ทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทย เตรียมทำการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ดวลกับ ทีมชาติ ไต้หวัน ที่สนามกีฬาแห่งชาติเกาสง ในวันศุกร์ที่ 16 มิ.ย.เวลา 18.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่องไทยรัฐ และ AIS PLAY
โดยก่อนเกม มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทยเผยว่า “ต้องขอบคุณ ไต้หวัน ที่อุ่นเครื่องกับเรา คิดว่าจะเป็นเกมที่ดี แม้จะอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล เรานำผู้เล่น 4 คนจากซีเกมส์ มาผสมกับนักเตะตัวเก๋าอย่างกัปตันทีมของเรา เจ ชนาธิป เราต้องการผลการแข่งขันที่ดี การอุ่นเครื่องที่ ยูเออี เราทำได้ไม่ดีเราจึงต้องเน้นเป็นพิเศษ เรื่องผลการแข่งขัน ส่วนเรื่องฝนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ผมชอบฝนอยู่แล้ว หากสนามสภาพดีคงไม่มีปัญหา เรามีเวลาเตรียมทีมพอสมควร เราฝึกซ้อมตามที่เราต้องการ เราต้องการเล่นให้ดีและเอาชนะทั้ง 2 เกม”
เกมนี้สภาพทีม “ช้างศึก” จะไม่ต้องเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ โดยจะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 นำโดยผู้รักษาประตูวาง สรานนท์ อนุอินทร์ ยืนเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ็กโฟร์ใช้ กฤษดา กาแมน กับ เอเลียส ดอเลาะ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ พร้อมให้ นิโคลัส มิคเคลสัน และ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา เป็นแบ็กสองฝั่ง ส่วนแดนกลางจะวาง สารัช อยู่เย็น กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ยืนเป็นห้องเครื่อง โดยมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นจอมทัพกัปตันทีมคอยบัญชาการเกมรุก ร่วมกับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ , สุภโชค สารชาติ และ ธีรศิลป์ แดงดา
ทางฝั่ง ไต้หวัน ที่มี แกรี ไวท์ กุนซือชาวอังกฤษ เข้ามาคุมทีมในปีนี้ เกมนี้สภาพทีมจะนำโดยแกนหลักอย่าง เฉิน จุ้ย เฉีย แนวรุกวัย 27 ปี และ อู๋ จุ่น ชิง กองหน้าจอมเก๋า วัย 34 ปี
ทั้งนี้ ทีมชาติไทย เพิ่งจะพลาดท่าพ่ายให้ ไต้หวัน 0-1 เมื่อเดือนธันวาคม 2022 ซึ่งกุนซือที่กุมบังเหียน ไม่ใช่ ไวท์ แต่เป็น เย่ เซียน จง ที่อำลาทีมไปแล้ว แต่ก็เขาก็ยังอยู่กับทีมในฐานะผู้ช่วยโค้ช ส่วนสถิติที่เคยดวลกันมา 4 นัดหลังสุด ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาปรากฏว่า ไทย ที่เอาชนะไปได้ 3 นัด และพ่ายไปนัดเดียวมีดังนี้
6 เม.ย. 2000 ไทย 1-0 ไต้หวัน / เอเซียน คัพ 2000 รอบคัดเลือก
12 พ.ย. 2015 ไทย 4-2 ไต้หวัน / ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก
16 มิ.ย. 2015 ไต้หวัน 0-2 ไทย / ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก
14 ธ.ค. 2022 ไทย 0-1 ไต้หวัน / อุ่นเครื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : มาโนยันช้างศึกไม่ประมาทไต้หวัน-ขอแก้มือหลังเคยแพ้นัดที่แล้ว
