อีกหนึ่งดีลแห้ว : เมื่อปีศาจแดงตามจีบฟาเบรกาสร่วมทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักเป็นทีมที่ตกเป็นข่าวกับนักเตะบ่อยเป็นพิเศษในหน้าสื่อ แต่ในความจริงแล้วมีนักเตะจริงๆไม่กี่คนที่ย้ายมาสวมชุด ‘ปีศาจแดง’ ตามที่หลายคนลือกัน

เรื่องราวลักษณะนี้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีมแล้ว แต่หลังจากที่ เฟอร์กี้ วางมือ ข่าวลือเรื่องคว้านักเตะในตลาดซื้อขายก็มีมากขึ้นเป็นพิเศษ ทั้งสนใจดาวรุ่งทีมนั้น อยากได้ดาวเตะจากทีมนี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแค่เรื่องซุบซิบในวงการเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรเป็นรูปธรรม หรือจับต้องได้ชัดเจน

แม้แต่ในช่วงที่ เดวิด มอยส์ เข้ามาคุมทีมฤดูกาล 2013-14 ยูไนเต็ด ก็มีข่าวประเภทนี้เช่นกัน กับการพยายามไล่ล่าคว้า เชส ฟาเบรกาส เพลย์เมคเกอร์ชาวสแปนิช สมัยที่กำลังเล่นให้ บาร์เซโลน่า อยู่

แม้จุดจบจะไม่ต่างจากข่าวลือซื้อขายเหมือนนักเตะรายอื่นๆ แต่ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มต้นตั้งแต่สมัย เฟอร์กี้ ยังอยู่ด้วยซ้ำ

 

2 กุนซือเห็นพ้องต้องกัน

ย้อนกลับไปในวันที่ 1 พฤษภาคมปี 2013 มอยส์ กำลังชอปปิ้งกับ พาเมล่า ภรรยาของเขาในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยที่ เอฟเวอร์ตัน ของเขา กำลังรั้งอันดับที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ขณะที่เหลืออีก 3 ในเกมสุดท้ายในซีซั่น โดยกำลังเอาสายนาฬิกาข้อมือที่ภรรยาซื้อให้ในวันเกิดครบรอบ 50 ปีไปเปลี่ยนอยู่

แต่ในเวลาต่อมา มอยส์ ได้รับสายจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน และถูกเชิญมาพบที่บ้านของเขา ใน วิล์มสโลว์ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางใต้ 30 นาที 

การสนทนาในวันพุธนั้นจบลง เมื่อ มอยส์ ถูกบอกว่า เฟอร์กูสัน กำลังวางมือจากการคุม ‘ปีศาจแดง’ หลังจบฤดูกาล และเขากำลังจะรับช่วงต่อจากบรมกุนซือชาวสกอตติช ที่เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ลีกอังกฤษเป็นสมัยที่ 20

ทั้งคู่พูดคุยกันนานพอสมควร ถึงเรื่องสโมสรและทีม, เกี่ยวกับผู้เล่นรายบุคคล, ทีมเยาวชน,  บุคลากรที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงการเสริมทัพ ซึ่งในการพบกันครั้งแรก เฟอร์กี้ ได้บอก มอยส์ ไปว่า “เราค่อเราค่อนข้างชอบเชส  ฟาเบรกาสนะ”

เฟอร์กูสัน รู้ดีว่า กองกลางรายนี้คือคนที่ปาพิซซ่าใส่เขา หลังความวุ่นวายในเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2004 ซึ่งการแข่งขันจบลงด้วยการหยุดสถิติไร้พ่ายของ อาร์เซน่อล ไว้ที่ 49 เกม แต่เขาก็ทราบดีเช่นกันว่า เชส เป็นแกนหลักของ อาร์เซน่อล นานหลายปี มีพร้อมทั้งความสามารถและประสบการณ์ที่ล้นเหลือ อีกทั้งรู้สึกว่าเขาทำได้ดีมากกว่านี้หากเล่นให้กับสโมสรนอกบ้านเกิด

มอยส์ ก็ชื่นชอบอดีตดาวเตะ ‘ปืนใหญ่’ เช่นกัน แต่เขาต้องเจอกับกระบวนการหลายอย่างเลยหากหวังให้ดีลนี้เป็นจริง

มอยส์ กลายเป็นกุนซือคนใหม่ของ ยูไนเต็ด ตามนั้น และสโมสรก็ต้องการคว้า ดาวเตะชาวสแปนิชมาร่วมทีมเพื่อเขาด้วย

 

ข่าวลือใน คัมป์ นู

หลังจบฤดูกาล 2012-13 มอยส์ ต้องแยกทางกับ เอฟเวอร์ตัน หลังจากนั้น รวมไปถึงยุติสัญญาด้วยเพื่อรับตำแหน่งใหม่ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ในเบื้องหลัง รองประธานสโมสรของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง เอ็ด วู้ดเวิร์ด กำลังเดินหน้าสอบถามเกี่ยวกับเรื่องของ ฟาเบรกาส ที่ ณ เวลานั้นเขาไม่ใช่นักเตะแกนหลักของ บาร์เซโลน่า และมีข่าวต้องการย้ายทีมอีกครั้ง

เพลย์เมกเกอร์เลือดกระทิง ได้เป็นตัวจริงให้ บาร์ซ่า เกือบทุกนัด นับตั้งแต่ย้าจาก อาร์เซน่อล คืนทีมบ้านเกิดในปี 2011 แต่การที่เขาเป็นตัวสำรองที่ไม่ได้ใช้งานในเกมสำคัญๆ ทั้งวันที่พบ เรอัล มาดริด ในลีก หรือ เอซี มิลาน กับ บาเยิร์น มิวนิค ในแชมเปี้ยนส์ลีก ให้เขาพิจารณาเรื่องอนาคตเช่นกัน

บาร์ซ่า คว้าแชมป์ลีกในฤดูกาลนั้น ภายใต้การคุมทีมของ ตีโต้ บีลาโนบ้า แต่ด้วยมาตรฐานของทีมที่อยู่ในระดับสูงเป็นพิเศษ ทำให้ อดีตแข้ง ‘เดอะ กันเนอร์ส’ ถูกมองว่าเป็นนักเตะที่เก่ง แต่ไม่ได้เปล่งประกาย หรือสามารถชี้ขาดในเกมสำคัญได้

เสียงบ่นในอัฒจันทร์ของคัมป์ นู ค่อยๆดังขึ้น เหล่ากูเล่ส์สายอนุรักษ์นิยม ก็ขุดอดีต แสดงความไม่พอใจ เชส ที่ย้ายไป อาร์เซน่อล และทีมนักต้องไปซื้อกลับมาด้วยค่าตัวสถิติในปี 2011 ขณะที่บางคนก็อธิบายแบบไม่แฟร์เท่าไหร่ว่า เขาไม่ได้สร้างอิมแพ็คหรือยิงประตูได้มากพอ และมีไม่มากที่มองว่านี่คือตัวแทนของ ชาบี เอร์นานเดซ ในระยะยาว ช่วงที่ย้ายกลับมากาตาลันใหม่ๆ

ถึงอย่างนั้นในฤดูกาล 2012-13 เชส ก็ยังเล่นไปถึง 3,253 นาที ยิงไป 14 ประตู พร้อม 13 แอสซิสต์ เขาอาจสำคัญก็จริง แต่ก็มี 11 คนที่ได้ลงเล่นมากกว่าเขา

อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า ก็ยังต้องการเก็บ ลูกหม้อของพวกเขาต่อไป แม้ ซานโดร โรเซลล์ ประธานสโมสรในตอนนั้น อยากขายเขาออกไป แต่ ตาต้า มาร์ติโน่ ก็ชื่นชอบในฝีเท้าของแข้งรายนี้เช่นกัน

อีกทั้งตัวนักเตะเอง ใจจริงก็ไม่ได้อยากลา คัมป์ นู เช่นกัน เขากำลังเล่นให้ทีมบ้านเกิด และมีความสุขสุดๆที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว และเล่นกับเพื่อนซี้หลายคนในสมัยเด็ก เช่น ลิโอเนล เมสซี่ หรือ เคราร์ด ปิเก้

 

เดินหน้าขายขนมจีบ 

เรื่องดังกล่าวทำให้เป็นเรื่องยากที่โน้มน้าวให้ ฟาเบรกาส เลือกลาทีมแคว้นกาตาลัน และที่สำคัญงานนี้ถือเป็นเรื่องใหม่สุดๆสำหรับ วู้ดเวิร์ด เอง

ก่อนหน้านี้ แมนฯยูไนเต็ด ดำเนินงานเรื่องการเสริมทัพแบบเป็นความลับตลอด ทั้ง เฟอร์กี้ และ เดวิด กิลล์ ประธานสโมสรคู่ใจ มักยินดีที่จะไม่ให้ใครรู้เรื่องการเซ็นสัญญาแข้งใหม่จนกว่าจะเปิดตัวทางการ ยกตัวอย่างเช่นที่เกิดกับดีลคว้า แอนเดอร์สัน, นานี่ หรือ ฟิล โจนส์

แต่คราวนี้ ยูไนเต็ด ยืนกรานอย่างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการ ดาวเตะเลือดกระทิง ซึ่งสามารถเล่นในตำแหน่งกองกลางถึง 2 บทบาทหรือเป็นกองหน้าแบบฟอลส์ไนน์ อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นบ็อกซ์ทูบ็อกซ์สมบูรณ์แบบที่พวกเขาต้องการด้วย

มอยส์ มองว่า ไมเคิ่ล คาร์ริค และ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ เป็นเพียง 2 กองกลางธรรมชาติในทีมเท่านั้น โดยมีตัวเลือกอื่นอย่างการใช้ ไรอัน กิ๊กส์ ลงเล่นเป็นบางครั้ง ทำให้ ยูไนเต็ด มองว่าจำเป็นต้องมีกองกลางเพิ่มอีก 2 คน ซึ่งจากไอเดียดังกล่าวก็คือ เชส และ มารูยาน เฟลไลนี่ ศิษย์เก่าของเขาสมัยอยู่ เอฟเวอร์ตัน

กองกลางหัวฟู อาจจำเป็นกับเกมหนักๆที่เน้นพละกำลังด้านกายภาพสูง แต่กับ เชส เขาคือกองกลางที่จำเป็นต่อทีมทุกสถานการณ์ และยูไนเต็ด ก็เตรียมจ่ายหนักเพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมให้ได้

ในซัมเมอร์นั้น มอยส์ ได้พูดคุยกับ ฟาเบรกาส 2 ครั้ง โดยอธิบายไปว่าทำไมถึงอยากได้เขามาร่วมทีม และเป็นเป้าหมายเบอร์หนึ่งของทีมแชมป์จากอังกฤษ แข้งชาวคาตาลันตั้งใจฟัง และดูเหมือนเขาจะกระตือรือร้นและอธิบายว่าเขามองสถานการณ์ที่คัมป์ นูอย่างไร เพียงแต่บาร์เซโลน่ากลับถูกแบ่งแยกจากภายใน

จากนั้นในวันที่ 1 สิงหาคม มอยส์ ที่เสร็จสิ้นภารกิจดูเกมที่ สวอนซี พบ มัลโม่ ในเกมยูโรป้าลีก รอบคัดเลือก ซึ่ง หงส์ขาว คือทีมคู่แข่งนัดแรกของพวกเขาใน 2 สัปดาห์ต่อมา เขาก็เดินทางไปพบกับ เชส เป็นหนที่ 2

โดยครั้งนี้ ดาวเตะชาวสแปนิช บอกกุนซือชาวสก็อตติชว่า หากเขาไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมลีกนัดแรกของ บาร์เซโลน่า เขาก็อยากย้ายมาเล่นกับ ยูไนเต็ด

 

แห้วรับประทาน(อีกครั้ง)

วันที่ 6 สิงหาคม ช่วงที่ แข้ง ‘ปีศาจแดง’ มีคิวแตะเกมอุ่นเครื่องใน สต็อกโฮล์ม สโมสรได้ติดต่อไปยัง โรเซลล์ พร้อมข้อเสนอให้พิจารณา แต่ บาร์เซโลน่า ในตอนนั้นไม่ได้เป็นหนี้เป็นสนจนมีปัญหาด้านการเงินเหมือนในตอนนี้ 

เกมแรกของ บาร์ซ่า จะเตะในบ้านพบ เลบานเต้ ในวันที่ 18 สิงหาคม และมันคงเป็นงานกระชั้นชิดไปบ้างสำหรับ ยูไนเต็ด แต่ตลาดซื้อขายก็ยังมีเวลาถึง 12 วัน เรียกว่าเหลือเฟือสำหรับการลุยคว้านักเตะแค่คนเดียวให้ลุล่วง

อย่างไรก็ตาม ฟาเบรกาส ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง พร้อมทำ 2 แอสซิสต์ ให้ทีมเอาชนะไป 7-0 เมื่อ มอยส์ ได้ยินข่าวนั้น เขาก็รู้สึกว่าการย้ายทีมนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ พร้อมผิดหวังอย่างไม่ต้องสงสัย 

สุดท้าย พวกเขาได้แค่ เฟลไลนี่ มาแทนในช่วงวันสุดท้ายของตลาดซัมเมอร์ปี 2013 ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการเสริมทัพแบบตื่นตระหนกมากกว่าซื้อแบบพิจารณามารอบด้านแล้ว

ฟาเบรเกส ได้ลงเล่นถึง 2,855 นาทีให้ บาร์ซ่า ในฤดูกาล 2013-14 มากกว่าทั้ง ชาบี และ อันเดรส อิเนียสต้า แต่ในเดือนเมษายนปี 2014 ทีมก็ร่วง แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทำให้ทีมตัดสินใจขายเขาในซัมเมอร์นั้น หากมีข้อเสนอเข้ามา แม้มีการปฏิเสธข่าวดังกล่าว แต่หลายสโมสรก็รู้ดีว่าดีลนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง

เนื่องจากเกมสุดท้ายของฤดูกาลนั้น ทั้ง เชส และเพื่อนร่วมทีม บาร์ซ่า ถูกโห่อย่างหนักนอกสนาม หลังจากที่ทีมเสียแชมป์ลีกให้กับ แอตเลติโก้ มาดริด ทีมที่เขี่ยพวกเขาร่วงในบอลยุโรป

ถึงเคยให้ความสนใจมากแค่ไหน แต่ ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอีกครั้ง หลังปลด มอยส์ ที่ทำหน้าที่ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพียง 10 เดือน และดึง หลุยส์ ฟาน กัล เข้ามา ซึ่งกุนซือดัตช์แมน ก็ไม่ได้แสดงความสนใจคว้า กองกลางแดนกระทิง มาร่วมทีมในระดับเดียวกับที่ มอยส์ ทำ

ท้ายที่สุด ฟาเบรกาส ก็กลับมาอังกฤษ อีกครั้งในซัมเมอร์นั้น โดยย้ายซบ เชลซี พร้อมประสบความสำเร็จตลอด 5 ปีในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, ยูโรป้า ลีก และ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2017-18 ที่เอาชนะ ‘ปีศาจแดง’ ในนัดชิงชนะเลิศด้วย

 

บทความที่เกี่ยวข้อง