกที่ หงส์แดง พ่าย 3 เกมลีกนัดเยือนติด ในรอบทศวรรษ โดยครั้งสุดท้ายเคยเกิดขึ้น ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ปี 2012 เมื่อทีมพ่ายไป 6 จาก 7 นัดในยุคที่ เคนนี่ ดัลกลิช คุมทัพอยู่
เสียเร็วเสียง่าย
เกมพ่าย วูล์ฟส์ 3-0 ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทีมเสียประตู 2 ลูกในช่วงเวลา 12 นาทีแรก และถือเป็นการเสีย 2 ประตูเร็วที่สุดในลีกของพวกเขานับตั้งแต่ปี 2014 ด้วย
เท่านั้นไม่พอ หงส์แดง ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยังเป็นทีมที่เสียประตูช่วง 5 นาทีของเกมมากที่สุดอีกด้วย
ฝืดสนิทในเกมรุก
เกมรุกของ ลิเวอร์พูล ฟอร์มฝืดมาตั้งแต่ต้นฤดูกาลแล้ว และหลังเสร็จภารกิจฟุตบอลโลก ทีมก็ยังคงฟอร์มบู่เช่นเดิมในเกมรุก เพราะในช่วง 6 เกมที่ผ่านมา ไม่มีแข้งคนไหนในทีมยิงได้มากกว่า 1 ลูกในลีกเลย
การที่ เว้าท์ ฟาส กองหลังของ เลสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นดาวซัลโวของสโมสร นับตั้งแต่หลังบอลโลก ก็บ่งบอกเรื่องนี้ได้ดี หลังทำเข้าประตูตัวเองในเกมที่ จิ้งจอก พ่าย 1-2 เมื่อเดือนธันวาคม
แต้มเดียวหลังขึ้นปีใหม่
ทีมของ คล็อปป์ เพียงเก็บได้เพียงแต้มเดียว จาก 12 คะแนนเต็มเมื่อขึ้นปี 2023 พร้อมกลายเป็นทีมที่เล่นเกมรับได้แย่ที่สุดในลีก หากนับเฉพาะหลังขึ้นปีใหม่ (เสีย 9 ลูก) และมีผลต่างประตูแย่สุด (-8)
โดยนักเตะคนเดียวของทีมที่ยิงประตูได้ในช่วงหลังปีใหม่คือ อเล็กซ์ อ็อกเล็ด แชมเบอร์เลน กองกลางตัวสำรอง
เก็บแต้มเฉลี่ย 1.45 คะแนนต่อเกม
ลิเวอร์พูล มีค่าเฉลี่ยเก็บแต้มเพียง 1.45 คะแนนต่อเกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งหากคงค่าเฉลี่ยนี้ต่อไป พวกเขาจะเก็บได้เพียง 55 คะแนนในตอนท้ายซีซั่น
มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นในยุคพรีเมียร์ลีก ที่ หงส์แดง เก็บแต้มได้น้อยกว่า 55 คะแนน นั่นก็ถือฤดูกาล 1998-99 และ ฤดูกาล 2011-12
เกือบแย่เท่ายุคปู่รอย
ทีมของ คล็อปป์ เก็บแต้มได้แย่ที่สุดในช่วงเวลานี้ของฤดูกาล นับตั้งแต่ฤดูกาล 2010-11 โดนยช่วงนั้นที่ รอย ฮอดจ์สัน คุมทัพ ทีมเก็บได้ 25 แต้มจาก 20 เกมก่อนลาตำแหน่ง หรือน้อยกว่าเพียง 4 แต้ม เมื่อเทียบกับทีมชุดปัจจุบัน
การเสีย เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อาจเป็นจุดหนึ่งที่นำมาใช้เป็นข้ออ้างได้เช่นกัน แต่ช่วงฤดูกาล 2020-21 ที่ทีมเสีย กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และมีปัญหาแนวรับเดี้ยงเกือบยกชุด พวกเขาก็ยังเก็บได้มากกนี้ 8 แต้ม ในช่วงเวลาเดียวกัน
บังโมก็แบกไม่ไหว
นี่คือช่วงเวลาฟอร์มตกสุดๆอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อย่างแท้จริง ทำยิงได้เพียง 7 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
นั่นทำให้ค่าเฉลี่ยทำประตูในลีกของ บังโม เหลือเพียง 254 นาทีต่อลูกเท่านั้น เป็นตัวเลขที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในแอนฟิลด์เลย (2021/22 – 120, 2020/21 – 140, 2019/20 – 152, 2018/19 – 148)
แพ้เยอะแต้มหล่นยับ
ตลอดทั้งฤดูกาล 2018-19 และ 2019-20 รวมกัน ทีมสีแดงจาก เมอร์ซี่ย์ไซด์ แพ้แค่ 4 เกม และทำแต้มหล่น 32 คะแนนเท่านั้น
ทว่าในฤดูกาล 2022-23 หลังผ่านไป 20 นัด พวกเขาแพ้ไปแล้ว 7 เกม พร้อมทำแต้มหล่นไป 31 คะแนน มากกว่า 2 ฤดูกาลนั้นรวมกันเสียอีก