มรสุมรุมเร้า : ยูเวนตุสกับทิศทางต่อไปหลังบอร์ดประกาศลาออก

กลายเป็นข่าวใหญ่นอกเหนือจากฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ หลัง ยูเวนตุส ออกแถลงการณ์ว่าบอร์ดบริหาร ได้ประกาศลาออกเรียบร้อยแล้ว 

โดยบรรดาคนเบื้องบนเหล่านั้นประกอบด้วย อันเดรีย อันเญลลี่ ประธานสโมสร, พาเวล เนดเวด รองประธาน, เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน่ ผู้อำนวยการบริหารและบอร์ดบริหารคนอื่นอีก 7 คน ซึ่งช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ‘เบี่ยงโคเนรี่’ ประสบความสำเร็จมาตลอดภายใต้การบริหารของ อันเญลลี่ แต่หลายๆอย่างเริ่มผิดทางในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

เช่นเดียวกับเบื้องหลังในสโมสรก็ไม่ได้ดำเนินไปอย่างราบรื่นเช่นกัน ก่อนที่บรรดาผู้บริหารจะพากันประกาศลาออกแบบฟ้าผ่าในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา

คำถามก็คือทำไมพวกเขาเหล่านั้นถึงทำแบบนี้? และจะเกิดอะไรขึ้นกับยอดทีมจากตูรินหลังจากนี้? UFA ARENA จะพาไปไขข้อข้องใจของเรื่องราวชวนวุ่นวายในรั้วยูเว่ ผ่านบทความนี้กัน

 

ทำไมบอร์ดถึงลาออก?

คณะกรรมการตัดสินใจอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าเพื่อประโยชน์สูงสุดของสโมสรในการลาออกและอนุญาตให้ผู้บริหารกลุ่มใหม่เข้ามานำพาสโมสรไปข้างหน้า

การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นตามข้อเสนอของ อันเญลลี่ และท่ามกลางการถูกสอบสวนในเรื่องการชี้แจงตัวเลขเรื่องค่าตัวในการย้ายทีมสูงกว่าปกติเพื่อเก็บกำไรในส่วนที่เหลือ รวมถึงการแอบจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะลับหลังเพื่อเลี่ยงภาษี โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2018-2020

โดยอัยการกำลังตรวจสอบจำนวนเงินที่กำหนดให้กับการขายผู้เล่นในช่วงเวลานี้ แบะตามแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้ มีผู้ต้องสงสัย 15 คนจาการสืบสวน รวมทั้งตัวของ อันเญลลี่ ด้วย แน่นอนว่าสโมสรปฏิเสธว่าไม่ทำอะไรผิด แต่ตอนนี้การสืบสวนได้ข้อสรุปแล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าบทสรุปของการสืบสวนจะมีการประกาศในเร็วๆ นี้

โดยในฤดูกาล 2021-22 ยังพบว่า ‘ม้าลาย’ ได้รายงานว่ามีรายจ่ายที่มากเป็นสถิติสโมสรถึง 254.3 ล้านยูโร ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่าสิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างไม่ดีในเบื้องหลังมาระยะหนึ่งแล้ว และตอนนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนทิศทาง

 

บทลงโทษหากผิดจริง

ถ้า ยูเวนตุส ถูกพบว่าพวกเขากระทำความผิดจริงเกี่ยวกับการเงิน และการตกแต่งบัญชีเพื่อเลี่ยงภาษี พวกเขาก็จะโดนบทลงโทษขั้นรุนแรงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน

โดย La Gazzetta dello Sport สื่อดังจากอิตาลี รายงานว่า มีความเป็นไปได้ที่ ยูเวj จะโดนตัดแต้ม หรือปรับตกชั้น หากการสอบสวนพิสูจน์ได้ว่ามีการหลอกลวงเจ้าหน้าที่ว่าจ่ายเงินเดือนให้นักเตะ

สิ่งนี้จะทำให้ความทรงจำเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวอย่าง กัลโช่โปลี ในปี 2006 กลับมา โดยในตอนนั้น การสืบสวนพบว่าบางสโมสรในอิตาลีมีความสัมพันธ์กับองค์กรผู้ตัดสินในฤดูกาล 2004-05 และ 2005-06 และมีการเลือกผู้ตัดสินที่ถูกใจเพื่อการแข่งขันของพวกเขา

ทีมจากตูริน ถูกปรับตกชั้นสู่เซเรีย บี ในเวลาต่อมา ขณะที่พวกเขาถูกริบแชมป์ลีกในฤดูกาล 2004-05 และถูกปรับมาเป็นอันดับสุดท้ายในปี 2005-06

เอซี มิลาน, ฟิออเรนติน่า, ลาซิโอ และ เรจจิน่า ก็ถูกลงโทษหลังจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวเช่นกัน แต่มีเพียง ยูเว่ ที่โดนปรับตกชั้นอยู่ทีมเดียว

 

ใครคือประธานสโมสรคนใหม่

ตระกูลอันเญลลี่ มีส่วนร่วมและสร้าง ยูเวนตุส มาเกือบ 100 ปีแล้ว และ อันเดรีย อันเญลลี่ ถือเป็นคนที่ 4 ของตระกูลที่ทำหน้าที่บริหารสโมสร ต่อจาก พ่อ, ลุง และ ปู่ของเขา ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าเขาจะไม่ทำการตัดสินใจนี้แบบไม่คิดหน้าคิดหลัง

แต่ดูเหมือนว่าเขารู้สึกว่าเหลือทางเลือกน้อยเนื่องจากความแตกต่างภายในสโมสร และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงบประมาณของสโมสรทำให้ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่กังวลด้วย

อีกทั้งเขายังเป็นหนึ่งในคนใหญ่โตของกวงการที่พยายามผลักดัน ซูเปอร์ลีก ให้ถือกำเนิดเกิดขึ้นจริงๆ แต่สุดท้ายแผนก็ล้มเหลวในปีที่แล้ว ก่อนจะก้าวลงสู่ตำแหน่งภายในปีนี้

แน่นอนว่า ‘เบี่ยงโคเนรี่ง ได้ตามหน้าผู้สืบทอดตำแหน่งประธานสโมสรต่อจาก อันเญลลี่ ทันที ก่อนได้ จานลูก้า เฟร์เรโร่ เข้ามารับตําแหน่ง ในขณะที่ทีมกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

โดย เฟร์เรโร่ มีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับการตรวจสอบบัญชี และเคยเป็นคณะกรรมการให้กับบริษัทหลายแห่ง และจะร่วมงานกับ เมาริซิโอ สกานาวิโน่ ผู้อำนวยการบอร์ดบริหารคนใหม่ที่ทางสโมสรได้แต่งตั้งไปก่อนหน้านี้ 

 

อัลเลกรีจะอยู่หรือไป?

เมื่อหลายสิ่งหลายอย่างเกิดการเปลี่ยนในเบื้องบน ย่อมส่งผลต่อทุกภาคส่วนด้วย และตำแหน่งผู้จัดการทีมของ ยูเวนตุส ก็อาจมีการเปลี่ยนเช่นกัน เมื่อพิจารณาจากผลงานโดยรวมในสนามภายใต้การคุมทีมของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี

กุนซือชาวอิตาเลี่ยน อาจพา ‘ม้าลาย’ ครองความยิ่งใหญ่ในประเทศนานกว่า 5 ปี แต่การกลับมาตูรินครั้งที่ 2 ต้องบอกว่า อัลเลกรี กลับทำผลงานได้น่าผิดหวังไม่น้อย ทั้งการพาทีมจบอันดับ 4 ในฤดูกาลที่แล้ว รวมไปถึงการจบซีซั่นแบบมือเปล่าเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

สถานการณ์ลุ้นแชมป์ลีกในฤดูกาลล่าสุด ก็ดูไม่ดีนัก หลังออกสตาร์ทไปย่ำแย่ช่วงต้น แม้ขึ้นมารั้งอันดับ 3 ได้ก่อนพักเบรกบอลโลก แต่ก็ยังตามหลัง นาโปลี ทีมจ่าฝูงมากถึง 10 แต้ม

ขณะเดียวกัน ผลงานในบอลยุโรป ก็ชวนปวดใจ หลังพ่ายไปถึง 5 จาก 6 เกม ตกรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ลีก จนต้องหล่นไปเล่นในยูโรป้าลีก

ช่วงที่ อันเญลลี่ ดำรงตำแหน่งประธานสโมสร เข้าอาจไว้วางใจให้ กุนซือวัย 55 ปี ทำหน้าที่ต่อไปจนหมดสัญญา เนื่องจากการปลดเขาจะทำให้ทีมเสียค่าชดเชยไม่น้อย 

อย่างไรก็ตาม ประธานคนต่อไปของ ‘เบี่ยงโคนรี่’ อาจเห็นต่างออกไป และตัดสินใจว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยน หากผลงานยังไม่ดีขึ้น และอาจนำไปสู่การเปิดตัวกุนซือใหม่ในปี 2023 ก็เป็นได้

ทว่าความจริงอาจเป็นอีกแบบเช่นกัน หลัง gazzetta dello sport สื่อเลี่ยนเผย รายงานว่า อัลเลกรี  และ เฟเดริโก้ เชรูบินี่ ผู้อำนวยการฟุตบอล เสนอตัวลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน เพราะตกตะลึงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทั้งคู่ถูกยับยั้งการยื่นซองขาว และจำเป็นต้องอยู่กับสโมสรต่อไป เพื่อรักษาความคงเส้นคงวาในแง่ของฟุตบอล และจบฤดูกาล 2022-23 ให้ดีที่สุด

 

อนาคตหลายแข้งก็ไม่แน่นอน

บันทึกทางการเงินล่าสุดของยูเวนตุสเน้นย้ำถึงปัญหาด้านนี้ที่สโมสรกำลังเผชิญอยู่ และคงไม่น่าแปลกใจนักที่จะเห็นพวกเขามองหาโอกาสปล่อยผู้เล่นในปี 2023

เวสตัน แม็คเคนนี่ กองกลางทีมชาติสหรัฐอเมริกา ย้ายมาเล่นในถิ่น อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม ด้วยค่าตัว 18 ล้านยูโร ในช่วงที่ ฟาบิโอ ปาราติชี่ ยังอยู่ในสโมสร และเมื่อเขาย้ายไปเป็นผู้อำนวยการกีฬาของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็อยากดึงแข้งชาวอเมริกันไปร่วมงานด้วยอีกครั้ง

ค่าตัวในตอนนี้ของ แม็คเคนนี่ อยู่ราวๆ 30-35 ล้านยูโร อีกทั้งก็ไม่ได้ถูกพิจารณาว่าเป็นผู้เล่นที่ ยูเว่ ทดแทนไม่ได้ และการไม่ใช่ผู้เล่นโควต้ายุโรป ก็ทำให้โควต้านี้ว่างลง หากเขาย้ายทีม และสามารถทำกำไรได้ด้วย

โดยเขาลงเล่นให้ทีม 11 จาก 15 เกมในลีกฤดูกาลนี้ แต่เหตุผลหลักๆที่ได้ลงเล่นก็มาจากการบาดเจ็บของ เลอันโดร ปาเรเดส, ปอล ป็อกบา, มานูเอล โลคาเตลลี่ และ อาเดรียง ราบิโอต์

เมื่อมีการดันดาวรุ่งขึ้นชุดใหญ่ทั้ง นิโคโล่ ฟาโกลี่ และ ฟาบิโอ มิเรตติ ทำให้แข้งเลือดมะกันมีโอกาสลงสนามน้อยลง และอาจถูกขายในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้

อย่างไรก็ตาม แม็คเคนนี่ ก็ไม่ใช่นักเตะรายเดียวที่สโมสรอยากปล่อย เพราะ ปาเรเดส ก็ดูไม่ปังตั้งแต่ย้ายเข้ามาในซัมเมอร์ที่ผ่านมา หลังมีปัญหาด้านความฟิต และน่าจะกลับไป เปแอสเช เมื่อหมดสัญญายืมตัว

ขณะเดียวกัน ราบิโอต์ ที่ดูย่ำแย่ในช่วงปีแรกๆกับ ‘ม้าลาย’ ในตอนนี้เขากลับเป็นผู้เล่นคนสำคัญของสโมสร และกำลังทำผลงานเด่นกับทีมชาติฝรั่งเศส ในบอลโลกอีกด้วย

เขาต้องการค่าเหนื่อยที่ 10 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งอาจมากเกินไปในมุมของทีมจากตูริน และนั่นอาจทำให้เขาเลือกลาสโมสรแบบไร้ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ปีหน้า

ด้าน ฮวน กัวดราโด้ และ อเล็กซ์ ซานโดร ต่างเผชิญหน้ากับอนาคตที่ไม่แน่นอนทั้งคู่ โดยแข้งทีมชาติเอกวาดอร์ รับค่าเหนื่อยอยู่ 5 ล้านยูโรต่อปี ขณะที่ แบ็คแซมบ้า ได้อยู่ 6 ล้านยูโรต่อปี ซึ่งมีข่าวว่าสโมสรเตรียมขอให้ทั้งคู่ลดค่าเหนื่อยลง 40 เปอร์เซนต์ หากหวังอยู่กับทีมต่อในซัมเมอร์หน้า

พวกเขาทั้ง 2 อยู่ในวัยแตะเลข 3 แล้ว และดูเหมือนว่าจะผ่านช่วงเวลาที่ดีของตัวเองไปแล้ว ดังนั้นการย้ายทีมน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสม หากพวกเขาไม่อยากลดค่าเหนื่อยลงในตูริน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง