เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สนาม : เวมบลีย์
เวลา : 21.00 น.
อัตราต่อรอง : แมนฯซิตี้ ต่อ ครึ่งลูก
ผลงานดวลกันในถ้วย เอฟเอ คัพ
3-10-1891 (รอบแรก)อาร์ดวิค แพ้ แมนฯยู 1-5
27-3-1926 (รอบรอง) ซิตี้ ชนะ ยูไนเต็ด 3-0
29-1-1955 (รอบ 4) ซิตี้ ชนะ ยูไนเต็ด 2-0
24-1-1970 (รอบ 4) ยูไนเต็ด ชนะ ซิตี้ 3-0
10-1-1987 (รอบ 3) ยูไนเต็ด ชนะ ซิตี้ 1-0
18-2-1996 (รอบ 5) ยูไนเต็ด ชนะ ซิตี้ 2-1
14-2-2004 (รอบ 5) ยูไนเต็ด ชนะ ซิตี้ 4-2
16-4-2011 (รอบรอง) ซิตี้ ชนะ ยูไนเต็ด 1-0
8-1-2012 (รอบ 3) ซิตี้ แพ้ ยูไนเต็ด 2-3
สถิติการพบกันของทั้งสองทีม : ดวลกันมา 189 นัด ยูไนเต็ด เหนือกว่า ด้วยการกำชัย 78 เสมอ 53 ซิตี้ ชนะ 58 โดย ยูไนเต็ด ยิงได้ 271 ซิตี้ ยิงได้ 264 ส่วน 5 เกมหลังสุดไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ แมนฯซิตี้ ชนะ 3 ส่วน แมนฯยูไนเต็ด ชนะ 2 โดยปีนี้ฉะกันมาในบอลลีกนัดแรก ซิตี้ ยำ 6-3 และนัดสอง ยูไนเต็ด เอาคืน 2-1
ความพร้อมก่อนเกม
แมนฯซิตี้ : “เรือใบสีฟ้า” เจ้าของแชมป์ 6 สมัย เข้าชิงเป็นครั้งที่ 12 เดินหน้าภายใต้การคุมทีมของ เป๊บ กวาร์ดิโอล่า ที่กำลังลุ้นทริปเปิ้ลแชมป์หลังจากคว้าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาได้แล้ว 1 ใบ เส้นทางของพวกเขาในรายการนี้ 5 เกมไม่เสียประตูเลย เล่นเริ่มตั้งแต่รอบ 3 ถล่ม เชลซี 3-0 ตามด้วยการเฉือนอาร์เซน่อล 1-0, บุกอัด บริสตอล ซิตี้ 3-0, ถล่ม เบิร์นลีย์ 6-0 และจัดหนัก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 3-0 ในรอบตัดเชือก รอทดสอบความฟิตของ มานูเอล อคานจี, แจ็ค กรีลิช และรูเบน ดิอาส ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจากเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่แพ้ให้กับ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมดังกล่าวน่าจะไม่มีปัญหาอะไรผ่านความฟิตลงบัญชาการเกมรุกร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน โดยมี เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ยืนหน้าเป้า
แมนฯยูไนเต็ด : “ปีศาจแดง” แชมป์ 12 สมัย เข้าชิงเป็นครั้งที่ 21 ลุ้นเป็นดับเบิ้ลแชมป์หลังจากครองถ้วยคาราบาวคัพ มาแล้ว 1 รายการ ที่น่าสนใจตั้งแต่รอบ 3 ไปจนถึงรอบก่อนรองชนะเลิศพวกเขาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์เดียวกัน 3-1 ไล่ตั้งแต่ เอฟเวอร์ตัน, เรดดิ้ง, เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และฟูแล่ม ส่วนรอบรองชนะเลิศต้องเหนื่อยหน่อยเสมอกับไบรท์ตัน 0-0 ไปตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ชนะมาได้ 7-6 เกมนี้ทีมของ เอริค เทน ฮาก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อองโตนี่ มาร์กซิยาล, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ลิซานโดร มาร์ติเนซ และดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่บาดเจ็บ ส่วน แอนโทนี่ ที่เจ็บข้อเท้าต้องรอทดสอบความฟิต นอกนั้นอยู่กันครบ มาในระบบ 4-2-3-1 นำโดย คาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น, เจดอน ซานโช่, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯซิตี้ (3-4-2-1): เอแดร์ซอน, มานูเอล อคานจี, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, จอห์น สโตนส์, โรดรี้, แจ็ค กรีลิช, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ และเออร์ลิ่ง เบร้าท์ ฮาแลนด์
แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาบิด เด เกอา, แอรอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาเอล วาราน, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, ลุค ชอว์, คาเซมิโร่, คริสเตียน เอริคเซ่น, จาดอน ซานโช่, บรูโน่ เฟอร์นานเดส, อเลฮานโดร การ์นาโช่ และมาร์คัส แรชฟอร์ด
ทรรศนะก่อนเกม : คู่ชิงแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่คงจะหาเดือดกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว เวลานี้ ซิตี้ ที่กำลังอยู่ในแพสชั่นล่าทริปเปิ้ลแชมป์ และการที่พวกเขาปล่อยจอยในเกมลีกมา 2-3 นัดติดต่อกัน แสดงว่านักเตะในทีมจะได้ปล่อยพลังในเกมนี้อย่างเต็มสูบ ส่วน ปีศาจแดง ที่หวังแชมป์รายการที่ 2 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ ก็มาแบบสู้สุดในเช่นกัน และยิ่งฟอร์มช่วงหลังเริ่มกลับมาเข้ารอยแล้ว เกมนี้เชื่อว่าออกมาสูสีแน่นอน จากราคาที่ออกมา ซิตี้ ต่อครึ่งตัวแบบนี้ เชื่อว่ารองไว้ได้ลุ้นกว่า
สกอร์ที่คาด : เสมอ 1-1 ในเกม ก่อนต่อเวลา ซิตี้ ชนะ 2-1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : รอบรองฯไม่รู้ลืม : เอฟเอ คัพกับ 10 เกมตัดเชือกแห่งความจำ