ซาอุดีอาระเบีย ยักษ์ใหญ่จากเอเชีย ที่ถือว่าเป็นขาประจำของฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ผ่านเข้ามาเล่นบอลโลกได้เป็นสมัยที่ 6 และยังเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันแล้ว
ซึ่งใครหลายคนอาจมองว่าเป็นทีมม้านอกสายตา แต่นั่นก็เป็นข้อดีที่ทำให้พวกเขาลงเล่นแบบไร้ความกดดัน และอย่าลืมว่านี่เป็นฟุตบอลโลกบนดินแดนทะเลทรายที่ทัพนักเตะ ‘เศรษฐีน้ำมัน’ คุ้นชินสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดี
ทว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งพอที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ได้ในบอลโลกที่ กาตาร์ หรือไม่ UFA ARENA จะพาไปส่องความพร้อมของ ซาอุดีอาระเบีย ก่อนลุยศึกใหญ่ในเดือนนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
นี่ถือเป็นการโชว์ฝีเท้าในรอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 6 แล้วของทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ต่อจากปี 1994, 1998, 2002, 2006 และ 2018
โดยผลงานดีที่สุดของพวกเขาคือ การเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฟุตบอลโลก 1994 ที่สหรัฐอเมริกา โดยพ่ายให้กับ สวีเดน ด้วยสกอร์ 3-1 ยุคที่มีดาวเด่นอย่าง โทมัส โบรลิน เป็นตัวชูโรงในยุคนั้น
เส้นทางสู่กาตาร์
ส่วนเส้นทางการคว้าตั๋วมาลุยกาตาร์ในครั้งนี้ ขุนพลแข้งซาอุฯ ถูกมองว่าคงต้องลุ้นหนัก เพราะถูกจับสลากได้อยู่ในกลุ่มเดียวกับทีมแกร่งอย่าง ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย ในรอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม
แต่สุดท้ายทัพนักเตะ ‘สิงห์ทะเลทราย’ โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเกินคาด ซิวตั๋วเข้ารอบสุดท้ายด้วยผลงานลงสนาม 10 นัด ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 ผงาดคว้าแชมป์กลุ่ม B เหนือ ญี่ปุ่น และ ออสเตรเลีย จบเป็นอันดับ 2 และ 3 ของกลุ่มตามลำดับ
ผู้จัดการทีม : แอร์เว เรอนาร์
โดยทีมชุดนี้ของซาอุดีอาระเบีย นำมาโดยแอร์เว เรอนาร์ กุนซือชาวฝรั่งเศส ที่เคยนำทีมโมร็อกโก กลับไปสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เมื่อ 4 ปีก่อนที่รัสเซีย ก่อนเข้ามาคุมซาอุดีอาระเบีย เมื่อปี 2019 และสามารถพาทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกได้สำเร็จ
โดย เรอนาร์ เป็นโค้ชที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน โดยส่วนใหญ่เป็นการคุมทีมชาติมากกว่าสโมสร ซึ่งผลงานโดดเด่นของเขาคือการพา แซมเบีย และ ไอวอรี่ โคสต์ คว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ในปี 2012 และ 2015 ตามลำดับ ทำให้เขากลายเป็นโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาทีมคว้าแชมป์ทวีปแอฟริกาได้ 2 สมัยต่างทีมกัน
ดาวเด่น : ซาเลห์ อัล-เชห์รี่
ขณะที่ขุมกำลังซาอุฯ นักเตะทุกคนค้าแข้งอยู่ในลีกประเทศตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสโมสรชั้นนำของซาอุฯ อาทิ อัล ฮิลาล, อัล อิตติฮัด, อัล นาสเซอร์
โดยผู้เล่นที่เป็นกำลังสำคัญของทีมเศรษฐีน้ำมัน ได้แก่ ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี่, ซุลตาน อัล-กานัม, ฟิราส อัล-บูไรคาน รวมทั้ง ฟาฮัด อัล-มูวาลลัด ปีกตัวจี๊ด กับ ซาเล็ม อัล-ดอว์ซารี่ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูง
แต่นักเตะที่ต้องจับตามองที่สุดในชุดนี้คือกองหน้า ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ ซึ่งเคยไปค้าแข้งในลีกโปรตุเกสกับสโมสร ไบร่า-มาร์ โดยเขาเป็นนักเตะที่มีสถิติรับใช้ชาติสุดยอดเยี่ยม ด้วยผลงานลงสนาม 16 นัด ซัดไป 8 ประตู พร้อมเป็นดาวซัลโวของทีมในรอบคัดเลือกด้วย ไม่แปลกที่ดาวยิงวัย 28 ปี เตรียมรับบทหัวหอกตัวความหวังของซาอุฯ ในศึกบอลโลกครั้งนี้
ตารางแข่งขัน
ซาอุดีอาระเบีย เตรียมลงเล่นนัดแรกสุดหินด้วยการดวลกับ อาร์เจนติน่า ตัวเต็งแชมป์กลุ่มในวันที่ 22 พฤศจิกายน จากนั้นก็พบกับ โปแลนด์ ในอีก 4 วันต่อมา ก่อนปิดท้ายด้วยการดวลกับ เม็กซิโก ในวันสิ้นเดือน
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
ซาอุดีอาระเบีย อยู่ในกลุ่ม C ร่วมกับ อาร์เจนตินา, เม็กซิโก และ โปแลนด์ ซึ่งต้องยอมรับตรงๆว่า เมื่อเทียบกับศักยภาพของคู่แข่งแต่ละทีมแล้ว ตัวแทนจาก เอเชีย เป็นทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม และดูจะมีโอกาสเข้ารอบที่ค้อนข้างริบหรี่สุดๆด้วย
อย่างไรก็ตาม ‘สิงห์ทะเลทราย’ ก็มีข้อได้เปรียบเช่นกันในศึกใหญ่ที่ กาตาร์ นั่นคือ ความเคยชินกับสภาพแวดล้อม ทั้งเรื่องของเวลา และภูมิอากาศแบบทะเลทรายในแถบตะวันออกกลาง นั่นอาจทำให้เราได้เห็นเซอร์ไพรส์เล็กๆจากทีม ‘เศรษฐีน้ำมัน’ ก็เป็นได้