ทีมชาติโครเอเชีย เคยสวมบทม้ามืดทะลุเข้าไปได้ไกลถึงตำแหน่งรองแชมป์โลก ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
หลังจากผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ทีม ‘ตาหมากรุก’ ตกอยู่ในความกดดันกับความคาดหวังของคนทั้งประเทศ ว่าจะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนคราวที่แล้ว
อีกทั้งในปัจจุบันไม่มีใครมองพวกเขาเป็นม้านอกสายตาอีกต่อไป ยิ่งทำให้พวกเขากดดันหนักขึ้นไปอีก แต่ว่าโครเอเชีย จะพร้อมมากน้อยแค่ไหนในศึกใหญ่ที่ กาตาร์ UFA ARENA จะพาไปติดตามผ่านบทความนี้
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
ฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โครเอเชียสร้างความตื่นตะลึงพรึงเพริด เมื่อสวมบท “ม้ามืด” ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้แบบหักปากกาเซียน ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะอกหักพ่าย ฝรั่งเศส 2-4 ก็ตาม
แต่ตำแหน่ง “รองแชมป์โลก” ก็เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์คนทั้งโลก และถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาในเวทีเวิลด์คัพ จากทั้งหมด 5 ครั้งที่เคยเข้าร่วมในรอบสุดท้าย
เส้นทางสู่กาตาร์
ส่วนฟุตบอลโลก 2022 หนนี้ ทัพนักเตะโครแอตผ่านรอบคัดเลือก โซนยุโรป เข้ามาในฐานะแชมป์กลุ่ม H กดไป 21 ลูก เสียเพียง 4 ประตูจาก 10 นัด
การเข้ามาโชว์ฝีเท้าในบอลโลก รอบสุดท้าย เป็นสมัยที่ 6 ซึ่งคราวนี้ แฟนบอลคงไม่ได้มองโครเอเชียในฐานะทีมม้ามืดอีกต่อไป เพราะอย่างน้อยๆ พวกเขามีดีกรีรองแชมป์โลก ติดตัวลงสนามให้คู่ต่อสู้ต้องหวั่นเกรงพอสมควรเลย
ผู้จัดการทีม : ซลัตโก้ ดาลิช
โครเอเชีย ยังคงใช้บริการ ซลัตโก้ ดาลิช แม่ทัพคนเดิมจากบอลโลก 2018 ซึ่งอยู่กับทีมมาเป็นปีที่ 5 แล้ว ดังนั้นเขาย่อมรู้จักทีมมุกซอกทุกมุม และทุกซอบหลืบเป็นอย่างดีแน่นอน
เฮดโค้ชวัย 55 ปี มีประสบการณ์คุมทีมส่วนใหญ่มาจากสโมสรในบ้านเกิด รวมไปถึงสโมสรจากตะวันออกกลาง เพียงแต่ชื่อของเขาได้รับการจดจำจากแฟนบอลมากขึ้นผลงานการคุม ตราหมากรุก ในบอลโลกที่ รัสเซีย
ดาวเด่น : ลูก้า โมดริช
ส่วนขุมกำลังของโครเอเชียจากชุดเมื่อ 4 ปีก่อน มีอำลาทีมชาติไปแล้วหลายคน อาทิ มาริโอ มานด์ซูคิช, ดานิเยล ซูบาซิช หรือ อิวาน ราคิติช แต่ก็มีผู้เล่นที่ยังพร้อมรับใช้ชาติในฟุตบอลโลกหนนี้ ไม่ว่าจะเป็น โดมากอย วิด้า, อิวาน เปริซิช, มาริโอ โบรโซวิช, อันเดร ครามาริช, มาเตโอ โควาซิช และ เดยัน ลอฟเรน
แต่ผู้เล่นที่เปรียบเสมือนหัวใจของทัพ ‘ตาหมากรุก’ ต้องยกให้กับ ลูก้า โมดริช จอมทัพประสบการณ์สูง ซึ่งถึงแม้จะอายุอานามจะปาเข้าไป 36 ปีแล้ว แต่เพลย์เมกเกอร์จากเรอัล มาดริดยังคุณภาพคับแก้ว มีอิทธิพลต่อทีมสูง ทั้งในแง่การบัญชาเกมในสนาม และความเป็นผู้นำในฐานะกัปตันที่เพื่อนกับรุ่นน้องร่วมทีมทุกคนยอมรับ
นอกจากนี้ยังมี ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ปราการหลังดาวรุ่งวัย 20 ปี จากแอร์เบ ไลป์ซิก ที่ตกเป็นที่หมายตาของหลายทีมในยุโรป และอาจสร้างชื่อในเวทีโลกก็เป็นได้
ตารางแข่งขัน
โครเอเชีย จะเล่นเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มพบ โมร็อกโก ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ตามด้วยการพบกับ แคนาดา ในวันที่ 27 พฤศจิกายน ก่อนไปลุ้นแชมป์กลุ่มกับ เบลเยี่ยม ในวันที่ 1 ธันวาคม
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
โครเอเชีย อยู่ในกลุ่ม F ร่วมกับ เบลเยียม, แคนาดา และโมร็อกโก ซึ่ง โครเอเชีย กับ เบลเยียม เป็นสองทีมเต็งที่จะได้ผ่านเข้ารอบสอง หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย และตำแหน่งแชมป์กลุ่มก็น่าจะเป็นการแย่งชิงกันระหว่าง 2 ทีมนี้ เพื่อไปรอพบของแข็งจากกลุ่ม E
อย่างไรก็ตาม ทีมของซลัตโก้ ดาลิช มีเครื่องหมายคำถามอยู่ว่าจะสามารถทำผลงานได้เทียบเท่ากับหนก่อนหรือไม่ เพราะทีมชุดนี้ยังคงต้องพึ่งพาจอมเก๋าทั้ง ลูก้า โมดริช เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วิด้า, อิวาน เปริซิช ที่อายุแตะเลข 3 ไปแล้ว
คงต้องมารอดูกันว่าจากม้ามืดคราวก่อน ครั้งนี้โครเอเชียจะสามารถสานต่อผลงานเดิมเอาไว้ได้หรือไม่? หรือจะสิ้นลายรองแชมป์เมื่อ 4 ปีก่อน