หากย้อนปีสองปีก่อนชื่อของ เจสซี่ ลินการ์ด คงจะทำให้หลายคนนึกถึงนักฟุตบอลจอมทะเล้นที่ผลงานไม่เป็นชิ้นเป็นอัน และมักถูกเอ่ยชื่อในมุกตลกล้อเลียนต่างๆ แต่ในฤดูกาลปัจจุบันในสีเสื้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขากลายเป็นนักเตะที่ฝากผีฝากไข้ได้ วันนี้ UFA ARENA จะมานำเสนอเส้นทางการเติบโตของ ลินการ์ด กับการคืนสู่ทัพผีในวันที่เติบโตขึ้น
ความล้มเหลวในทัพผี
ลินการ์ด เป็นนักเตะจากอคาเดมี่ของปีศาจแดง ก่อนจะถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2011 และแจ้งเกิดเต็มตัวในฤดูกาล 2015/16 จากการยิงประตูชัยให้กับทีมในนัดชิงเอฟเอคัพใส่ คริสตัล พาเลซ หลังจากนั้นเขาก็สร้างความวูบวาบด้วยการเล่นที่น่าตื่นใจ มีความเร็ว มีทักษะชั้นยอด จนมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2018
อย่างไรก็ตามด้วยชื่อเสียงและนิสัยส่วนตัว ที่ติดโซเชี่ยลอย่างหนัก รวมถึงการออกไปทำแบรนด์เสื้อผ้าก็ทำให้โฟกัสของเขาต่อกีฬาฟุตบอลเริ่มหลุดออกไป บวกกับฟอร์มการเล่นที่ทำได้ฝืดกว่าเดิมทำให้โดนวิจารณ์อย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีปัญหาครอบครัวให้คิด เนื่องจากแม่ของเขาล้มป่วยหนัก จนจิตใจแทบจะไม่อยู่กับฟุตบอลเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายก็แทบไม่ได้ลงสนามให้กับทีมเลยในช่วงหลัง
ดีลยืมตัวที่ดีที่สุดของขุนค้อน
จากดีลที่ขุนค้อนคิดว่าจะดึงมาเพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก เจ้าตัวกลับกลายเป็นกำลังหลักของทีมด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมลงสนามในลีกไป 16 นัด ยิง 9 ประตู 4 แอสซิสต์ ก่อนจะยึดตำแหน่งตัวหลักถาวรจนจบฤดูกาล แถมยังเกือบมีลุ้นดาวซัลโวของทีมเลยด้วยซ้ำเป็นรองเพียงแค่ โธมัส ซูเช็ค และ มิคาเอล อันโตนิโอ ที่ยิงไป 10 ประตูเท่านั้น
ผลงานดังกล่าวช่วยให้ขุนค้อนรักษาอันดับในโซนยุโรปเอาไว้ได้ ซึ่งตัดประตู และแอสซิสต์ของ แข้งวัย 28 ปีออกไปพวกเขาจะเหลือแค่ 56 แต้มเท่านั้น ซึ่งแปลว่าพวกเขาจะจบที่อันดับ 11 นับว่าเป็นการยืมตัวที่สร้างประโยชน์ให้กับทีมได้อย่างมากเลยทีเดียว
จิตใจทีเติบโตขึ้น
หลังจากได้ไปชุบตัวที่ เวสต์แฮม นอกจากฝีเท้าที่กลับมาอยู่ในร่องในรอยแล้ว ความคิดของเขาก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แน่นอนว่าความเฮฮาของเขายังคงอยู่ แต่หนนี้รู้จักความพอดี ไม่เหลิงเกินไปเวลาทำผลงานได้ดี และไม่เป๋เหมือนทำผิดพลาด เห็นได้ชัดจากในฤดูกาลนี้ที่เขาได้รับโอกาสลงสนามและทำผลงานได้จากการลง 4 นัด ยิง 2 ประตูรวมทุกรายการแม้จะเป็นแค่ตัวสำรองแต่ก็ไม่ปริปากบ่นเลยแม้แต่น้อย
นอกจากนี้จิตใจและสมาธิของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยจาก 2 เกมล่าสุด ที่ก่อนหน้านี้ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก กับยัง บอยส์ เขาเพิ่งทำผิดพลาด จากการจ่ายคืนหลังแต่โดนฝั่งตรงข้ามตัดบอลไปยิงประตูชัยได้ทำให้ทีมแพ้ไปในเกมนั้น แต่เกมถัดมาเขากลับมาเป็นผู้ยิงประตูชัยพาปีศาจแดงเอาชนะ ขุนค้อนไปได้ทั้งที่อยู่ในสนามเพียงแค่ 16 นาทีเท่านั้น
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้หากทำผิดพลาดแบบนี้ฟอร์มของเขาคงหลุดออกทะเลไปไหนต่อไหนแล้ว แต่มาในปีนี้เขาสามารถกลับมาจากความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่แสดงออกหลังจากยิงประตูใส่ทีมเก่าอย่าง เวสต์แฮมได้เขาไม่ฉลองประตูเพื่อเป็นการให้เกียรติที่ทีมช่วยให้เขากลับมาคืนชีพอีกครั้ง แม้บรรดาเพื่อนร่วมทีมจะพยายามคะยั้นคะยอให้เขาดีใจกับประตูนี้ก็ตาม
สลัดคราบตัวตลกสู่ซุปเปอร์ซัพ
ย้อนไปก่อนหน้านี้ไม่ว่าแนวรุกชาวอังกฤษจะทำดีหรือไม่อย่างไรเขาก็จะเป็นได้แค่ตัวตลกที่ถูกนำมาล้อเลียน ยิ่งถ้าทำพลาดละก็เขาจะโดนถล่มวิจารณ์เสียๆหายๆทันที แต่ปัจจุบันหลังจากที่เขาทำผิดพลาดในเกมกับ ยังบอยส์ แน่นอนว่ามันต้องมีคำวิจารณ์แย่ๆพุ่งมาใส่เขาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้ ลินการ์ด รับมือกับมันได้
นอกจากนี้แฟนบอลส่วนใหญ่ รวมถึงคนรอบตัวของเขาก็ให้การหนุนหลังเต็มที่ โดยทางตัวนักเตะก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องนี้หลังจบเกมว่า “ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ มีทั้งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด แต่เพื่อนร่วมทีม, สตาฟฟ์โค้ช และแฟนบอล ต่างก็ให้การหนุนหลังผมตลอดทั้งสัปดาห์ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่วันนี้ได้มีเวลาลงไปสัมผัสเกม”
แน่นอนว่าด้วยขุมกำลังของทัพผีในชุดปัจจุบันคงไม่ง่ายที่ ลินการ์ด จะก้าวมาเป็นตัวจริง แต่ในตอนนี้เขาเป็นอาวุธลับที่สามารถส่งมาหวังผลได้ แม้จะเป็นตัวสำรองแต่เขาก็ใช้โอกาสไม่เปลือง โดย 2 ประตูที่ทำได้มาจาก 2 โอกาสที่เขาได้ง้างเท้ายิง ถือเป็นซุปเปอร์ซัพที่หวังผลได้ที่สุดของทีมเวลานี้
ทางเลือกในอนาคต
จากดาวเตะส่วนเกินที่ไม่มีใครต้องการ ตอนนี้ทางเลือกของ ลินการ์ด มีให้เลือกเพียบทั้งการอยู่กับ ปีศาจแดงต่อก็ได้ เพราะแม้จะเป็นแค่ตัวสำรองแต่ก็เป็นตัวเลือกแรกๆของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ในการส่งมาเปลี่ยนเกม นอกจากนี้ยังเป็นการได้อยู่กับทีมรักของตัวเองต่อไปอีกด้วย
หรืออีกทางเลือกคือการย้ายออกไปเป็นตัวจริงของ เวสต์แฮม ที่ให้ความสนใจเขามาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว เพียงแต่เจ้าตัวเลือกที่จะอยู่ในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ดไปก่อน ซึ่งหากไปอยู่กับทัพขุนค้อนเขาจะได้ลงสนามอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยในฐานะตัวหลักอย่างแน่นอน
ปัจจุบันสัญญาของแข้งเลือดผู้ดีเหลือเป็นปีสุดท้ายเราจะได้เห็นกันว่าเจ้าตัวจะเลือกทางที่รุ่งกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หรือทางที่รักอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ไม่ว่าเลือกทางไหนผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองว่าจะนำพาเส้นทางค้าแข้งของตัวเองไปต่อในทิศทางไหน