พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 : เวลส์ บอลโลกรอบ 64 ปีของมังกรแดง

พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 : เวลส์ บอลโลกรอบ 64 ปีของมังกรแดง

เวลส์ กลับมาคว้าตั๋วฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ชาติของตัวเอง และพวกเขาใช้เวลาถึง 64 ปีกว่าจะทำสิ่งนี้ได้สำเร็จ

ตลอด 15 ครั้งที่ผ่านมาของบอลโลก ทีม ‘มังกรแดง’ ทำได้แค่เพียงนั่งดูชาติอื่นๆ ทำการแข่งขันกันเท่านั้น แต่มาในศึกใหญ่ที่กาตาร์ กับทีมที่อยู่ในยุครุ่งเรืองที่สุดของพวกเขา สามารถคว้าตั๋วมาสู่รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

แต่ถึงอย่างนั้น งานในรอบแบ่งกลุ่ม ก็ไม่ง่าย เมื่อต้องของแข็งที่เป็นบ้านใกล้เรือนเคียงอย่าง อังกฤษ รวมไปถึง สหรัฐอเมริกา ที่มีขุมกำลังใกล้เคียงกัน และ อิหร่าน ตัวแทนจากเอเชียที่หวังไปไกลในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปเจาะลึกถึงเส้นทางของ เวลส์ กว่าจะได้เข้ามาเล่นบอลโลกที่พวกเขารอคอยนานกว่าครึ่งศตวรรษ รวมถึงความพร้อมของพวกเขาก่อนลุยศึกใหญ่ในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

ประวัติศาสตร์ในบอลโลก

Snap shot: Wales' 1958 World Cup side | European Qualifiers | UEFA.com

ครั้งสุดท้ายที่ทีมชาติเวลส์ได้ไปโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกต้องย้อนไปไกลถึงศึกเวิลด์คัพ 1958 ที่ประเทศสวีเดน ซึ่งครั้งนั้นพวกเขาทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย 

และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ทัพนักเตะ ‘มังกรแดง’ ก็หายหน้าหายตาไปจากเวทีเวิลด์คัพ รอบสุดท้าย มาโดยตลอด จนเวลาผ่านไปร่วม 64 ปี เวลส์จึงได้มาปรากฏตัวอีกครั้งในบอลโลก 2022 ที่มี กาตาร์ รับบทเป็นเจ้าภาพ

 

เส้นทางสู่กาตาร์

Wales beat Ukraine to end World Cup wait

ทว่ากว่าจะได้ตั๋วไปเล่นบอลโลกรอบสุดท้าย เส้นทางที่ เวลส์ ต้องเผชิญในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมาถือว่าไม่ง่ายเลย เมื่อพวกเขาลุ้นกันตัวโก่งในรอบคัดเลือก จนจบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มอี จึงต้องไปเหนื่อยต่อในรอบเพลย์ออฟ โซนยุโรป

อย่างไรก็ตาม ในการเล่นรอบเพลย์ออฟ ทัพ ‘มังกรแดง’ ก็ผ่านทั้ง ออสเตรีย 2-1 ในรอบรรองชนะเลิศ ก่อนเฉือน ยูเครน 1-0 ในนัดชิง คว้าตั๋วใบสุดท้ายลุยศึกใหญ่ใน กาตาร์ มาครองได้สำเร็จ

 

ผู้จัดการทีม : ร็อบ เพจ

Robert Page: 'A dream come true' to manage Wales | UEFA EURO | UEFA.com

ก่อนหน้านี้ ไรอัน กิ๊กส์ ทำหน้าที่กุนซือของทีมชาติเวลส์อยู่ ทว่า ตำนานปีกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเกี่ยวกับคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว สมาคมลูกหนังเวลส์จึงมอบหมายให้ผู้ช่วยกุนซืออย่าง ร็อบ เพจ เข้ามาคุมทีมขัดตาทัพตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020

แม้ เฮดโค้ชวัย 47 ปี มีประสบการณ์คุมทีมแค่ไม่กี่ปี กับ พอร์ทเวล และ น็อตแฮมป์ตัน แต่เขากลับสามารถพา ‘มังกรแดง’ ทำผลงานดีเหลือเชื่อ กระทั่งคว้าตั๋วเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จ ก่อนที่สมาคมจะตอบแทนความยอดเยี่ยม ด้วยการมอบสัญญายาว 4 ปี ในเวลาต่อมา

 

ดาวเด่น : แกเร็ธ เบล

Wales 2-1 Austria: 'They should all be ashamed of themselves' – Gareth Bale hits out at 'disgusting' treatment in Spain - Eurosport

แน่นอนว่าผู้เล่นตัวความหวังของเวลส์จะเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก แกเร็ธ เบล ดาวยิงกัปตันทีมวัย 33 ปี ซึ่งหมดสัญญากับ เรอัล มาดริด ในซัมเมอร์นี้ ก่อนย้ายไปค้าแข้งกับ แอลเอ เอฟซี ในลีกสหรัฐอเมริกา

  แม้ผลงานในระดับสโมสรอาจน่าผิดหวังในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่สำหรับในทีมชาติแล้ว ปีกวานร ยังคงเป็นผู้เล่นที่ทัพ มังกรแดง ขาดไม่ได้เป็นอันขาด เนื่องจากเขามักผลงานได้ดีตลอดยามสวมชุดแดงนี้ลงสนาม

มากกว่านั้น เวลส์ยังมีคีย์แมนสำคัญอีกรายคือ อารอน แรมซี่ย์  กองกลางที่เพิ่งโดนปล่อยตัวจากยูเวนตุส ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเบล นั่นคือผลงานในสโมสรดูไม่จืด แต่มักจะโชว์ฟอร์มแจ่มสุดๆ และเป็นผู้เล่นหัวใจสำคัญของทีม ยามที่กลับมาลงสนามให้ทีมชาติเสมอ

นอกจาก 2 ผู้เล่นตัวเก๋าแล้ว เวลส์ ก็มีแข้งพลังหนุ่มที่พึ่งพาได้ไม่น้อยเช่นกัน ทั้ง นิโก้ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวี่ส์, แฮร์รี่ วิลสัน และแดเนี่ยล เจมส์ ที่คอยสนับสนุนอยู่

 

ตารางแข่งขัน

เวลส์ จะเปิดสนามบอลโลกหนนี้ดวลกับ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 21 พฤศจิกายน ก่อนดวลกับ อิหร่าน เป็นเกมที่ 2 ในวันที่ 25 พฤศจิกายน ก่อนปิดท้ายด้วยการดวลเกมสำคัญกับ อังกฤษ ในวันที่ 29 พฤศจิกายน

 

วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ

Cymru squad announced for FIFA World Cup Play-off Final & UEFA Nations League

ทีมชาติเวลส์ อยู่ในกลุ่ม B ร่วมกับ อิหร่าน, อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่า 

‘สิงโตคำราม’ เป็นทีมเต็งเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ส่วนอีก 3 ทีมที่เหลือ ศักยภาพไม่หนีกันมากนัก จึงน่าจะเบียดแย่งอันดับ 2 กันอย่างดุเดือดแน่นอน 

อย่างไรก็ตาม เวลส์ มีข้อได้เปรียบในรอบแรกอยู่ คือพวกเขาจะได้ปักหลักที่สนามอาหมัด บิน อาลี สเตเดียม เพียงสนามเดียวตลอดทั้ง 3 นัด ซึ่งช่วยให้พวกเขามีความคุ้นชินกับสภาพสนาม และไม่ต้องเสียเวลาในการปรับตัวและการเดินทางในแต่ละนัด 

ทว่าหากเข้ารอบ ก็คาดว่า เวลส์จะต้องไปดวลกับ ฮอลแลนด์ ว่าที่เต็งแชมป์กลุ่ม A ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งเป็นเรื่องยากมากๆที่พวกเขาจะผ่านไปไกลกว่านี้

แต่ไม่ว่าจะจอดป้ายแค่รอบแรก หรือเข้ารอบลึกแค่ไหน อย่างน้อยๆ การที่ เวลส์ ได้กลับมาโชว์ฝีเท้าในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย เป็นครั้งแรกในรอบ 64 ปี ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมแล้ว 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 : อังกฤษ กับความหวังพาแชมป์โลกกลับบ้าน
พรีวิวฟุตบอลโลก 2022 : อังกฤษ กับความหวังพาแชมป์โลกกลับบ้าน