ช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมาแทบไม่มีอะไรที่แตกต่างไปมากสำหรับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช ภายใต้สีเสื้อของ ฟูแล่ม
ในฤดูกาล 2020-21 กองหน้าทีมชาติเซอร์เบีย ประสบปัญหาฟอร์มฝืดอย่างหนักในการทำประตู ทั้งในสโมสรและทีมชาติ ซึ่งเขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกแค่ 3 เกมในปีที่ทีมตกชั้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ชิพ อีกทั้งยังเป็นคนพลาดจุดโทษในช่วงที่ดวลจุดโทษชี้ขาดกับ สกอตแลนด์ ส่งผลให้ เซอร์เบีย ชวดผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูโร 2020 รอบสุดท้าย
แต่จากนั้นอีก 12 เดือนถัดมา โอกาสที่ไถ่บาปและพิสูจน์ตัวเองของ ดาวเตะวัย 27 ปี ก็กลับมาอีกครั้ง เมื่อเขาทำสถิติยิงประตูมากสุดในแชมเปี้ยนส์ชิพ ด้วยการซัดไป 43 เม็ดจาก 44 เกม ช่วยให้ ‘เจ้าสัวน้อย’ เลื่อนชั้นเป็นครั้ง 3 นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2018
อีกทั้งยังเป็นฮีโร่ให้บ้านเกิด ด้วยการโหม่งประตูชัยใส่ โปรตุเกส ซึ่งถือเป็นลูกที่ 8 ในรอบคัดเลือก ส่งให้ เซอร์เบีย ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่ กาตาร์ ปลายปีนี้เรียบร้อย
แม้เมี 12 เดือนที่ยอดเยี่ยม แต่คำถามก็คือหลังจากนี้ ดาวยิงเบอร์หนึ่งในถิ่น คราเว่น ค็อตเทจ จะคงความยอดเยี่ยมในระดับนั้นได้ตลอดฤดูกาล 2022-23 หรือไม่?
ล้มเหลวในลีกสูงสุด?
มิโตรวิช มีโอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกถึง 3 ฤดูกาลเต็มๆ โดยแบ่งเป็นกับ ฟูแล่ม 2 ฤดูกาล และอีก 1 ซีซั่นกับ นิวคาสเซิ่ล ซึ่งทั้งหมดจบลงด้วยการตกชั้นไปเริ่มใหม่ใน แชมเปี้ยนส์ชิพ ทั้งหมด
หอกชาวเซิร์บ ยิงเพียง 9 ประตูจาก 34 นัดในลีก เมื่อฤดูกาล 2015-16 ซึ่งในขณะนั้นมีอายุเพียง 20 ปี ช่วงที่ย้ายจาก อันเดอร์เลชท์ มาเล่นในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค
ส่วนปีแรกในลีกสูงสุดแดนผู้ดีกับ ฟูแล่ม เริ่มต้นโดยมี สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุมบังเหียน และ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งก็ไม่ดีขึ้น ก่อนที่ สก็อตต์ ปาร์คเกอร์ จะเข้ามาในช่วงท้าย
ดาวเตะวัย 27 ปี ถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ ‘เจ้าสัวน้อย’ ในฤดูกาลนั้น โดยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงถึง 37 นัดในลีก และยิงไป 11 ประตู น้อยกว่า โรเมลู ลูกากู จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ของ ลิเวอร์พูล และ ซอน เฮือง มิน ของ สเปอร์ส เพียงลูกเดียว
อีกทั้งมากกว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด และ วิลฟรีด ซาฮา อยู่ 1 ประตูด้วย ดังนั้นอาจพูดได้ยากว่าสิ่งที่เขาได้ในปีนั้นคือความล้มเหลวทั้งหมด
หลังจากช่วยให้ ฟูแล่ม เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาล 2019-20 ปีล่าสุดที่เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีก กลับกลายเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่อีกครั้ง เมื่อเขาออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแค่ 13 เกม พร้อมยิงเพียง 3 ประตู หลังกลายเป็นตัวเลือกสุดท้ายในแดนหน้าของ ปาร์คเกอร์
อย่างไรก็ตาม สไตล์การเล่นของหอกชาวเซิร์บ ก็ค่อยพัฒนาขึ้นมา หลังได้ร่วมงานกับ มาร์โก ซิลวา จากที่เคยยืนปักหลักเป็นกองหน้าตัวเป้าอย่างเดียว ณ ตอนนี้ เขาถอยลงมาเพื่อเชื่อมเกมกับเพื่อนร่วมทีม คล้ายกับที่ แฮร์รี่ เคนใน ท็อตแน่ม ซึ่งได้ผลสุดๆจนทำให้ยิงกระจายจนสร้างสถิติใหม่ในลีกรองแดนผู้ดี
ซึ่งในมุมมองของ กอร์ดอน เดวิส ดาวซัลโวตลอดกาลของ ฟูแล่ม มองว่า หอกวัย 27 ปี ไม่ได้ล้มเหลวในพรีเมียร์ลีกเช่นกัน แต่เป็นเพราะสไตล์การเล่นของกุนซือคนก่อนอย่าง ปาร์คเกอร์ ไม่เหมาะหรือช่วยเค้นประสิทธิภาพสูงสุดของนักเตะได้เท่านั้น
“แม้ว่าเขาไม่ได้ทำอะไรให้เรามากนักในพรีเมียร์ลีก แต่เขาก็ไม่ควรถูกโยนความผิดสำหรับฤดูกาลที่ย่ำแย่ในจุดนั้น” กอร์ดอน กล่าว
“ผู้เล่นรอบๆตัวเขา แทคติก และการเล่นของทีมไม่ได้ดีพอจะทำให้เห็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของ มิโตรวิช แต่ตอนนี้กับ มาร์โก ซิลวา เรามีผู้เล่นตัวรุกที่มีคุณภาพมากขึ้น ดังนั้น ผมหวังว่า ฟูแล่มจะมีการพัฒนามากขึ้นในฤดูกาลนี้ และผมมั่นใจว่าเราจะได้เห็น มิโตวิช เวอร์ชั่นที่ดีขึ้นในระดับเดียวกับ พรีเมียร์ลีก ”
อิสระที่เขาได้รับจาก กุนซือชาวโปรตุกีส และความสัมพันธ์ที่พวกเขาสร้างร่วมกัน ทำให้อดีตแข้ง อันเดอร์เลชท์ เลือกปักหลักในถิ่น คราเว่น ค็อตเทจ ต่อไป หลังเกือบย้ายทีมในช่วงที่มีปัญหากับ ปาร์คเกอร์ นายเก่าคนก่อน
ซึมซับความรู้เหมือนฟองน้ำ
วุค ราโซวิช คือคนกลุ่มแรกๆที่เห็นศักยภาพของ มิโตรวิช ในช่วงที่ยังเป็นกองหน้าวัยรุ่นสมัยเล่นให้กับ ปาร์ติซาน เบลเกรด ในชุดเยาวชน
ราโซวิช ทำงานให้กับสโมสรจากเมืองเบลกรด ในฐานะผู้ช่วย และในปี 2011 เขาก็รับตำแหน่งเป็นเฮดโค้ชของ เทเลออปติก สโมสรลูกในเครือของ ปาร์ติซาน ซึ่งอยู่ในดิวิชั่น 2 ของประเทศ ซึ่งตอนนั้นเอง เขาตัดสินใจดึงหอกหนุ่มชาวเซิร์บไปร่วมงานด้วย แม้ตอนนั้นมีอายุเพียง 16 ปี และไม่ได้มีประสบการณ์ในฟุตบอลชุดใหญ่เลยก็ตาม
“เขาอายุยังน้อย มีความทะเยอทะยาน พร้อมทุ่มเทเพื่อความสำเร็จ ทันทีที่ผมได้พูดคุยกับเขาครั้งแรก ผมสังเกตุเห็นถึงพลังงานอันเหลือล้น เขายังไม่ใช่นักเตะที่เพรียบพร้อมดี แต่ก็มีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ตามแบบฉบับที่ฟุตบอลสมัยใหม่ต้องการ แม้มีอายุเพียง 17 ปี แต่ก็สามารถครองบอลได้ดี ศักยภาพของเขาแสดงออกมาชัดเจน ไม่นานเขาจะกลายเป็นนักเตะที่อันตรายในกรอบเขตโทษแน่นอน” ราโซวิช ย้อนความ
ถึงเป็นลีกรองในเซอร์เบีย แต่ที่นั่นก็อุดมไปด้วยนักเตะมากประสบการณ์กว่าที่หลายคนคิด และการที่ หอกหนุ่มจาก ปาร์ติซาน ได้มีโอกาสลงเล่นในลีกนี้ก็ทำให้เขาพัฒนาฝีเท้าได้รวดเร็วอย่างมากภายในเวลาไม่นาน และ ราโซวิช ก็มองว่าความสามารถในการฟังกับเรียนรู้ของ หอกวัย 27 ปี ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เขาพัฒนาได้อีกไกล
“เขาเหมือนกับฟองน้ำเลย เขาไม่เคยลืม เขาเรียนรู้ได้รวดเร็ว และพร้อมรับคำแนะนำทุกอย่าง มันยอดเยี่ยมจริงๆ เราอธิบายรายละเอียดบางอย่างในตอนซ้อมแค่ครั้งเดียว และเมื่อถึงการแข่งขัน เขาก็ทำมันได้ในสนามจริง และทำแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆด้วย สุดยอดมากที่ได้เห็นพลังงาน, ความกระหายของเขา ผสมผสานกับพรสวรรค์และความรู้ที่เขามี” ราโซวิช กล่าวเสริม
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำใมเขาถึงได้สัญญาอาชีพหลังจากเล่นให้กับ เทเลออปติก เพียงปีเดียว และก้าวขึ้นเป็นตัวจริงใน ปาร์ติซาน อย่างรวดเร็ว พร้อมกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงประจำทีม ก่อนถูกขายให้กับ อันเดอร์เลชท์ ในซัมเมอร์ปี 2013 ซึ่งยิงไป 16 ประตูในลีก ช่วยให้ต้นสังกัดคว้าแชมป์ลีกเบลเยี่ยมไปครอง
ยังไปได้อีกไกล
แม้ฟอร์มกระฉูดสุดๆในระดับสโมสร ซึ่งผลงานกับ อันเดอร์เลชท์ ทำให้เขาได้ย้ายไปเล่นกับ นิวคาสเซิ่ล ในปี 2015 แต่สิ่งต่างๆกับไม่เคยง่ายสำหรับ มิโตรวิช เลย ในระดับนานาชาติ
ปี 2013 เขาช่วยให้ เซอร์เบีย คว้าแชมป์ยูโรรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี พร้อมครองตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์ แต่ในทีมชุดใหญ่ สถิติการยิงประตูของเขาเริ่มต้นได้ไม่ดีนักในช่วงแรก เมื่อยิงเพียง 2 ประตูจาก 20 นัดแรกในทีมบ้านเกิด
ทว่านับตั้งแต่นั้น เขาก็บวกเพิ่มเป็น 44 ประตูจาก 53 เกม พร้อมครองตำแหน่วดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติ ซึ่ง 6 ประตูในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ทำให้เขาสามารถชนะใจแฟนบอลชาวเซิร์บเรียบร้อย และตอนนี้เขากลายเป็นฮีโร่ของคนทั้งชาติแล้ว
“จริงๆยังไม่มีแฟนเซอร์เบียจริงๆหรอก แค่แฟนบอลของ เร้ดสตาร์ และ ปาร์ติซาน เท่านั้น” วลาดิเมียร์ โนวาโควิช นักข่าวฟุตบอลชาวเซิร์บ กล่าวประเด็นนี้ “พวกเขามักจะเป็นศัตรูกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามและต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเปลี่ยนเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ ‘มิโตร’ ทำได้ ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์เลย”
ณ ตอนนี้ มิโตรวิช กำลังเริ่มต้นพรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม หลังซัดไปแล้ว 4 ประตูจาก 4 นัดแรก ทั้งเกมที่เสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 และเกมเฉือนชนะ เบรนท์ฟอร์ด แบบสุดมันส์ ซึ่งเขาเป็นคนทำประตูชัยในเกมนั้นด้วย
จากที่เคยร่วมงานและเห็นถึงศักยภาพมาตั้งแต่เป็นดาวรุ่ง ทำให้ ราโซวิช เชื่อว่ หอกวัย 27 ปี ยังไม่ถึงขีดจำกัดของตัวเอง และสามารถพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้
“เรายังคงติตต่อพูดคุยกันครับ ผมรู้ถึงกิจวัตรของเขาในแต่ละวัน และวิธีที่เขาเตรียมตัวในแต่ละเกม ผมสังเกตุเห็นว่าเขายังไม่พอใจกับระดับที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เขาต้องการมากกว่านี้เสมอ” อดีตโค้ช กล่าวเสริม
“เมื่อผมได้พูดคุยกับเขา ผมบอกเขาบ่อยๆว่า ‘อย่าหยุด ลุยต่อไป ไม่มีใครรู้หรอกว่านายจะไปได้ไกลแค่ไหน ผมไขว่คว้ามาเยอะแล้วก็จริง แต่นายยังหนุ่มยังแน่น และทำได้มากกว่านี้’ ผมมั่นใจว่าเขาจะทำได้ดีกว่านี้แน่ๆ”
“ผมหวังลึกๆว่าเขาจะทำบางอย่างที่ยิ่งใหญ่และสวยงามใน กาตาร์ ผมหวังจริงๆว่าเขาจะช่วยเซอร์เบีย ด้วยการเป็นหนึ่งในดาวยิงสูงสุดของฟุตบอลโลกปลายปีนี้”
แต่ก่อนจะถึงฟุตบอลโลก การพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกคือสิ่งที่ มิโตรวิช กำลังให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องไหน และเป็นสิ่งที่เขาต้องการทำให้สำเร็จกว่าที่หลายคนคิดเพื่อยุติข้อครหาที่หลายคนมองว่าเขาล้มเหลวตลอด 3 ปีในลีกสูงสุดนั่นเอง