ย่ำแย่เกินอภัย! ย้อนรอย 6 กุนซือต่างดาวผลงานห่วยสุดตลอดกาล

ต่างดาว

ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน เพิ่งตัดสินใจปลด โรนัลด์ คูมัน ออกจากตำแหน่งกุนซือ หลังเจ้าตัวทำผลงานน่าผิดหวังต่อเนื่องตั้งแต่ซีซั่นที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุดเพิ่งพาทีมบุกแพ้ ราโย บาเยกาโน่ 1-0 ซึ่งนั่นส่งผลให้เขาต้องตกงานทันที

โดยสถิติการคุมทีมของเทรนเนอร์ชาวดัตช์ กับ บาร์เซโลน่า ถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง หลังพาทีมลงสนามทั้งหมด 67 นัด ชนะ 39 เสมอ 12 แพ้ 16 แม้จะสามารถคว้าแชมป์ โกปา เดล เรย์ ซีซั่น 2020/2021 ได้สำเร็จ ทว่าฟอร์มโดยรวมถือว่าค่อนข้างน่าผิดหวังสุดๆ

อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา ยังมีเฮดโค้ชอีกหลายคนที่เคยทำผลงานน่าผิดหวังกับ บาร์เซโลน่า มาแล้วเช่นกัน ซึ่งวันนี้ UFAARENA จะขอพาย้อนกลับไปดูว่า พวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง และพา “ต่างดาว” โชว์ฟอร์มย่ำแย่มากน้อยแค่ไหน

 

เฮนเนส ไวส์ไวเลอร์ | พฤษภาคม 1975 – เมษายน 1976

สถิติการคุมทีม : ลงเล่น 44 นัด – ชนะ 24 เสมอ 8 แพ้ 12 เกม

เฮนเนส ไวส์ไวเลอร์ เข้ามารับงานในถิ่น คัมป์ นู เมื่อปี 1975 ซึ่งย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเพิ่งประสบความสำเร็จด้วยการพา โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค คว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ รวมถึง บุนเดสลีกา เยอรมัน อีก 2 สมัย โดยเขาเข้ามารับงานคุมทีมต่อจาก ไรนุส มิเชลส์ ซึ่งเคยคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน 1 สมัย ในฤดูกาล 1973/1974

เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน ถูกแต่งตั้งเข้ามาเพื่อเป้าหมายในการพาสโมสรกอบโกยถ้วยรางวัล อย่างไรก็ตามแข้งระดับซุปเปอร์สตาร์อย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ กลับไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไรสำหรับการทำทีมของ ไวส์ไวเลอร์ ที่มีความเข้มงวดจนเกินไป

“ไวส์ไวเลอร์ ไม่ใช่กุนซือแบบที่ผมอยากจะเลือก” สุดยอดตำนานทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กล่างไว้ทันทีที่นายใหญ่ของเขามาถึงสโมสร สงครามประสาทขนาดย่อมก่อตัวขึ้นภายในสโมสร และเป็นทางฝั่ง ไวส์ไวเลอร์ ที่ต้องบอกลาตำแหน่งกุนซือ “อาซูลกราน่า” ทันทีที่ฤดูกาล 1975/1976 จบลง ซึ่งเขาทำงานได้แค่เพียงปีเดียวเท่านั้น และไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์แม้แต่รายการเดียว

 

ลาสซ์โล คูบาลา | พฤษภาคม 1980 – พฤศจิกายน 1980

สถิติการคุมทีม : ลงเล่น 13 นัด – ชนะ 7 เสมอ 0 แพ้ 6 เกม

อดีตดาวเตะแม็กยาร์ อย่าง ลาสซ์โล คูบาลา พิสูจน์แล้วว่าเขาคือสุดยอดตำนานแข้งของ บาร์เซโลน่า ทว่าในฐานะผู้จัดการทีมกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะเคยรับงานกับสโมสรถึงสองครั้งก็ตาม

กุนซือชาวฮังการี เริ่มต้นหายนะของตัวเอง ด้วยการตัดสินใจรับงานคุม บาร์เซโลน่า เป็นหนที่สองเมื่อปี 1980 ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวยังคงติดภารกิจเตรียมพาทีมชาติสเปน ลุยศึกฟุตบอลยูโร 1980 รอบสุดท้าย ที่ประเทศอิตาลี เป็นเจ้าภาพ

ผลปรากฏว่า คูบาลา โชว์ฟอร์มน่าผิดหวังด้วยการพาทัพ “กระทิงดุ” ตกรอบแรกด้วยการไม่ชนะใครเลย ทว่าฝันร้ายของเขายังคงดำเนินต่อไป เมื่ออดีตสุดยอดกองหน้าของสโมสรคุมทีมแพ้ 6 เกม จากการลงเล่น 13 เกมแรก ผลงานช็อคสุดคือการโดน โคโลญ บุกมาถล่มคาบ้าน 4-0 ในเกม ยูฟ่า คัพ ซึ่งนั่นทำให้เขาโดนปลดออกจากตำแหน่งทันที หลังทำงานแค่เพียง 6 เดือน เท่านั้น

 

โลเรนโซ เซอร์ร่า เฟร์เรร์ | พฤษภาคม 2000 – เมษายน 2001

สถิติการคุมทีม : ลงเล่น 51 นัด – ชนะ 25 เสมอ 14 แพ้ 12 เกม

อดีตเฮดโค้ช เรอัล เบติส เข้ามารับงานคุม บาร์เซโลน่า ต่อจาก หลุยส์ ฟาน กัล เมื่อปี 2000 อย่างไรก็ตามกุนซือชาวสเปน สร้างความวิตกกังวลให้กับนักเตะภายในทีมทันทีตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น เกี่ยวกับฝีมือการทำทีม หลังเขาออกปากถามผู้เล่นที่เซ็นสัญญาเข้ามาใหม่อย่าง เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ว่านักเตะรายดังกล่าวเล่นตำแหน่งไหน

ขณะที่ “ต่างดาว” ยังคงสั่นคลอนภายหลังสุดยอดผู้เล่นอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ ย้ายข้ามฝากไปอยู่กับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เรอัล มาดริด กุนซืออย่าง โลเรนโซ เซอร์ร่า เฟร์เรร์ ยังคงต้องพยายามมองหาผู้เล่นที่ดีที่สุดเพื่อเขามาแทน มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ทว่าพวกเขาทำไม่สำเร็จ

ผลงานของ บาร์เซโลน่า ภายใต้การทำทีมของ เฟร์เรร์ ผลงานค่อนข้างน่าผิดหวัง เมื่อพวกเขากระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยนำมือของ ลีลด์ ยูไนเต็ด ก่อนไปแพ้อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษ อย่าง ลิเวอร์พูล ในเกม ยูฟ่า คัพ รอบรองชนะเลิศ

ท้ายที่สุด โลเรนโซ เซอร์ร่า เฟร์เรร์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งช่วงเดือนเมษายน ปี 2001 หลังเจ้าตัวพาทีมบุกไปแพ้ โอซาซูน่า 3-1 เกม ลาลีกา สเปน นัดที่ 31 ของซีซั่น และนั่นส่งผลให้ยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน จบแค่เพียงอันดับ 5 ในลีกฤดูกาลดังกล่าว

 

หลุยส์ ฟาน กัล | พฤษภาคม 2002 – มกราคม 2003

สถิติการคุมทีม : ลงเล่น 30 นัด – ชนะ 16 เสมอ 5 แพ้ 9 เกม

เทรนเนอร์ชาวดัตช์ เป็นอีกหนึ่งกุนซือที่เคยนั่งตำแหน่งเฮดโค้ช บาร์เซโลน่า ถึงสองครั้ง โดยรอบแรกเขาพาทีมประสบความสำเร็จสุดๆ ด้วยการคว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน ซีซั่น 1997/1998 และ 1998/1999 รวมถึงแชมป์ฟุตบอลถ้วย โกปา เดล เรย์ อีก 1 สมัย ทว่าการคุมทีมรอบสองทุกอย่างกลับตรงกันข้าม

ภายหลัง หลุยส์ ฟาน กัล แยกกับสโมสรรอบแรก ยอดทีมคาตาลัน ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้แม้แต่รายการเดียวระหว่างปี 2000 – 2002 ซึ่งนั่นส่งผลให้ประธานสโมสรอย่าง โจน กาสปาร์ต ตัดสินใจหันไปขอความช่วยเหลือจากเฮดโค้ชชาวเนเธอร์แลนด์ อีกครั้ง

หลังกลับมายังถิ่น คัมป์ นู เป็นรอบที่สอง ฟาน กัล สร้างความโกลาหลทันที ด้วยการปล่อยสุดยอดนักเตะชาวบราซิล อย่าง ริวัลโด้ ออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว และแทนที่ด้วยผู้เล่นใหม่อย่าง ฮวน โรมัน ริเกลเม่ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งถูกจับไปเล่นตำแหน่งปีกให้กับ “ต่างดาว” ถึงแม้ว่าเขาจะสร้างชื่อกับ โบคา จูเนียร์ส จากตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม หลุยส์ ฟาน กัล ทำผลงานย่ำแย่แบบเกินให้อภัย เมื่อเขาพา บาร์เซโลน่า ลงเล่นศึก ลาลีกา สเปน 16 นัดแรก ของซีซั่น 2002/2003 ชนะแค่เพียง 6 นัด เท่านั้น และมีแต้มเหนือโซนตกชั้น 3 คะแนน ก่อนโดนปลดออกจากตำแหน่งช่วงเดือนมกราคม ปี 2003

 

เคราร์โด้ “ตาต้า” มาร์ติโน่ | กรกฎาคม 2013 – พฤษภาคม 2014

สถิติการคุมทีม : ลงเล่น 59 นัด – ชนะ 40 เสมอ 11 แพ้ 8 เกม

เคราร์โด้ มาร์ติโน่ ถูกดึงมาอยู่กับ บาร์เซโลน่า เนื่องจากผลงานอันยอดเยี่ยมและความสำเร็จที่เขาเคยทำได้กับ นีเวลล์ โอลด์ บอยส์ และเช่นเดียวกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ เคยเป็นศิษย์ของปรัชญาลูกหนังอย่าง มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ตาต้า แตกต่างจาก เป๊ป เนื่องจากเขาเข้ามาคุม บาร์เซโลน่า และไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเองได้ พวกเขาต้องพบกับความผิดหวังด้วยการแพ้ เรอัล มาดริด ในเกมนัดชิงชนะเลิศ โกปา เดล เรย์ แถมยังพลาดแชมป์ ลาลีกา สเปน ซีซั่น 2013/2014 ให้กับ แอตเลติโก้ มาดริด ซึ่งนั่นตอบย้ำว่าผลงานของเขากับสโมสรค่อนข้างล้มเหลว

“ถ้า บาร์ซ่า เล่นตามสไตล์ของตัวเองแต่ไม่ได้แชมป์ มันจะไม่เป็นความล้มเหลว” ตาต้า กล่าว “แต่เราไม่ชนะ และเราเล่นก็เล่นไม่ดีด้วย” ท้ายที่สุดเฮดโค้ชจากอเมริกาใต้ ถูกปลดออกจากตำแหน่งช่วงหน้าร้อนปี 2014 ก่อนย้ายไปรับงานคุมทีมชาติอาร์เจนตินา หลังจากนั้น

 

กีเก้ เซเตียน | มกราคม 2020 – สิงหาคม 2020

สถิติการคุมทีม : ลงเล่น 25 นัด – ชนะ 16 เสมอ 4 แพ้ 5 เกม

ตลอดระยะเวลาการเป็นกุนซือนานกว่า 19 ปี กีเก้ เซเตียน ไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าไรนักนอกสเปน กระทั่งเขาถูกแต่งตั้งรับงานเฮดโค้ช “อาซูลกราน่า” เมื่อปี 2020 ซึ่งก่อนหน้านั้นงานที่สร้างชื่อให้กับเขามากที่สุดคือการคุม เรอัล เบติส อย่างไรก็ตามช่วงเวลาของเขาในถิ่น คัมป์ นู กลับไม่หอมหวานอย่างที่คิด

ความพ่ายแพ้ต่อ แอธเลติก บิลเบา ในศึก โกปา เดล เรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ และปราชัยคู่ปรับสำคัญอย่าง เรอัล มาดริด เกม “เอล กลาซิโก้” ส่งผลให้จุดจบของ กีเก้ เซเตียน กับ “ต่างดาว” มาถึงอย่างรวดเร็ว

ยิ่งไปกว่านั่น บาร์เซโลน่า ภายใต้การทำทีมของ เซเตียน ยังตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการแพ้ บาเยิร์น มิวนิค แบบขาดลอย 8-2 ซึ่งนั่นคือครั้งแรกที่พวกเขาแพ้คู่แข่งเกิน 6 ประตู นับตั้งแต่ปี 1951 ท้ายที่สุดยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน จบฤดูกาล 2019/2020 ด้วยการไม่มีแม้แต่แชมป์เดียวครั้งแรกหลังหมดยุค เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และนั่นทำให้ช่วงเวลา 7 เดือน ระหว่างเทรนเนอร์ชาวสเปน กับ บาร์ซ่า ต้องสิ้นสุดลง