เกมฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ พบ อาร์เจนติน่า เต็มไปด้วยมันส์ระดับ 5 ดาว ที่ทั้งความดราม่า และอุณหภูมิที่เดือดดาลช่วงท้ายเกมที่ใบเหลืองปลิวว่อน ซึ่งเสมอกัน 2-2 ก่อนที่ทัพ ฟ้าขาว จะเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ด้วยการดวลจุดโทษ 4-2
ในเกมวันนั้น อันโตนิโอ มาเตอู ลาฮอซ ผู้ตัดสินได้ทำการแจกใบเหลืองรวม 18 ใบด้วยกัน พร้อมด้วยใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงของ เดนเซล ดุมฟรีส์ ช่วงทดเวลาพิเศษด้วย
อย่างไรก็ตาม เกมดังกล่าว ไม่ใช่นัดที่มีใบเหลืองแดงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เพราะต้องย้อนกลับไปในเวิลด์คัพเมื่อปี 2006 ที่เป็นการพบกันระหว่าง เนเธอร์แลนด์ กับ โปรตุเกส ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือเป็นที่รู้จักกันอีกชื่อว่า ‘การปะทะกันแห่งนูเรมเบิร์ก’ ที่ได้รับการบันทึกว่ามีการแจกใบเหลืองแดงรวมกันมากที่สุดในเกมทางการของ ฟีฟ่า ด้วย
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปย้อนถึงเหตุการณ์สุดเดือด ณ สนามเฟรงเค่นสตาดิโดน เมื่อ 16 ปีก่อนผ่านบทความชิ้นนี้กัน
เดือดตั้งแต่นาทีแรก
เนเธอร์แลนด์ และ โปรตุเกส อาจไม่ใช่ทีมที่เป็นอริกันโดยตรง แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็มีประวัติกันมาก่อน หลังเคยกันในศึกยูโร 2004 ที่ทัพ ‘ฝอยทอง’ เป็นเจ้าภาพ
โดยเกมเมื่อ 2 ปีก่อน โปรตุเกส เป็นฝ่ายเอาชนะ ‘อัศวินสีส้ม’ ไปได้ 2-1 ในรอบรองชนะเลิศ เพียงแต่ว่าเกมก็ดำเนินไปอย่างปกติ ไม่ได้มีเหตุการณ์ความรุนแรง หรือการนอกเกมกันแต่อย่างใด นั่นทำให้การพบกันในฟุตบอลโลกปี 2006 ถูกคาดว่าน่าจะเป็นการแข่งขันที่สนุกไม่แพ้ตอนที่พบกันในฟุตบอลยุโรปแน่นอน
ทว่าความเป็นจริงแล้ว เกมในสนาม เฟรงเค่นสตาดิโอน กลับเดือดตั้งแต่นาทีแรกๆของการแข่งขันเลย หลัง มาร์ค ฟาน บอมเมล เหยียดขาสกัดใส่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในนาทีที่ 2 พร้อมรับใบเหลืองจาก วาเลนติน อิวานอฟ ผู้ตัดสินเป็นคนแรกของเกม
อีก 5 นาทีต่อมา CR7 ก็ยังเป็นเหลือของแข้งดัตช์แมนอีก หลัง คาลิด บูลาห์รูซ เข้าบอลหนักใส่ ก่อนรับใบเหลือง แต่บางคนมองว่าอาจเป็นใบแดงมากกว่าหลังมีจังหวะแถมใส่ด้วย
แต่มีหรือที่แข้งฝอยทอง จะยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียว มานิช เตะใส่ ฟาน บอมเมล ในนาทีที่ 20 ก่อนที่เขาจะเป็นคนทำประตูให้ทีมขึ้นนำในอีก 3 นาทีต่อมา จากนั้น คอสตินย่า จะโดนตามมาในนาทีที่ 31ต่อมา หลังสไลด์เข้าบอลใส่เสียบ ฟิลลิป โคคู
ทว่า คอสตินย่า ก็กลายเป็นนักเตะคนแรกของเกมที่โดนใบแดง หลังเจตนาทำแฮนด์บอลแบบโจ่งโจ้งช่วงทดเวลาครึ่งแรก โดนไล่ออกไปแบบไม่ต้องสืบ แต่นั่นน่าจะทำให้ เนเธอร์แลนด์ มีโอกาสกลับมาได้ในครึ่งหลัง
เล่นคนไม่เล่นบอล
พักกัน 15 นาที แต่อุณหภูมิของเกมกลับไม่ได้ลดลง เมื่อ เปอตีต์ พยายามเบรกเกมสวนกลับของ พลพรรค ‘ออรันเย่’ ทำให้ อิวานอฟ ควักใบเหลืองให้แบบไม่ต้องคิดนาน
จากนั้นนาทีที่ 60 โจวานนี่ ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์ ก็กลายเป็นแข้งดัตช์คนที่ 3 ที่โดนใบเหลือง จะจังหวะเสียบคน ไม่เสียบบอล ก่อนไปมีปากเสียงกับ หลุยส์ ฟิโก้ ซึ่งสตาร์ฝอยทอง มีแอบๆเฮดบัตต์ใส่คู่แข่ง โชคดีที่ผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์แบบชัดเจน ทำให้โดนแค่ใบเหลืองไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน บูลาห์รูซ ก็กลายเป็นแข้งดัตช์คนแรกที่โดนใบแดง หลังชักศอกใส่ ฟิโก้ เพื่อแก้แค้นให้ ฟาน บอมเมล ที่โดนเฮดบัตต์ใส่ ส่งผลให้โดนใบเหลืองที่ 2 ไปแบบไม่ต้องอุทธรณ์
ตัวผู้เล่นกลับมาเท่ากันอีกครั้ง ทว่ารูปเกมที่เกิดขึ้นใน นูเรมเบิร์ก ทั้ง 2 ฝ่ายกลับไม่ได้มีท่าทีว่าอยากจะเล่นฟุตบอลกันเลย เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาต่างอยากเล่นคนมากกว่า
4 แดง 16 เหลือง
เดโก้ เป็นแข้งโปรตุกีสคนที่ 4 ที่โดนใบเหลืองในเกมนั้น หลังจงใส่เสียบ จอห์น ไฮติงก้า จนตัวลอยในนาทีที่ 73 และจากจังหวะนั้นเองทำให้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนตามมา เมื่อ เวสลี่ย์ ชไนเดอร์ ที่ปกติไม่ใช่คนหัวร้อนเท่าไหร่ในสนาม วิ่งไปผลัก เปอตีต์ จนล้มทั้งยืน หลังมองว่าเพื่อนของเขาแกล้งเจ็บ
แต่สุดท้าย กองกลางตัวรุกร่างเล็กของ ฟลายอิ้งดัตช์แมน ก็ไม่รอดโดนใบเหลืองไปเป็นรายที่ 9 ในเกมนั้น เช่นเดียวกับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่บ่นพึ่มพำกับท่านเปา ก่อนโดนเหลืองไปอีกราย
โดยประตูที่นำอยู่ทำให้ โปรตุเกส พยายามหาจังหวะดึงเกมเพื่อถ่วงเวลา และ ริคาร์โด้ นายทวารของทีมก็พยายามทำแบบนั้น แต่เหมือนว่าจะโจ้งแจ้งเกินไป ทำให้ อิวานอฟ ควักใบเหลืองให้เขาเป็นรายที่ 11
หลังจากนั้นไม่นาน นูโน่ วาเลนเต้ ก็โดนใบเหลืองไปอีกคนหลังหวดข้างหลังใส่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ในนาทีที่ 76
ส่วน เดโก้ ที่โดนใบเหลืองไปแล้วก่อนหน้านี้ กลับโดนไล่ออกแบบไม่ควร เมื่อพยายามไปถ่วงเวลาเก็บบอลไว้กับตัวหลังเสียฟาวล์ เมื่อเพื่อนร่วมทีมพยายามไปฟ้องกรรมการว่าโดน โคคู เหวี่ยงจนล้มลง แต่สุดท้ายก็โดนใบแดงจาก อิวานอฟ อยู่ดี
หลังมีตัวผู้เล่นเหนือกว่าอีกครั้งทำให้ทีมของ มาร์โก ฟาน บาสเท่น พยายามเดินหน้าบุกใส่อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถตีเสมอได้
ในช่วงทดเวลาครึ่งหลัง ฟาน บร็องค์ฮอร์สท์ กลายเป็นนักเตะคนที่ 4 ที่ถูกไล่ออก หลังไปหวดใส่ ติอาโก้ จนได้รับใบเหลืองที่ 2
บทสรุปหลังเกม
เกมจบลงด้วยชัยชนะของ โปรตุเกส และผ่านเข้ารอบไปเจอกับ อังกฤษ ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ซึ่งจะมีเหตุการณ์ชวนดราม่าตามมาในภายหลัง
ด้าน อิวานอฟ ผู้ตัดสินในสนาม เฟรงเค่นสตาดิโอน โดนวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ในวันนั้นไม่น้อย โดยเฉพาะในสายตาของ เซปป์ แบลตเตอร์ ประธานของ ฟีฟ่า ในขณะนั้น
“ผมพิจารณาว่าผู้ตัดสินไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับผู้เล่นในรายการ ผมคิดว่าควรมีใบเหลืองสำหรับผู้ตัดสินด้วย” แบลตเตอร์ กล่าวกับ SIC สื่อจากโปรตุเกส
แม้ แบลตเตอร์ จะเสียใจกับคำพูดของตัวเอง และสัญญาว่าจะขอโทษอย่างเป็นทางการ (ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ทำ) แต่ทว่า ผู้ตัดสินชาวรัสเซีย ก็ไม่ลงทำหน้าที่ตัดสินในเกมฟุตบอลโลกที่ เยอรมนี อีกเลย
นั่นกลายเป็นเกมที่ได้รับบันทึกว่ามีใบเหลืองมากที่สุดในฟุตบอลโลก ก่อนถูกเกมคู่ เนเธอร์แลนด์ พบ อาร์เจนติน่า ในฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีมสุดท้ายทำลายลงด้วยสถิติ 18 ใบเหลือง
ทว่าหากนับรวมทั้งใบเหลืองแดง ก็ไม่มีเกมไหนในบอลโลกที่ดุเดือดมากไปกว่าการปะทะกันระหว่าง ‘อัศวินสีส้ม’ กับ ‘ฝอยทอง’ ที่ นูเรมเบิร์ก อีกแล้ว