คอสตาริก้า สร้างตัวเองขึ้นมากลายเป็นชาติจากโซนอเมริกาใต้ ผู้เป็นขาประจำของฟุตบอลโลก หลังผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกันแล้ว จากทั้งหมด 6 ครั้ง
นี่เป็นอีกครั้งที่เขาต้องอยู่ในกลุ่มที่สุดหิน แถมถูกยกให้เป็น กรุ๊ป ออฟ เดธ ของศึกใหญ่ที่ กาตาร์ ด้วย เพราะต้องเจอทั้ง เยอรมนี แชมป์เก่า 4 สมัย, สเปน อดีตแชมป์ 1 สมัย รวมถึง ญี่ปุ่น ทีมยักษ์ใหญ่ของทวีปเอเชีย
แต่ถึงอย่างนั้นทัพ ‘กล้วยหอม’ ก็หวังสร้างเซอร์ไพรส์ในเวทีโลก เหมือนที่พวกเขาเคยทำไว้เมื่อ 8 ปีก่อน แต่พวกเขาจะทำได้หรือไม่ UFA ARENA จะพาไปเจาะลึก คอสตาริก้า ผ่านบทความนี้กัน
ประวัติศาสตร์ในบอลโลก
ฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้ถือเป็นการผ่านเข้าเล่นรอบสุดท้ายเป็นสมัยที่ 6 ของทีมชาติคอสตาริก้า แต่ผลงานที่ดีที่สุดก่อนหน้านี้คือ การทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ในเวิลด์ คัพ 2014 ที่บราซิล
ปีนั้นทัพ ‘กล้วยหอม’ ถูกจับให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับ อิตาลี, อังกฤษ และ อุรุกวัย ซึ่งแทนที่เป็นกล้วยให้ทีมอื่นคี้ยวเล่น พวกเขาปราบได้ทั้ง อุรุกวัย, อิตาลี และเสมอ อังกฤษ คว้าแชมป์กลุ่มได้แบบโลกตะลึง
จากนั้นรอบสอง ชนะจุดโทษ กรีซ 5-3 ก่อนที่จะไปพ่ายจุดโทษแก่ ฮอลแลนด์ 3-4 ยุติเส้นทางไว้ที่รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เส้นทางสู่กาตาร์
ส่วนฟุตบอลโลกหนนี้ คอสตาริก้าเป็นทีมสุดท้ายที่ได้ตั๋วมาลุยกาตาร์ หลังจากพวกเขาฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเท่าไหร่ จนจบอันดับ 4 ในรอบคัดเลือกโซนคอนคาเคฟ จึงต้องไปเล่นเพลย์ออฟกับทีมจากโซนโอเชียเนีย นิวซีแลนด์
ก่อนที่ โจเอล แคมป์เบลล์ อดีตกองหน้าอาร์เซน่อล จะรับบทฮีโร่ซัดประตูชัยสุดล้ำค่าให้ ทีม กล้วยหอม เฉือนชนะ 1-0 ซิวตั๋วเข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จ
ผู้จัดการทีม : หลุยส์ เฟร์นานโด ซัวเรซ
หลุยส์ เฟร์นานโด ซัวเรซอาจจะไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่มีชื่อเสียงมากนัก เนื่องจากเขาผ่านงานคุมทีมระดับสโมสรในลีกบ้านเกิดเสียเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ผลงานในอดีต กุนซือชาวโคลอมเบีย เคยพา เอกวาดอร์ เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายของบอลโลกเมื่อปี 2006 รวมถึงยังพาฮอนดูรัส ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายได้เมื่อปี 2017 ด้วย
ที่สำคัญ ซัวเรซ คือคนที่พลิกชะตาของ คอสตาริก้า ให้กลับมาคว้าตั๋วไปลุยบอลโลกที่กาตาร์ด้วย เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามฝีมือของกุนซือรายนี้เด็ดขาด
ดาวเด่น : เคย์เลอร์ นาบาส
ส่วนผู้เล่นที่น่าจับตามองของ คอสตาริก้า ยังไงก็ต้องเป็น เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารจอมหนึบจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่กวาดแชมป์ในยุโรปมามากมายนับไม่ถ้วน พร้อมยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายให้แฟนบอลอุ่นใจ
นอกจากนี้ทัพ ‘กล้วยหอม’ ยังมีแข้งชูโรงอย่าง โจเอล แคมป์เบลล์ อดีตกองหน้าอาร์เซน่อล วัย 30 ปี ซึ่งตอนนี้ล่าตาข่ายให้กับ เลออน สโมสรในลีกเม็กซิโก
รวมไปถึง ไบรอัน รุยซ์ จอมทัพกัปตันทีมประสบการณ์สูง ซึ่งผ่านการค้าแข้งกับสโมสรดังในยุโรปมาแล้วมากมาย ทั้ง ฟูแล่ม, ทเวนเต้, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น, สปอร์ติ้ง ลิสบอน จนปัจจุบันเล่นในลีกประเทศตัวเองกับสโมสร อลาจูเลนเซ่
ตารางแข่งขัน
คอสตาริก้า จะเปิดสนามในบอลโลกหนนี้พบกับ สเปน ในวันที่ 23 พฤศจิกายน จากนั้นก็ดวลกับ ญี่ปุ่น ในอีก 4 วันต่อมา ก่อนปิดท้ายด้วยการดวลกับ เยอรมัน ในวันที่ 1 ธันวาคม
วิเคราะห์โอกาสเข้ารอบ
คอสตาริก้า อยู่ในกลุ่ม E โดยมีเพื่อนร่วมสายอย่าง เยอรมนี, สเปน และญี่ปุ่น ซึ่งต้องยอมรับว่า ขุนพลแข้ง ‘กล้วยหอม’ มีโอกาสสูงมากที่จะจอดป้ายเพียงแค่รอบแรก เนื่องจากทัพ ‘อินทรีเหล็ก’ และ ‘กระทิงดุ’ เป็นสองทีมเต็งจ๋าที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป แถมสถิติตลอด 5 นัดที่ดวลกับ ซามูไรบลู พวกเขาไม่เคยชนะเลย (เสมอ 1 แพ้ 4)
อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลโลก 2014 พวกเขาเคยสร้างเซอร์ไพรส์กระหึ่มโลกมาแล้ว ทำให้วงการลูกหนังไม่สามารถมองข้ามทัพนักเตะจาก คอสตาริก้า อีกต่อไป และบางทีเราอาจได้เห็นเรื่องเซอร์ไพรส์จากพวกเขาในปีนี้ก็เป็นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง
