ฟ้าขาว ทำแฟนบอลช็อกทั่วโลก หลังประเดิมบอลโลก 2022 ด้วยการพ่ายแพ้ต่อทีมรองบ่อนอย่าง ซาอุดิอาระเบีย 1-2

ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 นัดแรกกลุ่มซี อาร์เจนติน่า อดีตแชมป์โลก 2 สมัย ประเดิมสนามพบกับ ซาอุดิอาระเบีย ตัวแทนจากทวีปเอเชีย

เกมนี้ ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือ “ฟ้าขาว” จัดทีมลงสนามในระบบ 4-4-2 วาง คริสเตียน โรเมโร่ ดูแลเกมรับ อเลฮานโดร โกเมซ กับ อังเคล ดิ มาเรีย ทำเกมริมเส้นสนับสนุนคู่กองหน้า ลิโอเนล เมสซี่ และ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ

ด้าน แอร์กเว่ เรอนาร์ เฮดโค้ชทีม “เศรษฐีน้ำมัน” จัดทีมที่ดีที่สุดมาสู้ในระบบ 4-1-4-1 โดยวาง ซัลมาน อัล-ฟาราจ์ กัปตันทีมทำเกมแดนกลาง โดยมี ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ ดาวซัลโวประจำรอบคัดเลือกเป็นทีเด็ดของทีม

ครึ่งแรกเล่นไปได้ 10 นาที อาร์เจนติน่า มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะเช็ก VAR ซาอูด อับดุลฮามิด ไปดึง เลอันโดร ปาเรเดส ที่กำลังลุ้นลูกเตะมุม ก่อนที่ เมสซี่ จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปให้ “ฟ้าขาว” ขึ้นนำ 1-0

ทีมดังจากอเมริกาใต้ เกือบได้ประตูที่สองเพิ่มถึง 2 ครั้งในนาที 29 และ 35 จากจังหวะที่ เมสซี่ และ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ หลุดเข้าไปส่งบอลซุกก้นตาข่ายแล้ว แต่โดน VAR จับล้ำหน้าไปอย่างน่าเสียดาย

ครึ่งหลัง ซาอุดิอาระเบีย แก้เกมดีขึ้น นาที 48 ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ กระชากหนี คริสเตียน โรเมโร่ ขาดวิ่นเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกลผ่านมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เข้าไปตีเสมอเป็น 1-1

เท่านั้นไม่พอนาที 53 ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่ ตามไปเก็บบอลที่เพื่อนยิงติดบล็อค แล้วพลิกวนเข้าเขตโทษก่อนปั่นเท้าขวาตรงเส้น 18 หลา บอลโค้งเสียบเสาสองหมดจดช่วยให้ เศรษฐีน้ำมัน พลิกแซงนำ 2-1

ช่วงเวลาที่้เหลือแม้ อาร์เจนติน่า จะพยายามบุกหนักแต่ก็เจาะเกมรับ ซาอุดิอาระเบีย ไม่เข้า ทำให้จบเกม ซาอุดิอาระเบีย พลิกแซงชนะ 2-1 คว้า 3 แต้มไปแบบพลิกล็อก พร้อมหยุดสถิติไม่แพ้ใครของ อาร์เจนติน่า ไว้ที่ 36 เกม อดทาบสถิติสูงสุดของ อิตาลี ไปอย่างน่าเสียดาย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เจนตินา : เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ – นาอูเอล โมลีน่า, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตาเกลียฟีโก้ – โรดรีโก้ เด ปอล, เลอันโดร ปาเรเดส – อังเกล ดิ มาเรีย, ลีโอเนล เมสซี่, อเลฮานโดร ‘ปาปู’ โกเมซ – เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ

ซาอุดิอาราเบีย : โมฮัมเหม็ด อัล-โอวาอิส – ซาอุด อับดูลฮามิด, ฮัสซัน อัล-ตัมบัคตี, อาลี อัล-บูไลฮี, ยาสเซอร์ อัล-ชาห์รานี่ – ซาเลห์ อัล-เชห์รี่, โมฮาเหม็ด คานโน่, อับดูเลลลาห์ อัล-มัลคี, ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่ – ซัลมาน อัล-ฟาราจ – ฟิราส อัล-บูไรคาน