รางวัลสมเสร็จทองคำ ความอับอายที่ไม่มีใครอยากได้

 

อันเดรีย ปีรโ์ล่ เพิ่งได้รับรางวัลแรกของตัวเองในฐานะโค้ช นั่นคือรางวัลTapiro d’Oro หรือ สมเสร็จทองคำ ที่ทางรายการทีวีจัดทำขึ้นมาเพื่อสร้างเสียงหัวเราะ ซึ่งมันไม่ใช่รางวัลที่น่าชื่นชมเท่าไรนัก เพราะมันคือรางวัลที่มอบให้กับคนที่พบเจอกับเรื่องแย่ๆ หรือความล้มเหลว แต่คนที่ได้รับก็มักจะตลกขบขันไปกับมัน

 

วันนี้ทาง UFAARENA จะพาไปทำความรู้จักกับรางวัลที่ไม่มีใครอยากได้ในประเทศอิตาลีว่ามันคืออะไรมีที่มาที่ไปอย่างไร และมีใครที่เคยได้รับรางวัลนี้บ้างกับ สมเสร็จทองคำ ความอับอายที่ไม่มีใครอยากได้

 

ทำความรู้จักรางวัลสมเสร็จทองคำ

 

 

รางวัลสมเสร็จทองคำ หรือ Tapiro d’Oro เป็นรางวัลของรายการ สตริสชา ลา โนติเซีย รายการชื่อดังในประเทศอิตาลี จัดทำขึ้นเพื่อมอบให้กับบุคคลในวงการบันเทิง , การเมือง และ กีฬา ทั้งนอกและในประเทศ โดยมีพิธีกรหนึ่งคนคอยเข้าไปจู่โจมเพื่อมอบรางวัลให้กับคนต่างๆ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไรนัก เพราะมันมักถูกมอบให้กับคนที่ทำตัวมีปัญหา หรือทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ แถมยังเป็นการให้ พิธีกร เอารางวัลไปยัดเยียดกับมือ ไม่ว่าจะระหว่างเดินทาง หรือกำลังจอดรถเลยทีเดียว

 

 

ซึ่งความตั้งใจของโปรดิวเซอร์รายการอย่าง อันโตนิโอ ริชชี่ ในการใช้สมเสร็จมาเป็นสัญลักษณ์เพราะอยากให้คนที่ได้รับรู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือได้ทำลงไป จากใบหน้าที่ดูเศร้าของตัวสมเสร็จ เรียกว่าเป็นรางวัลที่บางคนก็มองเป็นขำขัน แต่ก็มีคนที่ไม่ได้พอใจกับการได้รับรางวัลนี้มากนัก อย่างเช่นในปี 2003 ไร อูโน่ ผู้อำนวยการของ Fabrizio Del Noce โดน วาเลริโอ สเตฟเฟลลี่ พิธีกรของรายการในเวลานั้นต้อนเข้ามุมก่อนจะโดนทาง อูโน่กระแทกไมค์ใส่หน้าจนจมูกหัก

 

อย่างไรก็ตามนอกจากรางวัลที่มอบเพื่อเป็นความอับอายให้กับผู้คนแล้ว ก็ยังมีรางวัล Platinum Gongolo ที่เป็นขั้วตรงข้าม ซึ่งจะมอบให้กับคนที่ทำผลงานดี หรือเป็นที่น่าระทับใจต่อสังคม เรียกว่าเป็นรางวัลที่มีไว้เพื่อให้กำลังใจคนทำตัวดีตรงข้ามกับรางวัลสมเสร็จคนละขั้วเลยทีเดียว

 

คนวงการลูกหนังที่เคยได้รับรางวัล

 

 

แม้ว่ารางวัลนี้จะไม่ได้เจาะจงมอบให้กับนักฟุตบอล แต่ก็มีคนในวงการลูกหนังไม่น้อยที่ได้รับรางวัลนี้ไล่มาตั้งแต่นักเตะไปจนถึงประธานสโมสร อย่างล่าสุด อันเดรีย ปีร์โล่ ที่ผันตัวมาเป็นโค้ชของยูเวนตุส ก็ได้รับรางวัลนี้ไป เนื่องจากผลงานที่ไม่ค่อยสู้ดีจากการชนะแค่ 2นัดจาก 5นัดในลีก แถมยังไปแพ้บาร์เซโลน่าในแชมเปี้ยนส์ลีกอีก ทำให้เขาได้รับรางวัลนี้ไป

 

นอกจากนี้ในอดีตก็ยังมี จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารของเอซี มิลาน , มาริโอ บาโลเตลลี่ หอกจอมเกรียนช่วงที่ย้ายมาเล่นให้เบรสชา ในขณะที่นักเตะดังๆในอดีตก็เคยได้รับมาแล้วทั้งนั้นไล่มาตั้งแต่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช , จานลุยจิ บุฟฟ่อน , ฟรานเชสโก้ ต๊อดติ , เดวิด เบคแฮม , อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ , ริวัลโด้ หรือแม้กระทั่ง โรนัลโด้ R9 เองก็ด้วย นี้เป็นแค่ส่วนนึงของรายชื่อนักเตะที่ล้วนเป็นตำนานซึ่งเคยได้รับรางวัลที่น่าอายแบบนี้ไปครอง ในขณะที่ อันโตนิโอ คาสซาโน่ เจ้าพ่อแห่งความเกรียนที่ได้สมเสร็จตัวใหญ่ที่สุดพร้อมสวมมงกุฎให้ไปครองคนเดียวแบบเน้นๆ

 

 

สำหรับพวกนักเตะส่วนใหญ่ก็จะมาจากฟอร์มการเล่นอันห่วยแตก หรือความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงความปากเปราะ วีรเกรียนนอกสนาม อย่างในรายของดอนนารุมม่าก็เกิดขึ้นจากการที่เขาจ่ายบอลไปติดขาของกองหน้าฝ่ายตรงข้าม กระดอนกลับมาเข้าประตูตัวเอง ทำให้ทีมแพ้ไปในเกมนั้น นอกจากนี้ยังมีพวกกุนซืออย่างเช่น โรแบร์โต้ มันชินี่ , เปาโล มัลดินี่ ในช่วงที่ผันตัวมาเป็นผู้อำนวยการกีฬาของเอซี มิลาน หลังทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ ไปจนถึง ประธานสโมสรอย่าง มัสซิโม่ โมรัตติ อดีตประธานอินเตอร์ มิลานก็เคยได้รางวัลนี้ด้วย โดยคนที่ได้รับรางวัลส่วนใหญ่ก็รับมาด้วยความตลกขบขันกันไป

 

 

รางวัลแห่งความอับอายในลีกอิตาลีไม่ได้มีแค่รางวัลเดียว

 

 

นอกจากรางวัลสมเสร็จทองคำแล้ว ยังมีอีกรางวัลที่เรียกว่า Bidone d’Or หรือถังขยะทองคำที่ทำเลียนแบบรางวัลบัลลงดอร์ที่เป็นการให้กับนักเตะชั้นยอดของโลก แต่ถังขยะทองคำเป็นรางวัลของ Catersport รายการทีวีแดนมะกะโรนี ที่จะประกาศรางวัลดังกล่าวให้กับนักเตะต่างชาติที่ทำผลงานยอดแย่ในลีกเป็นประจำทุกปี เรียกว่าถ้าสมเสร็จทองคำเป็นในเชิงเสียดสีไปทางขบขัน รางวัลนี้ก็เป็นการเสียดสีไปในเชิงทับทมเลยทีเดียว ซึ่งนักเตะชื่อดังที่เคยได้รับรางวัลนี้ก็มีทั้ง อาเดรียโน่ จากอินเตอร์ มิลาน ที่ได้ไปถึง 3สมัย , ริวัลโด้ , ดีเอโก มิลิโต และ อเล็กซานเดร ปาโต้ เป็นต้น ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังมีการมอบรางวัลดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าเป็นรางวัลคู่ขนานกับ บัลลงดอร์ แต่ไม่มีใครอยากได้

 

ซึ่งถ้าเปรียบเทียบฟอร์มนักเตะที่ได้รับรางวัลนี้อย่าง กาเบรียล บาโบซ่า กองหน้าดาวรุ่งที่เคยย้ายมาอยู่กับอินเตอร์ มิลาน เมื่อปี 2016 แต่เจ้าตัวกลับทำผลงานได้แค่ประตูเดียว จากการลงสนาม 10นัด ทั้งที่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บใดๆรบกวน จนทำให้ในปีนั้นรางวัลถังขยะตกไปเป็นของนักเตะที่เคยเป็นตัวความหวังในอนาคต ส่วนชะตาชีวิตของเจ้าตัวในเวลาต่อมาก็โดนงูใหญ่ปล่อยตัวให้ เบนฟิก้า , ซานโตส และฟลาเมงโก้ ยืมตัว ก่อนที่จะถูกขายขาดให้กับ ฟลาเมงโก้ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา