คดีฉาวทำพิษ : ยูเวนตุสกับอนาคตที่สั่นคลอนหลังโดนตัดแต้ม

คดีฉาวทำพิษ : ยูเวนตุสกับอนาคตที่สั่นคลอนหลังโดนตัดแต้ม

ฟุตบอลอิตาลี ไม่เคยรู้จักจุดกึ่งกลางที่พอดี ซึ่งส่วนใหญ่มักวนเวียนอยู่ระหว่างจุดต่ำสุดไม่ก็สุดขั้วไปเลย และอาจไม่มีทีมไหนเจอเรื่องนี้มากไปกว่า ยูเวนตุส อีกแล้ว

‘ม้าลาย’ คือทีมเบอร์ต้นๆทั้งในอิตาลี และยุโรป ที่เคยคว้าแชมป์มาแล้วทุกรายการ และเคยตกต่ำถึงขั้นร่วงตกชั้นจากลีกสูงสุดมาแล้วจากข่าวฉาวเมื่อปี 2006 จากคดีกัลโช่โปลี เพียงแต่ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะกลับมาจุดนี้อีกครั้ง กับข่าวฉาวที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมาและอาจส่งผลต่ออนาคตของทีมอย่างเลี่ยงไม่ได้

ในวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (FIGC) ตัดสินโทษตัดคะแนน ‘เบี่ยงโคเนรี่’ 15 คะแนน กับคดี ‘พลุสวาเลนซ่า’ กับความผิดฐานตกแต่งบัญชี ส่งผลให้ทีมที่รั้งอันดับ 3 ในตอนแรก ร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 11 ทันที

ส่วนอดีตผู้บริหารของทีมหลายรายอยู่ในข่ายของการโดนลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอล (หรือจนกว่าจะอุทธรณ์จบ) มีทั้งหมด 11 คน โดยมีตัวหลักโดนกันหมดไม่ว่าจะเป็น ฟาบิโอ ปาราติชี่ โทษแบน 2 ปีครึ่ง, อันเดรีย อันเญลลี่ และ เมาริซิโอ อาริวาเบเน่ โทษแบน 2 ปี, เฟเดริโก้ เครูบินี่ รับและ พาเวล เนดเวด และคนที่เหลือรับโทษแบนคนละ 8 เดือน

ทว่าเรื่องนี้จะส่งผลต่อ ยูเว่ อย่างไรในภายภาคหน้า UFA ARENA จึงขอพาทุกท่านไปวิเคราะห์ถึงสาเหตุของคดีดังกล่าว รวมไปถึงแนวโน้มของสโมสรในอนาคตอันใกล้ผ่านบทความนี้กัน

 

เหตุโดนตัดแต้ม

Juventus docked 15 points following investigation into club's transfer  dealings | World News | Sky News

โดยพื้นฐานแล้วคำว่า ‘พลุสวาเลนซ่า’ เป็นภาษาอิตาเลี่ยนหมายถึงการเพิ่มทุน แต่เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลแดนมักกะโรนีมาระยะหนึ่งแล้ว โดย Covisoc ผู้ดูแลวงการฟุตบอลอิตาลี ถูกส่งไปยัง FIGC โดยเน้นย้ำถึงการซื้อขายบางอย่างที่ทำให้เกิดความสงสัย และในเดือนตุลาคม ปี 2021 อัยการของรัฐบาลกลางได้รับเชิญให้สอบสวนว่าสโมสรต่างๆ ได้ปลอมแปลงตัวเลขบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้มีตัวเลขเป็นผลบวกหรือไม่

ในเดือนเมษายนปี 2022 ผู้บริหาร 59 คนและ 11 สโมสร รวมถึง ยูเวนตุส พ้นผิดจากข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดมูลค่าของผู้เล่นอย่างเป็นกลาง

อย่างไรก็ตาม อัยการในสำนักงานอัยการของเมืองตูรินได้เริ่มการสืบสวนของพวกเขาเอง ในชื่อ Prisma และรวบรวมหลักฐานต่างๆ ซึ่งในที่สุดทำให้ FIGC เปิดคดีอีกครั้ง กระบวนการนี้นำไปสู่การลงโทษของทีม ‘ม้าลาย’ ในที่สุด

Deloitte บริษัทที่เข้ามาตรวจสอบบัญชี ได้ทำการสรุปออกมาว่า บัญชีการเงินของสโมสร ไม่มีปัญหาใด ๆ ยกเว้นในฤดูกาล 2019-2020 และ ฤดูกาล 2020-2021 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19

ในแง่ของทางบัญชีทางทีมตรวจสอบพบในช่วงฤดูกาล 2019-2021 มีการพบว่ามีรายจ่ายที่ไม่ถูกบันทึกลงไปในช่วง 2 ฤดูกาลนั้น และมีบางเรื่องที่พบว่ามีความไม่ชัดเจนในการแจกแจงตัวเลข ว่าง่าย ๆ คือพวกเขาจ่ายเงินเต็มจำนวน แต่แจ้งกับทางบัญชีการเงินว่าพวกเขามีการตัดลดเงินและส่งงบการเงินตามนั้น

ที่เลวร้ายกว่านั้นสำหรับสโมสร การพิจารณาคดีเบื้องต้นสำหรับการสอบสวนของ Prisma จะมีขึ้นในวันที่ 27 มีนาคม และ ณ จุดนี้ สโมสรจะต้องต่อสู้กับข้อกล่าวหาเรื่องมีการปกปิด และตบแต่งบัญชีให้มีกำไรเกินจริง

การค้นพบและข้อสรุปของการพิจารณาคดีนั้นอาจนำไปสู่การลงโทษเพิ่มเติมจาก FIGC แต่ยักษ์ใหญ่จากอิตาลี ก็ยืนยันความบริสุทธ์ของพวกเขาต่อไป พร้อมยื่นอุทธรณ์ไปแล้วเรียบร้อย 

 

มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

Juventus Deducted 15 Points As Former Club Officials Receive Bans

ยูเวนตุสมีการจัดการทางการเงินที่ผิดพลาดหรือไม่? ใช่, ดีลของโรนัลโด้ใช้เงินมากเกินไปหรือไม่? ใช่, ทีมมีการตัดสินใจซื้อขายที่ไม่ดีหรือไม่? คำตอบก็คือใช่เช่นกัน ในความเป็นจริงแล้ว ทุกอย่างเลวร้ายลงเล็กน้อยจากโรคระบาดที่กระทบอิตาลีและเศรษฐกิจของประเทศจนทำให้เสียหายหนักเอาการ ดังนั้นการเดิมพันทางการเงินเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องทำในเวลาที่เลวร้ายที่สุด

อันเดรีย อันเญลลี่ และเหล่าผู้บริหารของ ยูเว่ ทำการยื่นซองข่าวลาออกในเดือนพฤศจิกายน สร้างแรงกระเพื่อม ครั้งใหญ่ในโลกฟุตบอล ขณะที่ตอนนี้เขาอาจมีทั้งคนที่หนุนหลังและต่อต้าน แต่ในตอนแรกที่เข้ามาในสโมสร เขาเป็นที่รักของสาวก ม้าลาย ทุกหมู่เหล่า

ด้วยแนวทางสมัยใหม่ เขาล้อมรอบตัวเองด้วยจิตใจที่ยอดเยี่ยมและโค้ชที่เยี่ยมยอดอีกหลายๆคน ยูเว่ในยุคของ อันเญลลี่ ค่อยเติบโตอย่างช้าและชาญฉลาด อย่างน้อยก็ในขั้นต้น แม้ด้านการเงินอาจไม่มีพร้อมในช่วงเริ่มต้น แต่ก็พยายามอย่างมากในการสร้างทีมที่สมบูรณ์แบบขึ้น จนสามารถก้าวขึ้นเป็นยอดสโมสรทั้งในอิตาลีและยุโรปอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะทำผลงานได้ดีเพียงใด เข้าไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศกี่ครั้ง หรือคว้าถ้วยรางวัลในประเทศมาครองมากมายแค่ไหน เบี่ยงโคเนรี่ ก็ไม่สามารถทัดเทียมกับความแข็งแกร่งทางการเงินของคู่แข่งในยุโรปได้ แบรนด์ของพวกเขาไม่สามารถแข่งขันได้ทั่วโลกแม้ว่าจะมีประวัติอันน่าทึ่งก็ตาม

ตามรายงานของ Deloitte’s Money league ในปี 2016 ทีมอย่าง เอซี มิลาน และ ชาลเก้ (ที่เคยตกชั้นในปี 2021) เคยมีรายได้จากการโฆษณามากกว่าทีมจากตูริน โดยรายงานระบุว่า เบี่ยงโคเนรี่ มีรายได้เพียง 73.5 ล้านยูโรจากส่วนดังกล่าว  นั่นคิดเป็นเพียง 16% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดคิดเป็น 61% ตรงกันข้ามกับ ชาลเก้มีรายได้จากการโฆษณา 107.9 ล้านยูโร

แบรนด์ของ ยูเว่ จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือ เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ คุณอาจเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และระมัดระวัง แต่คุณก็ต้องรับความเสี่ยงที่คำนวนไว้เล็กน้อย เพื่อยกระดับธุรกิจขึ้นไป หลายคนมีความเห็นว่าการมาของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ อัลลิอัน สเตเดี้ยม เป็นสิ่งที่ทำให้อนาคตทางการเงินของพวกเขาย่ำแย่ลง

อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น เพื่อแรงกระตุ้นในการแข่งขัน และอนาคตที่ดีกว่า

 

ผลกระทบจาก CR7 

Financial Impact of Cristiano Ronaldo's move to Juventus: Part 3 - |  Juvefc.com

โรนัลโด้ เป็นตัวแทนของการยกระดับ ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไปในแผนแม่บทที่จะกระตุ้นแบรนด์ของยูเวนตุส และเปิดโอกาสให้พวกเขาแข่งขันกับทีมที่ยิ่งใหญ่และดีที่สุดได้อย่างต่อเนื่อง ทว่านี่เป็นการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จหรือไม่? ปัจจุบันก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่

การมาถึงของ CR7 อาจไม่เกิดผลในระดับกีฬาอย่างที่พวกเขาหวัง แต่ในเชิงพาณิชย์ หากเปรียบเปรยว่า ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกส เป็นเหมือนห่านที่วางไข่ทองคำ ก็คงไม่เกินจริงนัก

ก่อนที่ โรนัลโด้ จะเข้ามาในอิตาลี ยูเว่ มีผู้ติดตามใน อินสตาแกรม ไม่ถึง 10 ล้านคน (3 ล้านเท่านั้นในปี 2015) แต่ปัจจุบันพวกเขามีถึง 56 ล้านราย มากกว่าทั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค นั่นทำให้พวกเขาได้รับข้อเสนอจากสปอนเซอร์ที่ดีขึ้น, ชุดแข่งที่มีมูลค่ามากขึ้น และแฟนบอลจำนวนมากที่ยังคงอยู่ แม้ว่าตอนนั้น โรนัลโด้ จะย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตาม

จากข้อมูลของ Deloitte ยูเวนตุสมีรายได้เชิงพาณิชย์ 194 ล้านยูโรในปีที่แล้ว ซึ่งคิดเป็น 48% ของรายได้ทั้งหมด

แน่นอนว่าการเพิ่มการมองเห็นและการเติบโตของแบรนด์คือการกระทำที่ไม่เกิดประโยชน์มากนัก หากสโมสรไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เหมือนเคย และโรคระบาดได้ทำลายแหล่งรายได้อื่นๆ สนามที่ว่างเปล่าช่วงล็อคดาวน์ ทำให้รายได้ด้านลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดลดลง ทำให้รายได้จากการโฆษณาเป็นความช่วยเหลือที่ดีในด้านการเงินของพวกเขา และตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่

 

ความผิดพลาดหลังปลด มาร็อตต้า

Marotta: "Con Agnelli ottimo rapporto. Non torno alla Juve. Su Ronaldo  leggende"

การแพร่ระบาดทำลายเซเรียอา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ายูเวนตุสไม่ได้ทำผิดพลาด และไม่มีอะไรส่งผลกระทบไปกว่าการปลดผู้อำนวยการ เบปเป้ มาร็อตต้า ชายผู้ช่วยสร้าง ม้าลาย ขึ้นมาด้วยกันกับ อันเญลลี่

เป็นที่เชื่อกันอย่างกว้างขวางว่า อันเญลลี่ รู้สึกว่าสโมสรต้องการการเปลี่ยนแปลง เพื่อพัฒนาและ ‘คิดการใหญ่กว่านี้ หลังจากพ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด ใน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศปี 2017 มาร็อตต้า ดูระแวดระวังเกินไป ในไม่ช้าเขาก็ถูกปลด ก่อนแต่งตั้ง ฟาบิโอ ปาราติชี่ ขึ้นมาทำหน้าที่แทน

ปาราติชี่ อาจเป็นเหมือนกับพ่อมดในด้านการตามหาผู้เล่นเพชรในตม แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการเงินและการเจรจา เขาดูไม่ประสบความสำเร็จมากนัก ยูเว่ เริ่มทุ่มเงินค่าจ้างมากเกินไปกับนักเตะที่ดูดีในหน้ากระดาษ แต่ผลงานไม่เข้าท่าในสนาม ซึ่งหนึ่งในดีลที่หลายคนนึกถึงคือการแลก มิราเล็ม ปานิช กับ อาร์ตูร์ เมโล ซึ่งเป็นดีลที่ทำให้ Covisoc สงสัยเกี่ยวกับจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง

ตามเอกสารที่ยึดได้ระหว่างการสืบสวนเรื่องการเงินของยูเว่ Corriere della Sera สื่อแดนมักกะโรนี สังเกตเห็นการมีอยู่ของสมุดบันทึกที่ระบุว่าเป็นของผู้อำนวยการ เฟเดริโก้ เครูบินี่ ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ “การใช้กำไรจากทุนที่ตกแต่งมากเกินไป” ของ ปาราติชี่ ซึ่ง ผู้อำนวยการของท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็ได้รับโทษที่รุนแรงที่สุดจาก FIGC ห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลในอิตาลี 2 ปีครึ่ง

ปาราติชี่ และคนอื่น ๆ พยายามดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลให้กับบัญชีและสร้างสมดุลให้กับทีม การสร้างทีมต้องอาศัยมากกว่าการซื้อนักเตะทักษะดี ขณะที่ มาร็อตต้าใช้เวลาไปกับการสร้างความสมดุล ค้นหาผู้เล่นที่มีคาแร็คเตอร์ที่เหมาะสมกับสโมสรและทักษะที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของโค้ชมากกว่า

หากไม่มี มาร็อตต้า ยูเว่ก็ไม่มีแผนอีกต่อไป อัลเลกรี ถูกปล่อยตัวเพื่อนำโค้ชที่สามารถให้รูปแบบการเล่นที่สนุกสนานมากขึ้น แต่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไม่สามารถทำให้ผู้เล่นปฏิบัติตามคำสั่งของเขาหรือสนับสนุนมากพอที่จะต่อยอดจากผลงานต่อไป

 

มือเติบไม่ได้ในปัจจุบัน

La Juve è il secondo club più seguito su YouTube e TikTok a fine 2022

กลยุทธ์เปลี่ยนอีกครั้ง เยาวชนกลายเป็นคำตอบ สโมสรเริ่มใช้งานผู้เล่นอายุน้อยมากขึ้นและ ดัน อันเดรีย ปีร์โล่ โค้ชมือใหม่เข้ามา ซึ่งผลลัพธ์ก็จบไม่สวยอย่างที่หลายคนคาดการณ์ ก่อนที่จะ อัลเลกรีกลับมาอีกครั้ง เพียงแต่สโมสรในตอนนี้ไม่สามารถจ่ายอะไรได้มากมายเหมือนก่อน และยึดความมั่นคงเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประสบกับความเป็นจริงอันโหดร้ายหลังโรคระบาดครั้งใหญ่

การประสบความสำเร็จในวงการฟุตบอลเป็นเรื่องยาก การทำเรื่องนี้ในอิตาลีก็ไม่ต่าง และอาจยากกว่าด้วยซ้ำ หลังเศรษฐกิจในประเทศหดตัวถึง 18.9% ในปี 2020 ทำให้ อันเญลลี่ รับรู้ว่าในเวลาต่อมาว่า ยูเวนตุส ไม่สามารถต่อกรกับทีมใหญ่ทั่วยุโรปได้แล้ว แต่ในช่วงที่ดีที่สุด ก็ไม่สามารถไขว่คว้าความสำเร็จในด้านกีฬาได้

ดังนั้นความคิดของซูเปอร์ลีกจึงเกิดขึ้น กับแนวทางการรักษาอนาคตของพวกเขา เพื่อให้ทีมได้แข่งขันเป็นอย่างน้อย หลังความล้มเหลวที่เกิดขึ้นจากการจัดการของเขา?

บางคนอาจคิดอย่างนั้น แต่อีกหลายคนอาจรู้สึกว่า อันเญลลี่ คิดไม่ผิดที่ระบุว่าฟุตบอลยุโรปต้องมีการปฏิรูปเพื่อให้แน่ใจว่ามีการแข่งขันในอนาคต ไม่เช่นนั้น คู่แข่งรายอื่นจะสู้รายได้ที่สร้างขึ้นโดยสโมสรชั้นนำในอังกฤษได้อย่างไร?

ในอิตาลี ยูเวนตุส ยังได้รับความสนใจต่อไปต่อจากนี้ แต่หลายคนบอกว่าสภาพของพวกเขาตอนนี้เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น และปัญหาใหญ่ที่มองไม่เห็นอีกมากมายที่ซ่อนเร้นอยู่ จนทำให้คดีนี้อาจมีการกำหนดแบบอย่างทางกฎหมายหรือไม่ หลังอัยการ FIGC เพิ่งร้องขอหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการซื้อขายนักเตะของนาโปลีมาตรวจสอบเพิ่มเติม

ต่อจากนี้ต้องรอดูว่าการอุทรณ์จะเริ่มขึ้นเมื่อไร และต้องใช้เวลายาวนานเท่าไร แต่เรื่องนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด แต่ก็ป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ยูเวนตุส ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของการเงิน แต่พวกเขามีการปกปิด และตบแต่งบัญชีทำให้กลายเป็นเรื่องราวดังกล่าว

และสาวก ‘เบี่ยงโคเนรี่’ คงได้แต่หวังว่าทีมรักของพวกเขาจะไม่ย่ำแย่ถึงขั้นต้องพังครืนลงมาอีกครั้ง เหมือนช่วงที่เกิดขึ้นในคดีกัลโช่โปลี เมื่อปี 2006 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

เกิดอะไรขึ้น!เจาะเบื้องหลังอาการป่วยหงส์แดง
เกิดอะไรขึ้น!เจาะเบื้องหลังอาการป่วยหงส์แดง