ฟูแล่ม เป็นสโมสรน้องใหม่ที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งเครดิตส่วนใหญ่ต้องยกให้ มาร์โก ซิลวา ผู้จัดการทีม ที่มีตัวทีเด็ดให้ใช้งานอย่างครบครัน หนึ่งในนั้นคือ กองกลางตัวรับอย่าง ชูเอา ปาลินญ่า
แม้เพิ่งย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาร่วมทีม เจ้าสัว ในช่วงซัมเมอร์ปีที่ผ่านมา ทว่ากองกลางทีมชาติโปรตุเกส กลับปรับตัวเข้ากับลีกผู้ดีได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งกลายเป็นตัวหลักในแดนกลางที่ทีมขาดไม่ได้เลย
ปัจจุบัน ฟูแล่ม รั้งอันดับ 9 ในลีก มี 39 แต้มจาก 27 นัด ต่างจากทีมที่เลื่อนชั้นจาก แชมเปี้ยนส์ชิพ ที่ขึ้นมาพร้อมกันชัดเจน ทั้ง บอร์ธมัธ และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นอยู่ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องขอบคุณฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของกองกลางรายนี้
ทว่าแม้เล่นเป็นตัวรับ แต่แข้งชาวโปรตุกีส กลับมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการเล่นเกมรุกของ ฟูแล่ม ด้วยเช่นกัน และ UFA ARENA จะพาไปวิเคราะห์ผ่านบทความนี้ ว่าทำไม ปาลินญ่า ถึงกลายเป็นอาวุธลับของ มาร์โก ซิลวา ที่หลายคนอาจมองข้ามไป
กองกลางสายปะทะ
คงไม่เกินเลยนัก หากจะบอกว่า ปาลินญ่า เป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เนื่องจากผลงานของเขายอดเยี่ยมไม่ต่างจากที่เคยสวมเสื้อ สปอร์ติ้ง ลิสบอน และอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำไป
เจ้าของเสื้อเบอร์ 26 ทำสถิติเข้าปะทะคู่แข่งไปแล้ว 102 ครั้ง มากที่สุดลีกสูงสุดแดนผู้ดีฤดูกาลนี้ โดยมากกว่าอันดับ 2 ถึง 15 ครั้ง และอีกเพียง 7 ครั้งก็จะทำสถิติเข้าปะทะมากสุดเทียบเท่าฤดูกาลก่อนด้วย
อีกทั้งสามารถเอาชนะการดวลคู่แข่งได้ถึง 197 ครั้ง มากที่สุดในลีกเช่นกัน ทำให้ค่าตัว 20 ล้านปอนด์ ที่ ฟูแล่ม จ่ายไปดูไม่แพงไปแม้แต่นิดเดียว แถมยังเกินคุ้มด้วยซ้ำ และการเล่นเกมรับที่ดุดัน หนักหน่วง กลายเป็นจุดที่ทำให้เขาปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้อย่างรวดเร็ว
“ในโปรตุเกส ผมรู้สึกว่าผมไม่สามารถเข้าปะทะได้เลย ทุกการปะทะเป็นใบเหลือง แต่ที่นี่ มันต่างออกไปชัดเจน เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมตัดสินใจย้ายมา” กองกลางชาวโปรตุกีส กล่าว
ทว่านั่นไม่ได้หมายความว่าสถิติด้านวินัยของเขาจะไม่มีตำหนิเลย เมื่อโดนใบเหลืองไปถึง 10 ใบ มากที่สุดในลีกฤดูกาลนี้เช่นกัน เท่ากับ ชีค ดูคูเร่ ของ คริสตัล พาเลซ และ โจลิงตัน ของนิวคาสเซิ่ล ซึ่งทำให้เขาพลาดเกมในลีกไปถึง 3 นัด
ซึ่งไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ ฟูแล่ม พ่ายทั้ง 3 นัดยามไม่มี กองกลางวัย 27 ปี คุมแดนกลาง เช่นในเกมลีกล่าสุดที่โดน อาร์เซน่อล ถล่ม 3-0 ช่วงสุดสัปดาห์ก่อน
ตัดเกมเพื่อเปลี่ยนเป็นเกมรุก
แม้ มาร์โก ซิลวา กุนซือของ ฟูแล่ม อาจไม่ยอมรับในเรื่องนี้ แต่ทีมของเขาก็ไม่ใช่ทีมเดิม และมีประสิทธิภาพด้อยลงเมื่อไร้ ปาลินญ่า
การแย่งบอลและตัดเกมที่เด็ดขาด ทำให้ยากที่กองกลางคนอื่นในทีมจะเลียนแบบหรือทดแทนได้ และการเข้าปะทะของเขาไม่เพียงคอยหยุดเกมรุกของคู่แข่ง หรือป้องกันประตูเท่านั้น
แต่เขายังเป็นอาวุธลับในการทำเกมบุกของ ฟูแล่ม ในแบบที่หลายคนไม่ได้สังเกตด้วย
มิดฟิลด์ตัวรับวัย 27 ปีได้พัฒนาศิลปะในการเปลี่ยนเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างสมบูรณ์แบบ จังหวะการเข้าปะทะของเขาไม่ใช่แค่ช่วยให้ทีมกลับไปครองบอลอีกครั้ง แต่ยังสร้างโอกาสฟูแล่มได้จู่โจมคู่แข่งทันที
ลักษณะเกมของกองกลางวัย 27 ปีนี้สามารถเห็นได้ในสถิติใหม่ซึ่งวัดโอกาสประตูที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากจังหวะที่เข้าปะทะคู่แข่ง
ค่า Xg (ความคาดหวังประตู) การครอบครองบอลครั้งต่อไปหลังการเข้าปะทะหรือสกัดบอล ทำให้เขาชัดเจนในด้านนี้เหนือใครในพรีเมียร์ลีก ในฐานะผู้เล่นคนเดียวที่มีค่าเฉลี่ยนี้ ถึง 2.04
นี่เป็นแนวคิดที่แปลกใหม่ไม่น้อย สร้างสรรค์โดยการเข้าปะทะ แต่ความสามารถพิเศษของกองกลางเลือดฝอยทองนั้นหาใครเทียบไม่ได้ โดยตัวอย่างที่ชัดเจนเกิดขึ้นในเกมช่วงต้นซีซั่นที่เสมอ ฟูแล่ม 2-2 หรือเกมที่เอาชนะ ลีดส์ 3-2
โดยเขาจะเข้าปะทะเพื่อแย่งบอลจากคู่แข่ง ก่อนจ่ายไปให้นักเตะตัวรุกที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการโต้กลับทันที ซึ่งไม่แปลกที่ทีมจะได้ประตูจากจังหวะเหล่านี้บ่อยๆ
เห็นผลชัดเจนเมื่อขาด
ความสำคัญของ อดีตกองกลาง สปอร์ติ้ง ลิสบอน ชัดเจนมากขึ้น ยามที่ ฟูแล่ม ไม่มีเขาคอยปัดกวาดเกมแดนกลาง โดยเฉพาะเกมรับที่เสียไป 10 ประตู ในช่วงที่ไม่มีเขาลงสนาม 3 นัดในพรีเมียร์ลีก และในเกมรุกก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน
ตัวเลขอาจต่างกันไม่เยอะมากมายนัก แต่โอกาสการยิง, ลูกยิงที่ตรงกรอบ, ประตูที่คาดว่าจะเกิดขึ้น นั้นลดลงอย่างชัดเจน เมื่อไม่มีกองกลางชาวโปรตุกีส
สถิติต่อเกมยามมีและไม่มี ปาลินญ่า ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ทั้งโอกาสยิง (11.9 – 8.0), ประตูที่ยิงได้ (1.5 – 1.0), โอกาสยิงของคู่แข่ง (13.1 – 16.0), ประตูที่เสีย (1.2 – 3.3) ยิ่งทำให้เห็นภาพชัดขึ้นว่าเขาสำคัญกับแดนกลางในทีมของ ซิลวา มากขนาดไหน
การเข้าปะทะของ กองกลางเบอร์ 26 ถือเป็นแนวทางการทำประตูที่ดีที่สุดสำหรับฟูแล่ม และยิ่งเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น ยามมีเขาคุมแผงมิดฟิลด์ในทีมด้วยเช่นกัน