เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังของ ลิเวอร์พูล เผยว่าเขาเสียสละเรื่องนอกสนามมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าเขายังอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม หลังยอมรับว่าเขาเล่นมากเกินไปใน 2 ซีซั่นที่ผ่านมา
ฤดูกาลก่อนหลังกลับมาจากผ่าตัดเข่า กองหลังชาวดัตช์ ลงเล่น 90 นาทีเต็มถึง 49 นัดติดต่อกันนับตั้งแต่เกมเปิดสนาม และถูกเปลี่ยนตัวออกครั้งแรกหลังได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยในเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ที่ชนะ เชลซี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม
ฟาน ไดจ์ค เป็นสำรองในเกมลีกนัดสุดท้าย แต่กลับมาเล่นในเกมนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ เรอัล มาดริด รวมแล้วลงเล่นไปถึง 63 นัดในฤดูกาลก่อน
ซีซั่นนี้กองหลังวัย 31 ปีลงเล่นทุกนาทีอีกใน 21 จาก 22 เกมแรกก่อนฟุตบอลโลก พลาดเพียงเกมเดียวใน คาราบาว คัพ ในเกมเหย้าที่พบกับ ดาร์บี้ ทีมจากลีก วัน
แต่หลังกลับมาจาก กาตาร์ เขาได้รับการบาดเจ็บแฮมสตริงจนพลาดลงสนามไป 7 นัด แต่เจ้าตัวก็กลับมาเป็นตัวจริง 90 นาทีเต็มใน 4 เกมที่ผ่านมา รวมถึงนัดล่าสุดทีโหม่งประตู วูล์ฟแฮมป์ตัน พา ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
“เราเล่นทุกๆ 3-4 วัน ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือเสียสละเล็กน้อย ผมรักที่จะใช้เวลากับครอบครัวและลูกๆ ของผม” ฟาน ไดจ์ค กล่าว
“แต่ชัดเจน ผมต้องเข้ารับการรักษาในทุกๆ วัน ทำให้แน่ใจว่าผมกินอาหารที่เหมาะสม และทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อให้พร้อมสำหรับเกมถัดไป”
“นั่นคือชีวิตที่เราอาศัยอยู่ และเรามีสิทธิพิเศษมากมาย และเรารู้เรื่องนั้นจริงๆ แต่คุณยังต้องทำการเสียสละเหล่านั้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังฉาก”
“ชัดเจนว่าผมกลับมาจากอาการบาเเจ็บที่ค่อนข้างซับซ้อนที่ผมได้รับเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ต้องทำการรักษา ที่ต้องใช้เวลา มันต้องใช้การปรับตัว”
“นั้นคือแนวทางที่เราต้องจัดการตัวเอง และผมไม่พูดว่ามันง่ายเสมอ แต่มันเกิดขึ้น”
“การกลับมาจากอาการบาดเจ็บเข่า ผมเล่นทุกเกมของพรีเมียร์ลีก เพราะผมต้องการออกไปที่นั้น นั้นคือสิ่งที่ผมทำงานหนักเพื่อมัน”
“สิ่งที่ตามมาคือผมเล่นหลายเกมมากเกินไปในตอนนั้น ผมจะทำทุกๆ อย่างที่เป็นไปได้เพื่อลงเล่น แต่ผมอาจมีคิดก่อนฟุตบอลโลกว่า ขอพักสักหน่อยเพื่อให้ตัวเองพร้อม”
“แต่ผมไม่ทำ เพราะผมต้องการจะมีอิทธิพลสำหรับสโมสรนี้ แต่โชคไม่ดีมันตามผมทัน”
“ผมไม่ใช่หุ่นยนต์ และผมคิดว่ามีฟุตบอลโลก หลังจากนั้นไม่ต้องทำอะไร 1 สัปดาห์และกลับมา มันอาจไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้อง”