“ไม่มีใครที่รัก เปแอสเช ที่จะไม่หงุดหงิดกับการตกรอบ และรู้สึกไปในทิศทางอื่น ผมคิดว่าความโศกเศร้าคือคำที่อธิบายความรู้สึกของพวกเราในตอนนี้ได้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่ เมสซี่ และ เนย์มาร์ เท่านั้น แต่เราทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งหมด เราเข้าใจถึงความผิดหวังและความคับข้องใจที่เราต้องแบ่งปันร่วมกัน “
คำกล่าวของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือชาวอาร์เจนไตน์ สะท้อนถึงความเจ็บปวดใจและผิดหวังของแฟนบอล “เปแอสเช” ได้เป็นอย่างดี หลังต้องร่วงตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมด้วยการพ่ายให้กับ เรอัล มาดริด ไปแบบเหลือเชื่อ เพราะขนาดที่ว่า ลีโอเนล เมสซี่ ดาวเตะหมายเลข 1 ของโลก รวมไปถึง เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์หมายเลข 1 ของทีม ก็ยังไม่รอดพ้นจากเสียงโห่ไล่ แม้พวกเขาจะลงเล่นครบ 90 นาที ในเกมถล่มเอาชนะ บอร์กโดซ์ 3-0 ในเกมต่อมาในลีกเอิง ก็ตาม
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แข้งระดับซูเปอร์สตาร์ในโลกลูกหนังจะโดนแฟนบอลของทีมตัวเองโห่ใส่ด้วยความผิดหวัง และวันนี้เราจะขอพามาดูว่าก่อนหน้านี้มีใครกันที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องแสนเศร้าเช่นนี้กันบ้าง
กรานิต ชาก้า (อาร์เซน่อล)
กองกลางฮาร์ดแมนทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่เคยสวมปลอกแขนกัปตันทีม “ไอ้ปืนใหญ่” อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ด้วยฟอร์มการเล่นในสนามที่ย่ำแย่ และชอบเสียใบแดงแบบโง่ๆ ทำให้เขาโดนเหล่าแฟนบอล กูนเนอร์ส ทั้งในโลกโซเชียล และในสนามตามด่าอยู่บ่อยครั้ง
จนกระทั้งความอดทนก็ถึงขีดสุดในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อปี 2019 ในช่วงที่ทัพ ไอ้ปืนใหญ่ เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 2-2 ชาก้า ได้ถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง ก่อนที่เขาจะโดนแฟนบอลโห่ไล่อย่างคับคั่ง จนในที่สุด ดาวเตะแดนนาฬิกา ก็หลุดด่าว่า “ฟัคออฟ” ออกมาต่อหน้าแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่ ในสนาม เอมิเรตท์
ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็โดนริบปลอกแขนกัปตันทีมทันที และเหมือนกับว่าจะหมดอนาคตกับทีมไปแล้ว แต่สุดท้ายด้วยความมุ่งมั่นทำให้เขาได้รับโอกาสจาก มิเกล อาร์เตต้า อีกครั้ง และยังสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงกลับมาได้จนถึงปัจจุบัน
ริโอ เฟอร์ดินานด์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)
ปราการหลังระดับตำนานของทีมชาติอังกฤษ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่รอดพ้นจากเสี่ยงโห่ไล่ในสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เช่นกัน เพราะแม้เขาจะโชว์ฟอร์มแกร่งมากแค่ไหน แต่เมื่อปี 2005 ดาวเตะฉายา เฟอร์ดี้ 5 นั้นมีข่าวว่าต้องการย้ายไปร่วมทัพ เชลซี ซึ่งยื่นข้อเสนอก้อนโต้เข้ามาให้ ยูไนเต็ด พิจารณา จนถึงกับทำให้เขาเบรคเรื่องการต่อสัญญาฉบับใหม่กับทัพ ปีศาจแดง ที่มีค่าเหนื่อยสูงถึง 100,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
และนั่นก็ทำให้ในช่วงปรีซีซั่น ทุกนัดที่ ริโอ ลงสนามในบ้านตัวเอง เหล่าแฟนบอลเร้ดเดวิลส์ ต่างโห่ใส่เขาตลอดเวลา จนสุดท้ายเจ้าตัวต้องรีบตัดสินใจที่จะต่อสัญญาฉบับใหม่ออกไปก่อนที่ทุกอย่างจะบานปลายก่อนฤดูกาลจะเริ่มต้นขึ้น
แกเร็ธ เบล (เรอัล มาดริด)
ดาวเตะทีมชาติเวลส์ คือหนึ่งในนักเตะที่โดนแฟนบอลลืมผลงานในสนาม ที่เคยสร้างเอาไว้มากที่สุดคนหนึ่ง เพราะแม้เขาจะเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยช่วยทีมคว้าแชมป์ ยุโรปเมื่อปี 2018 แต่กับเหล่าแฟนบอล โลส บังโกส กลับไม่ได้มองเห็นแค่ตรงนั้น เนื่องจากภาพลักษณ์นอกสนามของเขาที่มักจะชอบไปตีกอล์ฟ และไม่สะทกสะท้านกับผลงานของทีม เพราะมีหลายครั้งที่เสียประตู กล้องมักจะจับว่าเขานั่งยิ้มสบายใจอยู่ที่ม้านั่งสำรอง
จนเมื่อได้โอกาสลงสนามแต่ละเกมในช่วงนั้น เบล ก็จะโดนแฟนบอลส่งเสียงโห่อยู่ตลอด จนทำให้ฟอร์มของเขาดร็อปลงไปอย่างน่าใจหาย และปัจจุบันนี้ก็รอเพียงเวลาที่จะหมดสัญญาเพื่ออำลาทีมเท่านั้น
เฟร์นานโด ตอร์เรส (เชลซี)
นี่คือหนึ่งในแข้งที่ถูกตราหน้าว่าเป็นความล้มเหลวของตลาดหน้าหนาวตลอดกาล หลังย้ายจาก ลิเวอร์พูล ไปร่วมทัพ เชลซี แบบสุดช็อคในช่วงวันสุดท้ายของตลาดนักเตะเดือน ม.ค.ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติของลีกในตอนนั้นที่ 50 ล้านปอนด์ ซึ่งด้วยฟอร์มการถล่มประตูกับ “หงส์แดง” ช่วงนั้นใครก็ต้องคิดว่าดาวยิงกระทิงดุ จะเข้ามาเติมเต็มเกมรุกของทัพ “สิงห์บูลส์” ได้อย่างแน่นอน
แต่ความจริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อผลงานของเขานั้นต่างกับการเล่นที่ ลิเวอร์พูล ราวฟ้ากับเหว และในที่สุดความอดทนของแฟนบอลก็หมดลงในเกมที่ เจ้าตัวลงเล่นครบ 100 นัดให้กับทีมพอดี ซึ่งเกมนั้นทัพ สิงห์บูลส์ พลิกล็อค พ่าย สวอนซี ในถ้วยลีกคัพ 0-2 ซึ่ง ตอร์เรส นั้นโดนแฟยบอลตามโห่ตลอดเทั้งเกม ก่อนที่เขาจะโดนเปลี่ยนตัวออกไปด้วยความผิดหวังสุดๆ
แอชลีย์ โคล (อังกฤษ)
ไม่มีใครปฏิเสธว่า โคล คือหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกในช่วงเวลาหนึ่ง แต่กับชีวิตส่วนตัวแล้ว เขาเป็นนักฟุตบอลที่แฟนบอลชาวอังกฤษทั้งรักทั้งเกลียดมากพอๆ กัน จนเมื่อปี 2008 ในเกมคัดบอลโลก ที่ทีมชาติอังกฤษ ลงสนามดวล คาซัคสถาน ปรากฏว่าแฟนบอลในสนาม เวมบลีย์กว่า 89,000 คน นั้นต่างส่งเสียงโห่ โคล ตลอดแทบทั้งเกม จากวีรกรรมการนอกใจ เชอรีล โคล อดีตภรรยาสาวขวัญใจชาวเมืองผู้ดี แม้ว่าสุดท้ายทัพ “สิงโตคำราม” จะเอาชนะไปได้ 2-0 ก็ตาม
แต่หลังจากผ่านไป 2 ปี โคล ก็กลับมาได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลอังกฤษอีกครั้ง หลังสร้างผลงานส่วนตัวได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ทีมชาติอังกฤษจะมีฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังในฟุตบอลโลก 2010 ก็ตาม ไม่เพียงเท่านั้นเขายังได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของอังกฤษ ประจำปี 2010 และเป็นกองหลังคนแรกที่ได้รางวัลนี้
จอร์จินโญ่ (เชลซี)
ห้องเครื่องคนสำคัญของทัพ สิงห์บูลส์ นับเป็นแข้งที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดเมื่อฤดูกาลก่อน เมื่อช่วยทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ,สโมสรโลก ขณะที่ในทีมชาติกับ อิตาลี ก็คว้าแชมป์ ยูโร 2020 มาครองอย่างยิ่งใหญ่
แต่ใครจะรู้ว่าดาวเตะค่าตัว 47 ล้านปอนด์รายนี้ เคยโดนแฟนบอล สิงห์บูลส์ ตามโห่มาแล้ว ตั้งแต่เกมแรกที่ประเดิมสนาม หลังทำผลงานได้ต่ำกว่าที่คาดหวัง ในเกม ยูโรป้า ลีก ที่ดวลกับ มัลโม่ เมื่อฤดูกาล 2018/19 ก่อนที่สุดท้าย เขาจะโดน เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือของทีมเปลี่ยนตัวออกจากสนามและให้ รอสส์ บาร์คลีย์ ลงมาเล่นแทน
เดวิด เบ็คแฮม (ลอสแองเจลิส แกแล็คซี่)
ซูเปอร์สตาร์ดาวค้างฟ้าแห่งโลกลูกหนัง ก็ยังไม่พ้นที่จะโดนแฟนบอลของทีมตัวเองโห่ไล่ ซึ่งเรื่องมันเริ่มจากการที่ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ นั้นตัดสินใจอำลาทีม แอลเอ แกแล็คซี่ ไปค้าแข้งกับ เอซี มิลาน ด้วยสัญญายืมตัวถึงครึ่งปี ก่อนที่จะกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง
ปรากฏว่าการกลับมายังแดนมะกันหนนี้ เขาต้องเผชิญหน้ากับการต้อนรับที่เลวร้ายในนัดแรกที่กลับไปลงเตะให้กับทีม แอลเอ แกแล็กซี เนื่องจากแฟนบอลเหล่านี้มองว่าเจ้าตัวนั้นเห็นสโมสรอันเป็นที่รักของพวกเขา เป็นเพียงแค่ทีมการตลาดเพื่อจะสร้างชื่อเสียงให้มากขึ้นเท่านั้น
โดยตลอดทั้งเกม เบ็คแฮม นั้นถูกแฟนบอลโห่ใส่ทุกคนที่ได้บอล รวมถึงยังมีป้ายข้อความเย้ยหยันของแฟนบอลที่ถูกเอาเข้ามาในสนาม เช่น “กลับบ้านไป คนหลอกลวง” หรือการใช้สีแดงป้ายทับหมายเลข 23 ซึ่งเป็นหมายเลขเสื้อที่เบ็คแฮมใส่ จนในที่สุดเขาก็ถูกเปลี่ยตัวออกจากเกมในครึ่งหลัง ท่ามกลางความเจ็บปวดที่คงจะจดจำไปอีกนาน
DaboyG
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ย้ายแล้วไปไหน? : ปลายทางสุดท้ายของ โรนัลโด้ หากลาผีซัมเมอร์นี้