การตกชั้นเป็นสิ่งที่หลายๆสโมสรพยายามหลีกเลี่ยงมากที่สุด โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่รายได้เม็ดเงินจากการโลดแล่นในลีกสูงสุดของที่นี่ มากกว่าการคว้าแชมป์ลีกของบางประเทศเสียอีก
แต่เรื่องนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี หากทีมเหล่านั้นไม่สามารถทำผลงานหรือเก็บแต้มได้ตามเป้าในแต่ละฤดูกาล และบางครั้งการตกชั้นอาจเกิดขึ้นเร็วในแบบที่แฟนบอลของสโมสรไม่เคยคาดคิดมาก่อนด้วย
ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับ 10 สโมสรที่ตกชั้นเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 1992 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด | ฤดูกาล 2020-2021
วันตกชั้น : 17 เมษายน 2021
ลงเล่น : 32 เกม
คริส ไวล์เดอร์ ผู้พา เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2019-20 ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าทีมน้องใหม่ทั่วไป จนคว้าอันดับ 9 มาครองได้อย่างเหนือความคาดหมาย พร้อมกับลีลาการเล่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ
ทว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลต่อมา ทีม ‘ดาบคู่’ ที่เคยสู้กับทีมเล็กใหญ่ได้สนุกสูสี กลับโดนยิงเป็นว่าเล่นและไม่ชนะใครเลยใน 17 เกมแรก จนหลายคนคาดหมายว่าพวกเขาคงไม่รอดร่วงไปเริ่มต้นใหม่ในแชมเปี้ยนส์ชิพ ฤดูกาลหน้าแน่นอน
และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หลังเกมพ่าย วูล์ฟส์ 1-0 ในเดือนเมษายน ทำให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ตกชั้นอย่างเป็นทางการ ทำสถิติตกชั้นเร็วที่สุดในลีกสูงสุดแดนผู้ดี ร่วมกับ อิปสวิช ทาวน์ ฤดูกาล 1994-95, ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ ฤดูกาล 2007-08 และ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ฤดูกาล 2018-19
นอกจากนี้ เชฟฯ ยูไนเต็ด ยังกลายเป็นทีมแรก ที่ฤดูกาลก่อนหน้า (2019-20) จบที่อันดับสูงถึงที่ 9 แต่กลับตกชั้นในฤดูกาลต่อมา นับตั้งแต่ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ซึ่งคว้าอันดับ 9 ฤดูกาล 2009-10 แต่ตกชั้นในฤดูกาล 2010-11
ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ | ฤดูกาล 2018-19
วันตกชั้น : 30 มีนาคม 2019
ลงเล่น : 32 เกม
ฮัดเดอร์สฟิลด์ ภายใต้การดูแลของ ดาวิด ว๊ากเนอร์ กุนซือชาวเยอรมัน พาทีมเลื่อนชั้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในฤดูกาล 2017-18 และพาทีมอยู่รอดปลอดภัยในอันดับที่ 16
ทว่าในฤดูกาลถัดมา ‘เดอะ เทียร์เรียร์ส’ ไม่ชนะใครเลยใน 10 เกม ก่อนปลดล็อกได้ในเกมเปิดบ้านเฉือน ฟูแล่ม 1-0 และต่อจากนั้นพวกเขาก็ชนะเพิ่มเพียง 2 เกมเท่านั้น และครองตำแหน่งบ๊วยของลีกอย่างเหนียวแน่น
ฮัดเดอร์สฟิลด์ เหมือนรู้ดีตัวดีว่าคงไม่รอดในฤดูกาลนี้ ตั้งแต่เลือกปลด ว๊ากเนอร์ ออกตำแหน่งกุนซือ และแต่งตั้ง แยน ซีแวร์ต ขึ้นแทนในเดือนมกราคม ก่อนจะการันตีตกชั้นหลังเกมนัดที่ 32 ซึ่งพ่ายให้กับ คริสตัล พาเลซ 2-0 พร้อมทำสถิติเป็น 1 ใน 4 ทีมที่ครองสถิติตกชั้นเร็วสุดในลีกผู้ดีด้วย
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ | ฤดูกาล 2007-08
วันตกชั้น : 29 มีนาคม 2008
ลงเล่น : 32 เกม
ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ นอกจากจะเป็น 1 ใน 4 ทีมที่ตกชั้นเร็วสุดร่วมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, ฮัดเดอร์สฟิลด์ และ อิปสวิช ทาวน์ แล้ว พวกเขายังถูกมองว่าเป็นทีมยอดแย่ที่สุดในลีกอังกฤษยุคพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
ทีมฉายา ‘แกะเขาเหล็ก’ เอาชนะได้แค่เกมเดียวในฤดูกาล 2007-08 ในเกมพบ นิวคาสเซิล ช่วงเดือนกันยายน ขณะที่สถิติสุดห่วยตามติดมาต่อเนื่อง ทั้งแพ้มากสุดในฤดูกาลเดียว (29), ยิงประตูน้อยสุด (20), เสียประตูมากสุดในฤดูกาลที่มี 38 นัด (89) และ ไม่ชนะใครติดต่อกันนานสุด (32)
เกมที่ทำให้ ดาร์บี้ ชะตาขาดที่เกมนัดที่เสมอ ฟูแล่ม 2-2 ในช่วงปลายเดือนมีนาคม กลายเป็นทีมที่ 2 ที่ตกชั้นในเดือนนี้ของฟุตบอลอังกฤษหลังยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่เคยกลับมาเล่นในลีกสูงสุดอีกเลย นับตั้งแต่นั้น
อิปสวิช ทาวน์ | ฤดูกาล 1994-1995
วันตกชั้น : 4 มีนาคม 1995
ลงเล่น : 31 เกม
ก่อนหน้าที่ ดาร์บี้ เป็นสโมสรที่ 2 ที่ตกชั้นในเดือนมีนาคม อิปสวิช ทาวน์ คือสโมสรที่ครองตำแหน่งนี้เป็นทีมแรก ในฤดูกาล 1994-95 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่พรีเมียร์ลีกมีทีมแข่งขันทั้งหมด 42 นัดต่อฤดูกาลจาก 22 ทีม
ฟอร์มของทีม ‘ม้าขาว’ ขึ้น ๆ ลง ๆ ในช่วงแรกของฤดูกาล ก่อนจะร่วงมีอยู่โซนตกชั้นเรื่อยมาหลังเกมนัดที่ 8 และคว้าชัยได้เพียง 7 นัดเท่านั้น โดยใช้ผู้จัดการทีมถึง 3 คนในฤดูกาลนั้น ซึ่งก็คือ จอห์น ไลออล, พอล ก็อดดาร์ด (ชั่วคราว) และ จอร์จ เบอร์ลี่ย์
แม้เคยสร้างเซอร์ไพรส์เอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้ในเดือนมกราคม แต่อีก 2 เดือนต่อมา อิปสวิช หมดโอกาสรอดตกชั้น 100 เปอร์เซนต์ หลังเกมที่โดน แมนยูไนเต็ด ถล่ม 9-0 ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และกลายเป็นสถิติยิงประตูมากสุดในเกมเดียวของพรีเมียรลีก ร่วมกับเกมที่ เลสเตอร์ อัด เซาแธมป์ตัน ในสกอร์เดียวกัน เมื่อปี 2019
พอร์ทสมัธ | ฤดูกาล 2009-10
วันตกชั้น : 10 เมษายน 2010
ลงเล่น : 33 เกม
ฤดูกาล 2009-10 เป็นปีที่ยากลำบากสุด ๆ สำหรับ พอร์ทสมัธ ทั้งฟอร์มการเล่นในสนาม หรือ เรื่องนอกสนามอย่างปัญหาด้านการเงิน ทำไปสู่การตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในท้ายที่สุด
‘ปอมปีย์’ ออกสตาร์ทได้อย่างย่ำแย่ หลังไม่ชนะใครเลยจาก 7 เกมแรกของฤดูกาลนั้น ถึงเอาชนะ วูล์ฟส์ ได้ในเกมที่ 8 แต่ด้วยฟอร์มที่กู่ไม่กลับทำให้พวกเขารั้งบ๊วยตั้งแต่เกมที่ 2 ยันเกมนัดสุดท้ายของซีซั่น
ความหวังในการอยู่รอดแทบเหือดหาย เมื่อโดนตัด 9 แต้มในเดือนมีนาคม จากปัญหาด้านการเงิน ก่อนตกชั้นอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน แม้สามารถเข้าชิงเอฟเอ คัพ ได้ แต่ก็พ่ายให้กับ เชลซี ไปอย่างน่าเสียดาย
ซันเดอร์แลนด์ | ฤดูกาล 2002-03
วันตกชั้น : 12 เมษายน 2003
ลงเล่น : 33 เกม
ซันเดอร์แลนด์ เปลี่ยนผู้จัดการเป็นว่าเล่นในฤดูกาล 2002-03 เกือบเท่ากับจำนวนที่พวกเขาคว้าชัยในซีซั่น หรือเพียง 4 หนเท่านั้น ไม่แปลกที่พวกเขาจะต้องกระเด็นตกชั้นไปก่อนใครเพื่อน
ปีเตอร์ รีด, โฮเวิร์ด วิลกินสัน และ มิค แม็คคาธี่ ต่างพยายามพา ‘แมวดำ’ อยู่รอดให้ได้ในฤดูกาลนั้น แต่กุนซือทั้ง 3 คนก็ช่วยให้ทีมเอาชนะ 4 เกม และเก็บแต้มเพียง 19 คะแนนเท่านั้น
พวกเขาตกชั้นอย่างเป็นทางการ หลังเกมพ่าย เบอร์มิ่งแฮม 2-0 ช่วงกลางเดือนเมษายน และใช้เวลาอีก 2 ฤดูกาลในการกลับมาโลดแล่นในพรีเมียร์อีกครั้ง แม้ชะตากรรมจะไม่ต่างจากปี 2003 เท่าไหร่ก็ตาม
ซันเดอร์แลนด์ | ฤดูกาล 2005-06
วันตกชั้น : 14 เมษายน 2006
ลงเล่น : 33 เกม
ทีมเดียวที่โผล่เข้ามาในลิสต์นี้ถึง 2 ครั้ง เมื่อ ซันเดอร์แลนด์ เลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกในปี 2005 และตกชั้นทันทีในปี 2006 พร้อมด้วยสถิติที่พวกเขาไม่ต้องการนัก
ผลงานของทีม แมวดำ ไม่ต่างจากช่วงก่อนหน้านี้นัก หลังใช้งานกุนซือถึง 2 ราย อย่าง มิค แม็คคาธี่ (อีกครั้ง) และ เควิน บอล ซึ่งพาทีมชนะรวมกันเพียง 3 นัดเท่านั้น ก่อนที่เกมเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แบบไร้สกอร์ ช่วงเดือนเมษายน จะการันตีว่าทีมแดนอีสานต้องกลับไปเริ่มใหม่ในลีกรอง
นอกจากนี้ ซันเดอร์แลนด์ ยังเก็บแต้มเพียง 15 คะแนน ซึ่งน้อยที่สุดในลีก ก่อนที่ ดาร์บี้ จะทำลายสถิติที่ไม่มีใครต้องการในอีก 2 ฤดูกาลต่อมา
แอสตัน วิลล่า | ฤดูกาล 2015-16
วันตกชั้น : 16 เมษายน 2016
ลงเล่น : 34 เกม
แอสตัน วิลล่า เคยเป็น 1 ใน 7 สโมสรที่ลงเล่นในพรีเมียร์ครบทุกฤดูกาลร่วมกับ อาร์เซน่อล, เชลซี, เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ สเปอร์ส แต่พวกเขาก็หลุดออกจากสถิตินี้หลังตกชั้นในปี 2016
นี่เป็นช่วงเวลาที่ แฟน ‘สิงห์ผงาด’ ยากจะลืมเลือน เมื่อต้องทนเห็นทีมรักฟอร์บู่ คว้าชัยเพียง 3 นัดตลอดฤดูกาล 2015-16 เก็บได้เพียง 17 แต้ม จากกุนซือที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาทำหน้าที่ถึง 4 คน โดยตกชั้นอย่างเป็นทางการในเกมพ่าย แมนยูไนเต็ด 1-0 ช่วงกลางเดือนเมษายน
เวสต์บรอม | ฤดูกาล 2002-03
วันตกชั้น : 19 เมษายน 2003
ลงเล่น : 34 เกม
ฤดูกาลแรกที่ เวสต์บรอมวิช ได้ขึ้นมาเฉิดฉายในพรีเมียร์ลีกเป็น 1 ในปีที่ ‘เดอะ แบ็กกี้ส์’ ลืมไม่ลง หลังกระเด็นตกชั้นหลังลงเล่นไปเพียง 34 เกมเท่านั้น
สโมสรจาก มิดแลนด์ส เก็บเต็มเพียง 25 คะแนนในฤดูกาลนั้น ซึ่งเป็นการทำแต้มได้น้อยที่สุดของพวกเขาในลีกผู้ดียุคโมเดิร์น โดยที่ แกรี่ เม็กสัน พาทีมสะกดชัยชนะได้เพียง 6 นัดเท่านั้นตลอดฤดูกาล
อย่างน้อย เวสต์บรอม ก็ไม่ใช่ทีมที่ตกชั้นเร็วสุด เนื่องจาก ซันเดอร์แลนด์ ทีมบ๊วยการันตีร่วงไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ชิพก่อนแล้ว และถึงแม้เอาชนะ ‘แมวดำ’ ได้ 2-1 ในเกมที่ 34 ของฤดูกาล แต่ผลการแข่งขันคู่อื่น ๆ ก็ทำให้ เวสต์บรอม ตกชั้นเป็นลีกรองเป็นทีมที่ 2 ในฤดูกาล 2002-03
เลสเตอร์ ซิตี้ | ฤดูกาล 2001-02
วันตกชั้น : 6 เมษายน 2002
ลงเล่น : 34 เกม
28 แต้มในช่วงที่แข่งขัน 38 นัดต่อฤดูกาล ไม่ถือว่าเป็นแย่ที่สุดในลิสต์นี้ แม้ว่าผลดังกล่าวจะไม่เพียงพอให้ เลสเตอร์ อยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2001-02 ก็ตาม
‘จิ้งจอกสีน้ำเงิน’ ใช้ผู้จัดการทีมถึง 4 คนในฤดูกาลนั้น โดยมี 3 คนที่เป็นกุนซือถาวรกับ ปีเตอร์ เทย์เลอร์, เดฟ บาร์เซ็ตต์ กับ มิคกี้ อดัมส์ และ กุนซือชั่วคราวอย่าง แกรี่ ปาร์คเกอร์ แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมมีผลงานกระเตื้องขึ้นเลย หลังคว้าชัยได้เพียง 5 เกมเท่านั้น
หลังจบอันดับที่ 13 ในฤดูกาลก่อน ‘เดอะ ฟ็อกซ์’ ตกชั้นอย่างเป็นทางการในเกมพ่าย แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ปิดฉาก 6 ปีบนลีกสูงสุดของพวกเขา