หลายคนคงทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า ราล์ฟ รังนิค คือกุนซือคนใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีสัญญาระยะสั้นคุมทีมจนถึงจบฤดูกาลนี้ ก่อนขึ้นไปนั่งเก้าอี้ที่ปรึกษาของสโมสรต่ออีก 2 ปี
กุนซือชาวเยอรมันขึ้นชื่ออย่างมากกับระบบ ‘เกเก้นเพรสซิ่ง’ ที่เร่งกดดันใส่ตั้งแต่แดนบน และรวดเร็วที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และกลายเป็นต้นแบบในหมู่ยอดกุนซือสายเลือดเยอรมันอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์, โธมัส ทูเคิ่ล, ยูเลี่ยน นาเกลส์มัน รวมทั้ง ฮันส์-ดีเทอร์ ฟลิค นายใหญ่ทัพ อินทรีเหล็ก คนปัจจุบัน
แม้ยังไม่ได้คุมทีมในเกมดวล อาร์เซน่อล วันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากยังรอวีซ่าอนุญาตการทำงานในแดนผู้ดี แต่คาดว่ากระบวนการดังกล่าวน่าจะเสร็จลุล่วงทันเวลาก่อนเกมเปิด โอลด์ แทร็ฟฟอร์ ดวล คริสตัล พาเลซ สุดสัปดาห์นี้
การเข้ามาของ กุนซือใหม่จากเมืองเบียร์ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีม ‘ปีศาจแดง’ แน่นอน นั่นอาจช่วยให้นักเตะบางคนที่ฟอร์มตกในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งก็เป็นได้ ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าบางคนอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงพอพาทุกท่านไปวิเคราะห์ว่าแข้ง ยูไนเต็ด คนไหนที่จะได้รับประโยชน์ หรืออาจเสียหายจากการมาของ รังนิค ในโรงละครแห่งความฝัน
– กลุ่มผู้มีชัย –
เมสัน กรีนวู้ด
หนึ่งในนักเตะตัวหลักที่ โซลชา ปลุกปั้นก่อนถูกดันไปเล่นด้านกว้าง หลังการกลับมาของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ภายใต้กุนซือใหม่ กรีนวู้ด ก็ยังหนุ่มแน่นน่าจะได้รับความไว้วางใจในแดนหน้าต่อไปเหมือนกัน
แท็กติกหน้าคู่ของ รังนิค จะเอื้อประโยชน์ให้แนวรุกวัย 19 มีโอกาสลงสนามมากขึ้น และการไล่เพรสใส่คู่แข่งตั้งแต่แดนหน้าก็ต้องอาศัยลูกสด ซึ่ง กรีนวู้ด พร้อมตอบสนองนโยบายของบอสใหม่อยู่แล้ว
อีกทั้งการที่ ดาวยิงชาวอังกฤษ ยิงประตูได้เฉียบคมทั้ง 2 เท้ายิ่งทำให้เขาเป็นตัวเลือกในอุดมคติที่เข้าตาสำหรับกุนซือชาวเยอรมันมากขึ้นไปอีก
มาร์คัส แรชฟอร์ด
ด็อกเตอร์ผู้ใจบุญอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เป็นตัวหลักมาตั้งแต่ยุค โซลชา และจะได้ต่อยอดพัฒนาให้ทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมือนตอน ติโม แวร์เนอร์ ได้รับการติวเข้มจาก รังนิค ตอนอยู่แอร์เบ ไลป์ซิก และก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นแถวหน้าบนเวทีบุนเดสลีกา
ด้วยความคล่องแคล่วไปกันบอลได้ดี รวมถึงความเร็ว, การจบสกอร์ เชื่อว่า กองหน้าทีมชาติอังกฤษ อาจถูกวางเป็นกองหน้าตัวหลัก ‘ปีศาจแดง’ คู่กับ กรีนวู้ด ภายใต้การดูแลของ ‘เดอะ โปรเฟสเซอร์’ ก็เป็นได้
เจดอน ซานโช่
หลายคนยังไม่เห็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของ เจดอน ซานโช่ เลย นับตั้งแต่ย้ายจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ในซัมเมอร์นี้ แต่ผลงานก็ดูกระเตื้องขึ้นมาบ้าง หลังกดไป 2 ประตู ใน 2 เกมหลังสุด แม้ยังไม่แอสซิสต์เลยจาก 16 นัดที่ลงเล่นในทุกรายการ
แต่การที่ รังนิค เห็น ปีกเลือดผู้ดี มาตั้งแต่เล่นและสร้างชื่อในเมืองเบียร์กับ ‘เสือเหลือง’ เลยมีฐานข้อมูลรวมทั้งคู่มือใช้งานเรียบร้อย และอาจเป็นคนที่กระชากฟอร์มให้ ชานโซ่ กลับมาเฉิดฉายอีกครั้งในเวทีพรีเมียร์ลีก
ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค
ภาพลักษณ์ตัวสำรองอดทนในยุค โอเล่ น่าจะค่อยๆ จางหายไปในยุคของกุนซือชาวเยอรมัน โดยมีข่าวว่า เขา รวมไปถึง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ชะลอแผนย้ายทีมช่วงปีใหม่กันเรียบร้อย
ด้วยสไตล์รูปแบบการเล่นของกุนซือ ‘ปีศาจแดง’ คนใหม่ ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับ กองกลางดัตช์แมน เพราะเป็นทรงเดียวกับที่คุ้นเคยสมัยเล่นให้อาแจ็กซ์ภายใต้คอนโทรลของ เอริก เทน ฮาก และความเข้าใจในแผน ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของตนเองก็จะทำให้ ดอนนี่ ไปได้สวยกับทีมในยุคของ ‘ศาสตราจารย์’ เช่นกัน
ราฟาเอล วาราน
ด้วยดีกรีกองหลังแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศส และกวาดมาแล้วทุกแชมป์กับ เรอัล มาดริด เชื่อว่า ราฟาเอล วาราน จะยังคงได้รับความไว้วางให้เป็นเสาหลักในแผงหลังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไปในมือกุนซือเมืองเบียร์ไม่ต่างจากช่วงที่ โซลชา คุม
หากไม่มีปัญหาบาดเจ็บหรือติดโทษแบน เชื่อว่าแนวรับแดนน้ำหอม จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ ปีศาจแดง แน่นอน
บรูโน่ แฟร์นานเดส
นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2020 บรูโน่ แฟร์นานเดส ก็เป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ขาดไม่ได้ และมีส่วนร่วมกับประตูที่เกิดขึ้นในทีมบ่อยๆ ทั้งยิงเองหรือจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมใส่สกอร์
แม้ฟอร์มในฤดูกาลนี้จะดร็อปลงไปบ้าง แต่คาดว่า แข้งทีมชาติโปรตุเกส จะยังเป็นตัวหลักใน ปีศาจแดง ที่ได้กุนซือชาวเยอรมัน มากุมบังเหียน แทนที่ โซลชา เช่นเดิม ด้วยทักษะที่ครบเครื่องทั้งการสร้่างสรรค์เกมรุก วิสัยทัศน์ หรือความขยันในการวิ่งหาช่องหรือวิ่งไล่บอล
– กลุ่มกลางๆ –
เฟร็ด
แม้จะได้รับโอกาสบ่อยๆในยุคของ โอเล่ แต่เหล่า เร้ด เดวิลส์ ส่วนใหญ่ ล้วนส่ายหน้าบ่อยๆ ยามได้เห็น เฟร็ด ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง ทั้งๆที่ผลงานไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่
ปัญหาหลักๆของ กองกลางทีมชาติบราซิล คือทำผลงานไม่สม่ำเสมอนักในสีเสื้อสโมสร โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับตอนเล่นให้ทีมชาติแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน และเป็นสิ่งที่ยังแก้ไขไม่ได้ตลอดเวลาที่กุนซือชาวนอร์เวย์คุมทีม
อย่างไรก็ดี แข้งแซมบ้าก็ยังมีโอกาสเป็นตัวหลักใน ปีศาจแดง ยุค รังนิค เช่นกัน เพราะเขาเป็นนักเตะ ยูไนเต็ด ที่มีค่าเฉลี่ยวิ่งเพรสซิ่งกดดันคู่แข่งบ่อยที่สุดในทีม โดยสูงถึง 26.6 นาทีต่อการเล่น 1 นัด ทว่าทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับฟอร์มโดยรวมในสนามว่า เฟร็ด จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน เมื่อได้รับโอกาส
สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์
ถึงผลงานจะไม่ได้แย่นัก แต่สภาพโดยรวมของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ก็ไม่ต่างจาก เฟร็ด ที่ไม่ได้สร้างอิมแพ็คให้กับแดนกลางของ ปีศาจแดง เลยในฤดูกาลนี้
แต่ด้วยวัยที่ยังหนุ่มแน่นเพียง 24 ปี ก็อาจทำให้ กองกลางทีมชาติสกอตแลนด์ เป็นตัวเลือกในแผงมิดฟิลด์สำหรับกุนซือชาวเยอรมันอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องลูกขยันที่ไม่เป็นสองรองใครก็อาจทำให้ปรับตัวเข้ากับแผน เกเก้นเพรสซิ่ง ได้เช่นกัน แต่จะทำผลงานได้ดีกว่ากองกลางคนอื่นๆหรือไม่ เวลาเท่านั้นคือคำตอบ
วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ
ปัญหาการเล่นร่วมกับ แม็คไกวร์ ไม่เข้าขาลงตัวเสียทีจนพลาดเสียประตูอยู่หลายๆครั้ง ทำให้ โซลชา ต้องคว้า ราฟาเอล วาราน เข้ามาเสริมในแนวรับ และส่งผลต่อสถานะตัวจริงของ ลินเดอร์เลิฟ ในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกุนซือเกิดขึ้น โอกาสที่กองหลังทีมชาติสวีเดนจะกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงก็มีขึ้นเช่นกัน เช่นเดียวกับ เอริค ไบยี่ กองหลังตัวสำรองอีกคน ขึ้นอยู่ว่าทั้งคู่จะทำผลงานได้ดีแค่ไหนยามได้ลงสนาม
– กลุ่มผู้เสียหาย –
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ด้วยวัย 36 กะรัตมันก็เกิดข้อสงสัยว่า CR7 จะเหมาะกับแผนของ รังนิค หรือไม่ โดยย้อนกลับไป 5 ปีที่แล้ว กุนซือชาวเยอรมัน เคยให้สัมภาษณ์ตอบคำถามว่าระหว่าง ลิโอเนล เมสซี่ หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เขาจะเลือกใครมาเล่นให้ไลป์ซิก ซึ่งคำตอบที่ออกมาก็ทำเอาทุกคนอึ้ง เพราะเขามองว่าแม้ทั้งคู่เป็นยอดแข้งในยุคปัจจุบัน แต่ก็มีอายุมาก และค่าตัวแพงเกินไป
อย่างไรก็ตาม กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ก็ยังเป็นเครื่องจักรถล่มประตู โดยเฉพาะในแชมเปี้ยนส์ลีก. ที่ยิง 6 ประตูจาก 5 เกมพา ‘ปีศาจแดง’ เข้ารอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ
แม้อายุจะดูแก่ แต่ โรนัลโด้ ก็รักษาร่างกายยอดเยี่ยม และฟิตเปรี๊ยะจนพวกหนุ่มๆ ต้องอายกันไม่น้อบ และนั่นก็อาจเป็นกุญแจสำคัญช่วยให้เขาปรับตัวเข้ากับเกเก้นเพรสซิ่ง ก็เป็นได้
ดาบิด เด เคอา
ด้วยฟอร์มซูเปอร์เซฟในช่วงนี้ ไม่ต้องสงสัยเรื่องการันตีตำแหน่งมือหนึ่ง แต่ระบบที่ รังนิค กำลังนำเข้ามาในทีม ‘ปีศาจแดง’ อาจไม่เข้ากับ ดาบิด เด เคอา ก็เป็นได้
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะ แผนของกุนซือชาวเยอรมัน จะไม่นิยมการส่งบอลกลับหลังให้ผู้รักษาประตู และจะอาศัยการอ่านเกมของนายทวารให้ออกมาเล่นคล้ายๆ เป็น สวีปเปอร์ คอยเคลียร์สกัดจังหวะอันตราย เวลาที่แผงหลังดันสูงไปสนับสนุนแผนเกเก้นเพรสซิ่งในแดนบน ซึ่งอาจเข้าทาง ดีน เฮนเดอร์สัน นายด่านมือสองมากกว่า
ลุค ชอว์
ลุค ชอว์ เป็นหนึ่งในแข้งผีที่ทำผลงานได้ดีตลอด 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แถมฟอร์มกับทีมชาติอังกฤษก็ยอดเยี่ยมโดดเด่นในยูโร 2020 แม้ในซีซั่นปัจจุบันจะหลุดฟอร์มอยู่หลายครั้งก็ตาม
แต่เมื่อปีก่อน รังนิก เคยตั้งคำถามว่า ชอว์ เหมาะสมแค่ไหนกัลการเป็นแบ็กซ้ายตัวจริงของยูไนเต็ด โดยกล่าวไว้ว่า “ผมยังคิดว่าพวกเขาสามารถทำอะไรกับแบ็คซ้ายได้ ผมรู้ว่าพวกเขามีลุค ชอว์ แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเขายังอยู่ในระดับเดียวกับที่คุณต้องการสำหรับสโมสรอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดหรือเปล่า”
นั่นทำให้นี่จะเป็นอีกครั้งที่ อดีตลูกหม้อของ เซาแธมป์ตัน ต้องพิสูจน์ตัวเองเพื่อพลิกชนะใจนายใหม่ให้ได้
ปอล ป็อกบา
แค่ลำพังคำว่า “เพรสซิ่ง” กับ ดาวเตะฝรั่งเศส ชุดแชมป์โลก มันก็ไม่เข้าแล้ว แถม รังนิค เคยสัมภาษณ์ไว้เมื่อปี 2017 ว่า “ป็อกบา ไม่เหมาะกับสไตล์ของเขา”
แต่มันคงดีมากๆ หากเจ้าของฉายา ‘โปรเฟสเซอร์’ สามารถค้นเจอวิธีดึงพรสวรรค์ และศักยภาพล้นเหลือจากตัวป็อกบาได้
แต่มันก็คงเป็นภาพที่ขัดแย้งกันไม่น้อย เมื่อ ป็อกบา วิ่งโขยกเหยาะๆ ท่ามกลางแข้งผีคนอื่นๆ ที่เร่งสปีดสับฝีเท้าเต็มเหนี่ยวในกลไก “เกเก้นเพรสซิ่ง” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย และนั่นอาจกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขาใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็เป็นได้
แฮร์รี่ แม็คไกวร์
กองหลังค่าตัวสถิติโลกกลับกลายเป็นบ่อน้ำมันในสายตาของแฟนบอลในฤดูกาลนี้ สำหรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ทั้งๆที่ในศึกยูโร 2020 ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกับทีมชาติอังกฤษเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
สาเหตุหลักที่ อดีตแนวรับ เลสเตอร์ ฟอร์มตกลงอย่างน่าใจหาย คือปัญหาด้านความฟิตที่ไม่สมบูรณ์ แต่ถูกเข็นลงสนาม และกลายเป็นจุดอ่อนของทีมในที่สุด
การมาของ รังนิค อาจทำให้ แม็คไกวร์ ไม่ได้การันตีตำแหน่งตัวจริงในทีมอีกต่อไป โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในช่วงหลังที่แย่เกินทน
อารอน วาน-บิสซาก้า
เหล่าผู้เล่นแนวรับที่ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐานคงตกอยู่ในภาวะกดดันไม่น้อยจากการมาของ รังนิค และหนึ่งในนั้นก็คือ อารอน วาน-บิสซาก้า ที่อาจเป็นอีกคนที่สูญเสียตำแหน่งตัวจริง
แม้มีจุดเด่นเป็นเกมรับและการเข้าสกัดที่แม่นยำ แต่การเล่นเกมรุก อดีตแบ็ค คริสตัล พาเลซ ไม่สามารถหวังผลอะไรได้เลย ซึ่งขัดการแผนการเล่นของกุนซือชาวเยอรมันที่วางให้ผู้เล่นตำแหน่งฟูลแบ็คมีส่วนสำคัญในการทำเกมรุกด้วย