บางทีการที่แฟนบอลทั่วๆไปสามารถพาทีมของตัวเองคว้าแชมป์ในวีดีโอเกม หรือ แฟนตาซี ฟุตบอล ได้ซักครั้งก็คือเป็นความสำเร็จในชีวิตแล้ว
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากมีผู้เล่นหลายล้านคนที่เข้าร่วมในการแข่งขันแฟนตาซี ฟุตบอล ของแต่ละประเทศ และจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือคว้าอันดับหนึ่งครอง
แต่ไม่ใช่กับชายชาวโปรตุเกสนามว่า ‘รุย มาร์เกส’
อดีตนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์คว้าแชมป์แฟนตาซี ฟุตบอล 2 ครั้งจากการแข่งขันใน 2 ประเทศที่ต่างกัน คว้าเงินรางวัลไปมากกว่า 100,000 ปอนด์ หรือเกือบๆ 4 ล้านบาทไทย ภายในระยะเวลาแค่ 3 ปี
มากไปกว่านั้นเขายังใช้ความคลั่งในเกมแฟนตาซี ต่อยอดไปยังเกมลูกหนังในชีวิตจริง ว่าแต่เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร ทาง UFA ARENA จะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน
ไม่ได้เก่งตั้งแต่เกิด
รุย มาร์เกสเติบโตเหมือนกับผู้เล่นแฟนตาซี ฟุตบอล ทั่วไป ที่คลั่งไคล้และหลงใหลในกีฬาลูกหนังแบบสุดลิ่มทิ่มประตู
“ผมหลงใหลในกีฬาฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ราวๆ 3-4 ขวบ ผมเป็นเด็กที่ต้องการดูหรือเล่นกีฬาชนิดนี้ตลอดเวลา” ชายวัย 39 ปีกล่าว
แต่โชคร้ายที่เขาไม่ได้มีโอกาสเข้ามาในแวดวงลูกหนังเหมือนนักเตะทั่วไป เนื่องจากพ่อแม่ผู้เข้มงวดของเขาคาดหวังให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมีอาชีพในด้านด้านเศรษฐศาสตร์แทน
“แฟนตาซี ฟุตบอล คืองานอดิเรกของผมยามที่ว่างจากการทำงาน ซึ่งก็คือด้านเศรษฐศาสตร์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมชื่นชอบหรือเป็นเรื่องที่ผมมีพรสวรรค์มากที่สุดเลย”
อย่างไรก็ตาม รุย มาร์เกส ก็ไม่ได้เก่งกาจในเรื่องการวางแผนทำทีมในเกม แฟนตาซี ฟุตบอล มากนักในตอนแรก ทำให้ฤดูกาลแรกของเขาในอังกฤษไปได้ไม่สวยนัก ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เนื่องจากเขาไม่มีความรู้มากพอเกี่ยวกับวงการลูกหนังแดนผู้ดี
“ฤดูกาลแรกของผมไม่ได้วิเศษวิโสอะไรเลย ความรู้ผมอยู่ในระดับที่โอเค แต่ว่าผมไม่รู้ว่าในพรีเมียร์ลีกมีทีมอย่าง แบล็คเบิร์น หรือ เวสต์แฮมอยู่ด้วย”
แต่นั่นคือแรงกระตุ้นที่ทำให้มาร์เกสทุ่มเทการเล่นฟุตบอลจำลองแบบนี้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
ยิ่งแพ้ยิ่งมุ่งมั่น
หลังจากที่เขาทำทีมจบอันดับ 3 ในแฟนตาซี ฟุตบอล ของ เดลี่ มิร์เรอร์ เมื่อปี 2006 มาร์เกสไม่ได้ท้อแท้หรือผิดหวังแต่อย่างใด แต่เขากลับหลงใหลในกิจกรรมสุดฮิตของคอลูกหนังมากขึ้นกว่าเดิมอีก โดยเฉพาะในฟุตบอลอังกฤษ จนทำให้เขาคว้าแชมป์ครั้งแรกได้ในอีกหลายปีต่อมา
“ในปี 2008 ผมชนะการแข่งขันในช่วงสั้นๆ 2 เดือน และจากนั้นผมก็คว้าแชมป์ได้ในฤดูกาล 2009-10 ของ เดลี่ มิร์เรอร์ ซึ่งมีเงินรางวัลราวๆ 25,000 ปอนด์ (ราวๆ 983,046 บาท)”
แต่ปัญหาก็ตามมาหลังจากนั้น เมื่อ แฟนตาซี ฟุตบอล ของ มิร์เรอร์ รวมไปถึงการแข่งขันอื่นๆ เริ่มสงวนสิทธิ์รางวัลให้กับผู้เล่นที่อยู่ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น ทำให้เขาจะไม่ได้เงินรางวัลแม้แต่แดงเดียว หากยังเล่นกับแฟนตาซี พรีเมียร์ลีกอยู่ในปีต่อๆไป
ถึงอย่างนั้น อุปสรรคแค่นี้ก็หยุด รุย มาร์เกส ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับแฟนตาซี ฟุตบอลได้ และในครั้งต่อไป เขาได้เลือกไปเสี่ยงดวงกับ บิลด์ สื่อกีฬาชื่อดังจากเยอรมัน ที่จัดแข่งแฟนตาซี บุนเดสลีก้า นั่นเอง และที่สำคัญมันกลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของอดีตเด็กนักเรียนเศรษฐศาสตร์แดนฝอยทองรายนี้ไปโดยปริยาย
“ในฤดูกาลแรกของเยอรมัน ผมคว้าที่หนึ่งมาได้ (รางวัล 80,000 ปอนด์) ในระยะเวลา 3 ปี ผมคว้ารางวัล 2 ครั้งจาก 2 ประเทศ เพราะฉะนั้น ผมเลยตัดสินใจว่าน่าจะลองเข้าอยู่ในแวดวงกีฬาฟุตบอลของจริงดูซะเลย”
ก้าวสู่โลกลูกหนังของจริง
ในช่วงต้นฤดูกาล 2013-14 มาร์เกสได้รับการติดต่อและเข้าพบเบื้องต้นกับ ปอร์โต้ สโมสรยักษ์ในโปรตุเกส แต่ทว่าแชมป์ลีก 28 สมัยก็ไม่เคยติดต่อกลับมาอีกเลย
แต่เป็นทีมเล็กๆอย่าง เอสโตริล ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ลีกสูงสุดแดนฝอยทองอยู่ ยอมเสี่ยงให้โอกาสเซียนแฟนตาซี ฟุตบอล ทำงานเป็นแมวมองให้สโมสรดู ซึ่งเป็นอาสาสมัครทำงานก่อนในช่วงแรก และหลังจากนั้นเขาก็ทำกำไรให้กับทีมได้อย่างมหาศาล
“ในฤดูกาลแรก สโมสรเซ็นสัญญากับนักเตะ 2 คนที่ผมแนะนำไป (คูค่ากับแอนเดอร์สัน เอซีตี้) ซึ่งหนึ่งในนั้นถูกขายออกจากทีมในอีก 6 เดือนต่อมาโดยทำกำไรได้ถึง 1 ล้านปอนด์เลย” มาร์เกสพูดถึงผลงานชิ้นแรก
หลังจากทำงานเป็นแมวมองให้ทีมในบ้านเกิด 2 ปี รุย มาร์เกส ก็ได้ย้ายไปทำงานต่างแดนครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา กับ สปอร์ติ้ง แคนซัส ซิตี้ ในเมเจอร์ ลีก ซ็อคเกอร์ เมื่อปี 2015 โดยเป็นทีมแมวมองในพื้นภาคยุโรปให้สโมสรและอยู่ยาวถึง 4 ปี
และในปี 2019 เขาได้ย้ายกลับมาทำงานให้ทีมในยุโรปอีกครั้งกับ ลีเกีย วอร์ซอว์ สโมสรระดับต้นๆในลีกสูงสุดของโปแลนด์ โดยทำหน้าที่เป็นแมวมองเหมือนเคย แต่ขยับไปสอดส่องฟอร์มนักเตะในเกมระดับทีมชาติแทน
“เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ผมได้ไปดูเกมที่สก็อตแลนด์พบกับไซปรัส พวกเขาส่งผมให้ประเมินนักเตะบางคนของทีมไซปรัสที่อาจจะเซ็นสัญญาร่วมทีมในซัมเมอร์นี้”
หลังทำงานเป็นแมวมองในโปแลนด์นาน 3 ปี มาร์เกส ก็กลับไป สปอร์ติ้ง แคนซัส ซิตี้ อีกครั้งในตำแหน่งที่เขาคุ้นเคย ในปี 2022 ที่ผ่านมา
ช่างเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่จริงๆสำหรับแฟนบอลทั่วไปที่เริ่มต้นจากแชมป์แฟนตาซี ฟุตบอล สู่แมวมองของสโมสรระดับอาชีพเช่นปัจจุบัน
แม้ในตอนนี้สโมสรในไทยยังไม่มีวี่แววว่าได้แมวมองที่มาจาก เซียนเกมจำลองฟุตบอลบนหน้าจอสี่เหลี่ยมๆ แบบที่มาร์เกสทำได้ในตอนนี้
แต่ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแฟนตาซี ไทยลีก จะช่วยทำให้แมวมองแบบมาร์เกสเกิดขึ้นกับวงการลูกหนังบ้านเราในอนาคตอันใกล้นี้