ไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วสำหรับดีลของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังฟอร์มเด่นของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่กำลังจะกลายเป็นนักเตะใหม่รายที่ 2 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้
ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมจนพา อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ ในฤดูกาลล่าสุด ทำให้ เอริค เทน ฮาก นายเก่า ตัดสินใจดึงแนวรับทีมชาติอาร์เจนติน่า เข้ามาร่วมงานกันอีกครั้งในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และประกาศคว้าตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย ลิซานโดร มีค่าตัว 57.37 ล้านยูโร บวกแอดออนอีก 10 ล้านยูโร พร้อมเซ็นสัญญาถึงปี 2027
ทว่ามีแฟนบอล ‘ปีศาจแดง’ ไม่น้อย ที่กังวลในตัวของ ลิซานโดร เนื่องจากมีส่วนสูงเพียง 175 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าดูเตี้ยเกินไปสำหรับนักเตะในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค แถมต้องเล่นในลีกที่มีการเข้าปะทะกันหนักหน่วง รวดเร็ว และใช้พลังกายสุดๆอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วย
อย่างไรก็ดี ในอดีตก็มีกองหลังร่างเล็กหลายรายที่ต่อให้ไม่มีร่างกายสูงใหญ่ตามมาตรฐานทั่วไป แต่กลับทำผลงานได้โดดเด่น จนพาทีมชาติและต้นสังกัดประสบความสำเร็จมากมาย และ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 10 เซนเตอร์แบ็คคุณภาพที่สูงไม่ถึง 180 ซม.ผ่านบทความนี้ และเป็นคนที่ ลิซานโดร ควรยึดเป็นแบบอย่าง
ฟาบิโอ คันนาวาโร่
แม้มีส่วนสูงเพียง 176 ซม. ก็ไม่ได้หยุดยั้งให้ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ คว้ารางวัลบัลลงดอร์ได้ หลังพาทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกอย่างยิ่งใหญ่ในปี 2006 อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 3 กองหลังที่คว้ารางวัลนี้มาครองได้ต่อจาก ฟรานซ์ เบ็คเค่นบาวเออร์ และ มัทธีอัส ซามเมอร์ ด้วย
อย่างไรก็ตาม แรกเริ่มเดิมที อดีตดาวเตะชาวอิตาเลี่ยน ไม่ได้เริ่มเล่นเป็นเซนเตอร์แบ็คตั้งแต่ต้น เพราะเขาเริ่มต้นเล่นเป็นกองกลางมาก่อน ช่วงที่เล่นกับ นาโปลี ในทีมชุดเยาวชน จนกระทั่งโค้ชรายหนึ่งในทีมเห็นแวว จึงขยับเขาไปเล่นในแผงหลังดู แม้จะตัวเล็กกว่าคนอื่นก็ตาม
และความมั่นใจ พร้อมกับฝีเท้าที่โดดเด่น ทำให้ คันนาวาโร่ ประสบความสำเร็จในช่วงที่เล่นกับ นาโปลี, ปาร์ม่า, อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส ทว่าหลังย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด ผลงานของเขาก็ตกลงแม้ได้แชมป์ลาลีก้า 2 สมัยก็ตาม ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 2011
การ์เลส ปูโยล
“ด้วยทรงผมนั้น อาจไม่ได้ทำให้เขาดูเตี้ยเท่าไหร่ แต่ความจริงแล้ว เขาอาจเหมาะสมสุดๆกับความสูงนี้แล้วล่ะ” มาร์ติน คีโอว์น อดีตกองหลัง อาร์เซน่อล กล่าวถึง การ์เลส ปูโยล ที่มีความสูง 178 ซม.
การดวลกับ กองหน้าที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าไม่ใช่ปัญหาสำหรับแข้งระดับตำนานของ บาร์เซโลน่า เลย อีกทั้งภาวะความเป็นผู้นำที่สูงเป็นพิเศษ ทำให้เขาได้รับความไว้ใจจาก แฟรงค์ ไรจ์การ์ด หรือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แม้ไม่ใช่ผู้เล่นที่จ่ายบอลได้ดีเป็นพิเศษตามปรัชญาของกุนซือทั้ง 2 คนก็ตาม
นอกจากประสบความสำเร็จกับ บาร์ซ่า แล้ว ปูโยล ยังเป็นแกนหลักในทีมชาติสเปนยุคทอง ที่คว้าแชมป์ยูโร 2 สมัย และ แชมป์โลกอีกสมัยด้วย
ฮาเวียร์ มาสเคราโน่
ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ อาจเป็นกองกลางตัวรับมาก่อน แต่นั่นก็ทำให้เขากลายเป็นเซนเตอร์แบ็คชั้นยอดได้เช่นกัน ซึ่งเป็นคนที่ ลิซานโดร ควรเอาเยี่ยงอย่างไม่น้อย
ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ สร้างชื่อในช่วงที่เล่นกับ เวสต์แฮม และ ลิเวอร์พูล ในอังกฤษ ก่อนย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2010 แต่ในช่วงที่ ปูโยล และ เอริค อบิดัล บาดเจ็บในปี 2011 ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ลองโยก เซร์คิโอ้ บุสเก็ตส์ ไปเล่นกองหลังดู ซึ่งไม่เวิร์ค ทำให้โอกาสตกมาตรงหน้า มาสเคราโน่ และเขาก็คว้าโอกาสนั้นไว้ทันที จนกลายเป็นกองหลังตัวหลักของทีมยาวนานถึง 6 ปีเต็มหลังจากนั้น
และ บาร์ซ่า ก็กลายเป็นทีมที่ อดีตดาวเตะแดนฟ้าขาวที่สูง176 ซม.ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอาชีพกับ แชมป์ลาลีก้า 5 สมัย, โกปา เดล เรย์ 5 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และ แชมป์สโมสรโลก 2 สมัย
ฟรังโก้ บาเรซี่
ฟรังโก้ บาเรซี่ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาล ด้วยความสูงเพียง 176 ซม. ไม่ได้ทำให้เขาแข็งแกร่ง หรือรวดเร็วเป็นพิเศษ แต่ทักษะในการเล่นเกมรับต้องบอกว่าโดดเด่นไม่เป็นรองใครเลยก็ว่าได้
ด้วยฝีเท้าและลักษณะการเล่นนี้ทำให้ บาเรซี่ กลายเป็นต้นแบบของ เปาโล มัลดินี่ ที่ยึดมาโดยตลอด และเขาใช้เวลากับ เอซี มิลาน แค่สโมสรเดียวตลอดอาชีพค้าแข้งเป็นเวลานานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ปี 1977 จนกระทั่งแขวนสตั๊ดในปี 1997
บาเรซี่ ลงเล่นให้ มิลาน มากกว่า 719 เกมในทุกรายการ พร้อมประสบความสำเร็จทุกถ้วยที่ลงแข่ง นั่นทำให้ ‘รอสโซเนรี่’ ตัดสินใจรีไทร์เบอร์ 6 เพื่อเป็นเกียรติแก่เขาจนมาถึงทุกวันนี้ อีกทั้งยังช่วยให้ อิตาลี คว้าแชมป์โลกในปี 1982 ด้วย
อิวาน กอร์โดบา
เชื่อว่าแฟนบอลยุค 2000 คงจดจำ อิวาน กอร์โดบา ได้เป็นอย่างดี กับสถานะตำนานอีกคนของ อินเตอร์ มิลาน ที่ค้าแข้งกับทีมนานกว่า 12 ปี
ถึงอดีตกองหลังชาวโคลอมเบียมีรูปร่างที่เล็กกว่าเซนเตอร์แบ็คทั่วไป ด้วยความสูงเพียง 173 ซม. แต่เขาก็สามารถเล่นลูกกลางอากาศได้อย่างดี อีกทั้งมีความคล่องแคล่วรวดเร็วมากกว่าแนวรับส่วนใหญ่ในยุคนั้น พร้อมพลังงานที่ล้นเหลือตลอดเกม อีกทั้งความสารพัดประโยชน์ที่สามารถโยกไปเล่นเป็นฟูลแบ็คได้แบบสบายๆ
นอกเหนือจากความสำเร็จกับ ‘เนรัซซูรี่’ แล้ว กอร์โดบา ยังพาทีมชาติโคลอมเบีย ผงาดคว้าแชมป์ทวีปอย่าง โคปา อเมริกา ในปี 2001 ด้วย โดยที่ตัวเขาเองเป็นคนทำประตูชัยพาทีมดับ เม็กซิโก ในนัดชิงชนะเลิศ
โชเซ่ ซานตามาเรีย
โชเซ่ ซานตามาเรีย อาจถูกจดจำในฐานะกุนซือผู้พาทีมชาติสเปน ตกรอบแบ่งกลุ่มรอบ 2 ในศึกฟุตบอลโลกปี 1982 ที่แดนกระทิงเป็นเจ้าภาพ แต่เชื่อว่าหลายคนก็อาจหลงลืมช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเขาในสมัยยังค้าแข้งไปบ้างเช่นกัน
อดีตแข้งวัย 92 ปี พา นาซิอองนาล (1948–1957) ทีมในอุรกวัยบ้านเกิดคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย ก่อนย้ายไปสร้างตำนานกับ เรอัล มาดริด (1957–1966) ด้วยการคว้าแชมป์ลาลีก้า 6 สมัย, โกปา เดล เรย์ 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ 4 สมัย และ อินเตอร์คอนติเนนทัล คัพ 1 สมัย ตลอด 9 ปีใน ซานติอาโก เบอร์นาเบว
และที่สำคัญ ซานตามาเรีย ยังคว้าแชมป์เหล่านั้น ด้วยความสูงเพียง 179 ซม. ถือว่าตัวเล็กพอสมควรในการเล่นเป็นกองหลังในยุคนั้น และต้องปะทะกับกองหน้าร่างใหญ่ไม่น้อยตลอดอาชีพค้าแข้ง
บิลลี่ ไรท์
คงไม่ผิดนักหากจะบอกว่าฟุตบอลมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อ กองหลังนาม ‘บิลลี่ ไรท์’ ได้ฉายแสงขึ้นมา และกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ลงเล่นให้ทีมชาติครบ 100 นัดด้วย
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างคือ การที่ ไรท์ มีความสูงเพียง 173 ซม.ในการเล่นตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค ไม่แปลกที่ในช่วงทดสอบฝีเท้า แฟรงค์ บัคลี่ย์ จะมองว่า ไรท์ตัวเล็กเกินไป แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนในภายหลัง และได้เล่นให้กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นานร่วม 20 ปี ช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลีก 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย ขณะที่ในทีมชาติอังกฤษ ก็ลงเล่นเป็นตัวหลักต่อเนื่องถึง 13 ปี ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 1959
แม้อยู่ในยุคที่เล่นฟุตบอลกันหนักหน่วง แต่ตำนานแข้ง ‘หมาป่าแดนผู้ดี’ ก็ไม่เคยถูกไล่ออกจากสนามเลยแม้แต่หนเดียว อีกทั้งเขาเป็นคนแรกๆที่บุกเบิกการเป็นกองหลังตัวทำเกม ที่สามารถออกบอลได้ดีไม่แพ้กันเข้าปะทะเลย
เคลาดิโอ เจนทิเล่
อาร์เจนติน่า ถูกยกให้เป็นหนึ่งในเต็งแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1982 แต่ก็ต้องมาจดในรอบแบ่งกลุ่มรอบที่ 2 เมื่อ ดีเอโก้ มาราโดน่า สตาร์คนเก่ง โดน เคลาดิโอ เจนทิเล่ กองหลังทีมชาติอิตาลี ประกบติด ปนไล่หวดตลอดเกมจนแผลงฤทธิ์ไม่ออก
นอกจากแชมป์ฟุตบอลโลกในปีนั้นกับทัพ อัซซูรี่ ตัวของ เจนทิเล่ ที่สูงเพียง 178 ซม. ก็ประสบความสำเร็จอย่างมากกับ ยูเวนตุส จนเรียกว่าเป็นตำนานอีกคนของสโมสรเลยก็ว่าได้ โดยลงเล่นไป 283 นัด คว้าแชมป์ เซเรียอา 6 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 2 สมัย, ยูฟ่า คัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ อย่างละสมัยตลอด 9 ปีในตูริน
แดเนี่ยล พาสซาเรลล่า
อีกหนึ่งกองหลังร่างเล็กจากอาร์เจนติน่า อย่าง แดเนี่ยล พาสซาเรลล่า ที่มีความสูงเพียง 173 ซม. และเป็นกัปตันทีม ฟ้าขาว ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกในปี 1978 และอยู่ในชุดแชมป์โลกสมัยที่ 2 ในปี 1986 ด้วย แม้ไม่ใช่ตัวหลักก็ตาม
ดีเอโก้ มาราโดน่า อดีตเพื่อนร่วมทีม เคยยกย่องอดีตเพื่อนร่วมทีมวัย 69 ปีว่าเป็นนักเตะที่เล่นที่ลูกโหม่งได้ดีที่สุดตลอดกาลเลยด้วย และคำพูดของ ‘เสือเตี้ย’ ก็ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด เพราะตลอดอาชีพค้าแข้ง พาสซาเรลล่า ยิงประตูจากเท้าและหัวรวมกันกว่า 175 ลูก จาก 451 เกมอาชีพ โดยเป็นกองหลังที่ยิงประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก โรนัลด์ คูมัน เท่านั้น (253)
และบางทีแนวทางการเล่นของ พาสซาเรลล่า อาจเป็นประโยชน์ต่อ ลิซานโดร ในการย้ายมาเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นได้
เกตาโน่ ซีเรีย
เกตาโน่ ซีเรีย ถือเป็นอีกหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดตลอดกาลเช่นกัน แต่การที่ ตำนาน ยูเวนตุส สามารถเบียด ฟรังโก้ บาเรซี่ จนหลุดทีมชาติอิตาลีนาน 4 ปี ก็บ่งบอกความยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี
ในฐานะที่เล่นเป็นกองกลางมาก่อน ทำให้ ซีเรีย กลายเป็นเซนเตอร์แบ็ค ที่ดีทั้งเทคนิคและด้านแทคติก มีวิสัยทัศน์ ความนิ่ง แถมเล่นกับบอลได้ดี อ่านเกมได้อย่างเฉียบขาด และที่สำคัญคือการเล่นแบบมีคลาส ไม่มีลูกตุกติก ต่างจาก เคลาดิโอ เจนทิเล่ คู่หูของเขา ที่เป็นสายบู๊เข้าปะทะเป็นหลัก ในทีม ‘ม้าลาย’ ชัดเจน
นอกจากนี้ ซีเรีย ยังเป็น 1 ใน 6 แข้งจากยุโรปที่คว้าแชมป์ทุกรายการที่ ยูฟ่า และ ฟีฟ่า จัดการแข่งขันในระดับสโมสร โชคร้ายที่ตัวเขาจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 36 ปี หรือหลังแขวนสตั๊ดได้เพียงปีเดียว หลังประสบอุบัติเหตุรถชนจนเกิดเหตุระเบิด ช่วงกลับจากชมเกม ยูฟ่า คัพ ที่ ยูเว่ พบ กอร์นิค ซาเบอร์เซ่ ที่โปแลนด์ ในปี 1989