แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งบุกไปปราชัยให้กับ วัตฟอร์ด แบบเหนือความคาดหมาย 0-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้พลพรรคอสูรยังคงมี 25 คะแนนเท่าเดิม พร้อมเอาโอกาสในการทำแต้มไล่จี้พื้นที่ท็อปโฟร์โยนทิ้งลงโถส้วมอีกตามเคย และต่อไปนี้ คือ 5 ประเด็นของปีศาจแดงในเกมที่พวกเขาบุกไปแพ้ให้กับทีมบ๊วยของตารางที่ วิคาเรจ โร้ด
เกิดอะไรขึ้นกับ เด เคอา !
ในเกมที่แล้วกับ เอฟเวอร์ตัน แม้จะพูดว่าเป็นความผิดของ ดาบิด เด เคอา ได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าเจ้าตัวมีส่วนสำคัญที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตู แต่ในนัดนี้ จังหวะขึ้นนำของแตนอาละวาดคือการทำพลาดของนายด่านสแปนิชแบบเป็นเอกฉันท์ และที่น่าตกใจก็คือ นับตั้งแต่พรีเมียร์ลีกเปิดฉากฤดูกาล 2019-20 เด เคอา ก่อความผิดพลาดจนส่งผลให้ทีมเสียประตูไปแล้วถึง 6 ครั้ง ซึ่งไม่มีนักเตะคนใดแล้วที่มอบของขวัญให้กับฝั่งตรงข้ามไปมากกว่ามือกาวปีศาจแดง
บทเรียนไอ้แมงมุม
สำหรับประตูที่สองที่ ยูไนเต็ด เสียจากลูกจุดโทษ เอาล่ะ ถ้าพูดถึงเหตุการณ์ทั้งหมด เราคงไม่สามารถโทษ วาน-บิสซาก้า คนเดียวได้ เพราะต้องไปไล่เบี้ยเอาตั้งแต่ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ไม่ตามไปชิด ทรอย ดีนี่ย์ อย่างไรก็ตาม หากดูจากจังหวะที่เสียจุดโทษ แบ็คขวาวัย 22 ปี อาจจะต้องรับผิดชอบไปเต็มๆ เนื่องจากบอลทะลุเข้ามาในกรอบเขตโทษแล้ว แต่ด้วยความมั่นใจในท่าไม้ตายของตัวเอง ทำให้เขาเลือกช็อตเล่นที่เสี่ยงเกินไป ทั้งที่สามารถเพลย์เซฟด้วยการวิ่งเบียดตีคู่ไปก่อนได้ เพราะด้านหลังมี แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ตามมาช่วยรองแล้ว ซึ่งนี่ก็คงจะเป็นบทเรียนล้ำค่าให้ไอ้แมงมุมได้เติบโตต่อไป
หมดเวลา ลินการ์ด ?
แม้ เจสซี่ ลินการ์ด จะเล่นไม่ออกเลยในเกมลีกนัดที่แล้วกับท็อฟฟี่สีน้ำเงิน แต่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ก็ยังไว้วางใจให้เจ้าตัวออกสตาร์ทในตำแหน่งหมายเลข 10 ก่อน อันเดรส เปเรร่า หรือ ฆวน มาต้า ในการดวลกับ วัตฟอร์ด และสุดท้าย เขาก็ไม่ทำให้แฟนบอล (ทีมคู่แข่ง) ต้องผิดหวังจริงๆ เมื่อไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับปีศาจแดงได้เลย
โดยหลังจากที่แนวรุกสายโซเชี่ยลถูกถอดออกในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ก็เท่ากับว่าเป็นเวลา 25 ชั่วโมงแล้วที่เจ้าตัวไม่สามารถยิงประตูหรือแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกได้เลย ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ ลินการ์ด มีส่วนร่วมกับประตูก็คือเกมที่พบกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ เมื่อช่วง บ็อกซิ่ง เดย์ ปี 2018 ที่เขามี 1 แอสซิสต์ในนัดนั้น
มิติจาก ป็อกบา
ปอล ป็อกบา กลับมามีชื่อในทีมอีกครั้งในรอบเกือบ 3 เดือน หลังจากสามารถสลัดอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าทิ้งไปได้สักที โดยเจ้าตัวถูกส่งลงสนามแทน ลินการ์ด ในนาทีที่ 64 ของการแข่งขัน ทั้งนี้ แม้จะร้างสนามไปนาน แต่ก็เห็นชัดเจนเลยว่าดาวเตะเฟรนช์แมนสามารถสร้างอิมแพคให้กับเกมได้ โดยเฉพาะจังหวะเคลื่อนที่ , วิชั่นในการสร้างสรรค์เกม และสกิลการผ่านบอลยาวที่แม่นยำ ซึ่งก็น่าเสียดายไม่น้อยที่ เมสัน กรีนวู้ด ไม่สามารถเปลี่ยนคีย์พาสของจอมทัพเลือดน้ำหอมให้กลายเป็นประตูได้
ครองบอลเยอะ = ชนะน้อย
อีกหนึ่งสถิติอันน่าแปลกใจที่เกิดขึ้นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจบเกมนี้ คือภายใต้การนำของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปีศาจแดงชนะในลีกได้ถึง 73% หากครองบอลน้อยกว่าคู่ต่อสู้ (ชนะ 8 จาก 11 นัด) แต่เมื่อครองบอลได้มากกว่า พวกเขากลับคว้าชัยในลีกได้เพียงแค่ 36% เท่านั้น (ชนะ 10 จาก 28 นัด) ดังนั้น จากสถิติสามารถตีความได้ว่าทีมของกุนซือนอร์วีเจี้ยนจะน่ากลัวก็ต่อเมื่อโดนคู่แข่งบุกเข้าใส่ แล้วค่อยหาจังหวะเล่นเกมโต้กลับ แต่เมื่อต้องเป็นฝ่ายครองบอลรุกเข้าโจมตี พลพรรคอสูรกลับไปไม่เป็นซะเอง
