ถึงคราวกู้ชื่อ : มูรินโญ่กับภารกิจพาโรม่าพิชิตสคูเด็ตโต้

หลังพา โรม่า คว้าแชมป์ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก มาครองในฤดูกาลที่แล้ว นี่คงถึงเวลาแล้วที่ โชเซ่ มูรินโญ่ จะพาทีมจากกรุงโรมต่อยอดความสำเร็จกับการลุ้นแชมป์เซเรียอาในฤดูกาลนี้

โรม่า ไม่ใช่สโมสรที่สามารถพิชิตครอบครองได้ง่าย ครั้งหนึ่ง รูดี้ การ์เซีย อดีตกุนซือของทีม เคยกล่าวไว้ว่าเมืองนี้เคยมีราชาแค่ 3 คนเท่านั้นก็คือ พระสันตะปาปา, หัวหน้าแก๊งค์มาเฟียเลบานอน และ ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ แต่ ‘เดอะ สเปเชียล วัน’ ก็ดูเหมาะสมที่เข้ามาเป็นราชาคนที่ 4 ในกรุงโรม

ในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา กุนซือชาวโปรตุกีส ทำให้แฟนบอล ‘หมาป่าเหลืองแดง’ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา แม้มีแนวทางการเล่นในเซเรียอาปีแรก กับการโจมตีแบบเน้นตีหัวเข้าบ้าน ลูกฉาบฉวย มากกว่าการครองบอลบุกแบบชัดเจน แต่ถึงอย่างนั้นทีมก็มีผลงานที่จับต้องได้กับการคว้าแชมป์ยุโรปใบแรกมาครอง

ฤดูกาลใหม่นี้ โรม่า เสริมทัพได้ไฉไลสุดๆ เมื่อบวกกับขุมกำลังเก่าก็น่าจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว หรือนี่อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับทีม และ มูรินโญ่ ในการไล่ล่าแชมป์ลีกมาครองอีกครั้งในรอบ 22 ปี?

 

แชมป์ยุโรปใบแรกของสโมสร

รายการ คอนเฟอเรนซ์ ลีก อาจเป็นเพียงถ้วยน้องใหม่ของ ยูฟ่า แต่นั่นมีความหมายต่อตัวเขาอย่างมาก เห็นได้จากตอนที่เขาหลั่งน้ำตาหลังพาทีมเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ ในรอบตัดเชือก หรือแม้กระทั่งรำลึกถึงชัยชนะที่ติรานาด้วยรอยสักใหม่

ชัยชนะ 10 เหนือ เฟเยนูร์ด มีความหมายต่อเหล่าแฟนบอล ‘จัลโลรอสซี่’ เช่นกัน  อาจมีมากกว่าด้วย เนื่องจากพวกเขาต้องทนทุกข์ห่างหายจากความสำเร็จในลีกมาเนิ่นนาน นับตั้งแต่คว้าแชมป์สคูเด็ตโต้ในปี 2001 และต้องดิ้นรนทั้งในลีกและฟุตบอลรายการยุโรป

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมแฟนบอลของ โรม่า ถึงปฏิบัติกับ มูรินโญ่ ราวกับเป็นพระเจ้า โดยมีกองเชียร์หลายร้อยคนออกมาต้อนรับเมื่อเขาเดินทางมาถึงกรุงโรมในช่วงซัมเมอร์ที่แล้ว

ไม่มีใครคาดคิดว่ากุนซือระดับเขาจะเข้ามาในทีม ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือคนที่เข้ามาแทนที่ เปาโล ฟอนเชก้า การแต่งตั้ง ‘เดอะ สเปเชียล วัน’ ทำให้ วอลเตอร์ ซาบาตินี่ อดีตผู้อำนวยการของสโมสร อธิบายถึงเรื่องนี้ว่าสร้างความสะเทือนไปทั่วเมืองหลวงของ อิตาลี เลย

มือถือของ เปาโล ดิ คานิโอ แทบระเบิด หลังตำนานแข้ง ลาซิโอ ได้รับข้อความจากเพื่อนๆของเขาหลายคนที่เป็นแฟนบอล โรม่า และตื่นเต้นกับข่าวนี้มากๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มองว่า กุนซือชาวโปรตุกีส ไม่ได้เก่งกาจเหมือนแต่ก่อน และดูตกยุคไปแล้ว

แม้นั่นอาจเป็นเรื่องจริง แต่วิธีการของ อดีตกุนซือ เชลซี ก็กำลังได้ผลในกรุงโรม และการคืนชีพจากช่วงเวลาตกอับก็ดูเหมาะสมกับเขาเสมอ

การที่ โรม่า คว้าอันดับ 7 ในลีกฤดูกาล 2020-21 ทำให้มีความคาดหวังที่ต่ำในฤดูกาล 2021-22 เหมือนกัน แม้ได้กุนซือชื่อดังชาวโปรตุกีส เข้ามาก็ตาม เนื่องจากคุณภาพที่มีในทีม

อีกทั้งความหงุดหงิดของ เดอะ สเปเชี่ยล วัน ก็แสดงให้เห็นชัดเจนเป็นระยะ เขาบอกว่าตนเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทั้งในฐานะโค้ชและชายคนหนึ่ง แต่เขาเริ่มแซะคู่แข่งเก่าในการแถลงข่าวครั้งแรกของเขา และไม่เคยลดลาวาศอกกับสิ่งนี้เมื่อฤดูกาลเริ่มขึ้น

เป้าหมายหลักของเขาในการโจมตีผ่านงานแถลงข่าวอาจเป็นผู้ตัดสิน แต่เขามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับการทะเลาะวิวาทที่น่าเกลียดและยืดเยื้อกับทีมสต๊าฟฟ์ของ โบโล-กลิมท์ ทีมคู่แข่งในคอนเฟอเรนซ์ ลีก

อย่างไรก็ตาม มูรินโญ่ ก็พยายามสร้างความเชื่อใจกับลูกทีมอย่างเต็มที่ในเวลาต่อมา หลังจากเคยทิ้งผู้เล่นที่เขาไม่ต้องการออกไปแบบไร้ความปราณีช่วงเริ่มต้นฤดูกาล และเขาก็ประสบความสำเร็จในการร่วมทุกคนเป็นหนึ่งเดียวในห้องแต่งตัว

แน่นอนว่าแฟนๆ อยู่เบื้องหลังเขาตั้งแต่เริ่มต้น ภาพจิตรกรรมฝาผนังของกุนซือแดนฝอยทองบนรถเวสป้าปรากฏขึ้นในย่านเทสตัชโช่ของกรุงโรมเพียงไม่กี่วันหลังจากที่เขามาถึง

ผลลัพธ์ที่ได้คือการสร้างความรู้สึกของครอบครัวในทีมซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ คอนเฟอเรนซ์ ลีก ได้อย่างยิ่งใหญ่ ทว่าคำถามก็คือตอนนี้เขาจะต่อยอดความสำเร็จด้วยการพาทีมจากรุงโรมกลับไปเป็นยอดสโมสรในอิตาลีได้หรือไม่?

 

ยกระดับทีมขึ้นชัดเจน

ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือผู้อยู่เบื้องหลังการพา โรม่า คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาล 2000-01 คือหนึ่งในผู้คนที่คาดหวังว่า ‘หมาป่ากรุงโรม’ จะสามารถจบท็อปโฟร์ได้ในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็ระบุถึงเรื่องนี้อย่างน่าสนใจว่า “ความเสี่ยงในโรมยังเหมือนเดิมก็คือ ‘ความรู้สึกสบายใจที่มากเกินไป’”

ความสำเร็จของคอนเฟอเรนซ์ลีกได้ผ่านไปแล้ว แต่เมื่อประกอบกับตลาดซื้อขายนักเตะในเชิงบวก ทำให้แฟนบอลของสโมสรมองในแง่ดีอย่างมากกับลุ้นแชมป์

ภาพการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ เปาโล ดีบาล่า กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์ หลังย้ายมาจาก ยูเวนตุส แบบไร้ค่าตัว และรู้สึกตื่นเต้นกับการต้อนรับที่เขาพบเจอใน ปารัซโซ่ เดลล่า ซิวิลต้า อิตาเลียน่า

เกมอุ่นเครื่องพบกับ ชัคตาร์ โดเนตส์ก ตั๋วของฝั่งเจ้าบ้านกว่า 65,000 ใบถูกขายหมดเกลี้ยง และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไมบรรดากองเชียร์ถึงตื่นเต้นกว่าปีที่ผ่านมา

ดีบาล่า, แทมมี่ อับราฮัม, โลเรนโซ่ เปเยกรินี่ และ นิโคโล่ ซานิโอโล่ คือเหล่า ‘แฟนเทสติก โฟร์’ ของ ‘จัลโลรอสซี่’ ที่ประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมช่วยให้ทีมเอาชนะไปสกอร์ 5-0 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามูรินโญ่ มีทีมที่ทำให้เขาสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนกับเซเรียอาได้แล้วในฤดูกาลนี้

“โชเซ่เป็นผู้ชนะ และเขาก็แสดงให้เห็นอีกครั้งที่โรม่า ตอนนี้เขามีทีมที่เหมาะสมกับความคาดหวังของเขา และเขาก็ดูสมบูรณ์แบบในการจัดการกับทีมที่ดี เขาจะไม่มีปัญหาอะไรเลย” คาเปลโล่กล่าวกับ Gazzetta dello Sport

แน่นอนว่าการมาของ เนมานย่า มาติช และ จินี่ ไวจ์นัลดุม จะนำประสบการณ์ที่จำเป็นและความมั่นคงมาสู่แผงมิดฟิลด์ ในขณะที่การกลับมาฟิตสมบูรณ์ของ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า วิงแบ็คดีกรีทีมชาติอิตาลีนั้นก็เพิ่มความแข็งแกร่งให้ทีมขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสงสัยอยู่ว่านี่คือทีมที่สามารถรักษาความสม่ำเสมอเพื่อครองตำแหน่งแชมป์ได้หรือไม่?

การพัฒนาและปรับปรุงขึ้นเห็นได้ชัดเจนจากทีมที่คว้าอันดับ 6 ในเซเรียอาฤดูกาลก่อน แต่ก็ยังดูน่าเป็นห่วงในแง่ของขนาดและตัวเลือกเพิ่มเติมที่มีในทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง รวมไปถึงปัญหาด้านความฟิตของ ดีบาล่า ก็ชวนให้น่ากังวลเช่นกัน

อีกทั้งยังต้องรอดูกันต่อไปว่า มาติช และ ไวจ์นัลดุม ยังดีพอมากน้อยแค่ไหน เมื่อพิจารณาจากฟอร์มครั้งล่าสุดของพวกเขาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตามลำดับ

นอกจากนี้ แฟนบอลของ ‘หมาป่าเหลืองแดง’ ยังคงหายใจไม่ทั่วท้องจนกว่าตลาดซื้อขายจะจบลง เนื่องจากข่าวลือที่มีอย่างต่อเนื่องของ ซานิโอโล่ ผู้ซึ่งตกเป็นข่าวกับทั้ง ยูเวนตุส และ สเปอร์ส ตลอดช่วงซัมเมอร์นี้

 

ช่องว่างระหว่างบิ๊กทรี

อย่างไรก็ตาม นี่คือโอกาสครั้งสำคัญสำหรับ โรม่า อย่างไม่ต้องสงสัย

นี่เป็นช่วงเวลาที่ลำบากใจสำหรับฟุตบอลอิตาลี ตลาดซื้อขายช่วงฤดูร้อนได้ตอกย้ำเรื่องเจ็บปวดอีกครั้งว่า เซเรียอา ยังไม่สามารถแข่งขันกับพรีเมียร์ลีกได้ในแง่ของการดึงนักเตะระดับท็อปไปร่วมทีม

นั่นทำให้ความรอบคอบเป็นสิ่งจำเป็นต่อการซื้อขาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นจะส่งผลเสียต่อการสร้างทีมที่ดี และ ‘จัลโลรอสซี่’ ต้องขอบคุณการจัดการที่น่าประทับใจของเจ้าของชาวอเมริกันของพวกเขาอย่าง เฟรดคิน กรุ๊ป (Friedkin Group) ที่ได้พิสูจน์แล้วว่ายังคงสามารถเสริมความแข็งแกร่งโดยไม่ต้องจ่ายเงินให้ทีมอื่นแม้แต่ยูโรเดียว

ช่วงที่ผ่านม่า ‘จัลโลรอสซี่’ จ่ายค่าตัวนักเตะใหม่แค่รายเดียว นั่นก็คือ เซกี้ เซลิก แต่ก็มีราคาค่างวดแค่ 7 ล้านยูโรเท่านั้น ขณะที่ ดีบาล่า, ไวจ์นัลดุม (ยืมตัวพ่วงซื้อขาด), มาดิช และ มิเล่ ซวิลาร์ ย้ายมาแบบไร้ค่าตัว และสามารถเสริมเพิ่มได้อีกด้วยในช่วง 2 สัปดาห์ที่เหลือก่อนตลาดปิด

ขณะเดียวกัน เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน และยูเวนตุส คู่แข่งหลักของโรม่า ต่างก็มีการซื้อขายนักเตะแบบผสมกัน และไม่ได้เสริมทัพในแบบที่ยกระดับกว่าทีมอื่นๆชัดเจน

ด้วยการเซ็นสัญญาที่ชาญฉลาด อาจทำให้ทีมจากรุงโรม ลดช่องว่างในกับเหล่า ‘บิ๊กทรี’ได้ เพียงแต่ว่าอาจไม่เพียงพอที่จะพิจารณาว่าพวกเขาจะเป็นตัวเต็งเบอร์ต้นๆในการลุ้นแชมป์เท่านั้น

และคาเปลโล่ก็พูดถูกเมื่อเขากล่าวว่าความรู้สึกสบายอกสบายใจที่มากเกินไปนั้นเป็นปัญหากับหนึ่งในสโมสรที่ใหญ่ที่สุดแต่ไม่มั่นคงที่สุดในเซเรียอา เพราะสิ่งต่างๆสามารถเปลี่ยนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในเมืองหลวงแดนมักกะโรนี

อย่างไรก็ตาม พลังงานที่สร้างขึ้นที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก้ ในตอนนี้นั้นน่าประทับใจและสามารถเสริมพลังให้ทีมไปสู่การจบท็อปโฟร์ได้ 

และที่สำคัญ นี่คงเป็นการขยับพา มูรินโญ่ ให้เข้าใกล้การเป็นราชาคนที่ 4 ของกรุงโรมอีกก้าวก็เป็นได้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง