การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2021-22 ปิดฉากลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และความพิเศษของปีนี้ คือการที่แทบทุกบทสรุปต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งแชมป์ที่ต้องใช้คำว่า “โกงความตาย”
โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขอแค่เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ได้ที่เอติฮัต สเตเดียมก็จะคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกทันทีแบบไม่ต้องสนผลการแข่งขันของ ลิเวอร์พูล ทว่าพวกเขากลับตามหลังสิงห์ผงาด 0-2 ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 20 นาที อย่างไรก็ตาม เหมือนโชคชะตาเขียนให้เรือใบสีฟ้าเป็นแชมป์ เมื่อทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าใช้เวลาแค่ 6 นาทีในการรัวยิง 3 ประตูรวด ก่อนที่จะคว้าชัยไปแบบสุดระทึก 3-2
ในส่วนของการลุ้นท็อปโฟร์ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้าอันดับ 4 ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ซีซั่นหน้า แบบไม่เปิดโอกาสให้ อาร์เซน่อล มีหวัง หลังจากไก่เดือยทองถล่ม นอริช ซิตี้ ยับเยิน 5-0 ขณะที่การแย่งชิงโควต้ายูโรป้า ลีกที่นั่งสุดท้าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อุตส่าห์พลาดท่าพ่ายต่อ คริสตัล พาเลซ แล้ว แต่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก็ดันมาแพ้ให้กับ ไบรท์ตัน เช่นเดียวกัน ทำให้ขุนค้อนต้องไปลุยยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีกในฐานะทีมอันดับ 7
ท้ายที่สุดกับศึกหนีตายระหว่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลีย์ ผลปรากฏว่ายูงทองสามารถเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด ไปได้ ขณะที่เดอะ คลาเร็ตส์ปราชัยต่อ นิวคาสเซิ่ล ส่งผลให้รายหลังต้องไปตั้งต้นใหม่บนเวทีเดอะ แชมเปี้ยนชิพพร้อมกับ นอริช ซิตี้ และ วัตฟอร์ด
แชมป์ : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 93 คะแนน
รองแชมป์ : ลิเวอร์พูล – 92 คะแนน
ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก : แมนเชสเตอร์ ซิตี้ , ลิเวอร์พูล , เชลซี , ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก : อาร์เซน่อล , แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ตกชั้น : นอริช ซิตี้ , วัตฟอร์ด , เบิร์นลีย์
ดาวซัลโว : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) , ซน เฮือง-มิน (สเปอร์ส) – 23 ประตู
ท็อปแอสซิสต์ : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) – 13 แอสซิสต์
ท็อปคลีนชีต : เอแดร์ซอน (แมนฯ ซิตี้) , อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ลิเวอร์พูล) – 20 คลีนชีต