น่าเสียดาย : จอช แม็คเอคราน อดีตดาวรุ่งสิงห์อีกรายผู้ไปไม่ถึงฝัน

น่าเสียดาย : จอช แม็คเอคราน อดีตดาวรุ่งสิงห์อีกรายผู้ไปไม่ถึงฝัน

หลายคนเคยคาดหวังว่าเขาจะกลายเป็นกองกลางอนาคตในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ในตอนนี้ จอช แม็คเอคราน ห่างไกลจากสถานะนั้นเกินกว่าที่เขาหรือใครๆเคยคาดการณ์ไว้

แม็คเอคราน เข้ามาร่วมทีมเยาวชนของ ‘สิงห์บลูส์’ ตั้งแต่ปี 2001 และความยอดเยี่ยมที่เขาแสดงให้เห็นในทีมชุดเล็กเกือบ 10 ปี ทำให้เขาถูกยกย่องเป็นอนาคตความหวังใหม่ของทีมในแดนกลาง

แต่ท้ายที่สุดจุดจบของเขาก็ไม่ต่างจากดาวรุ่งหลายรายในสโมสรที่ถูกปล่อยยืมตัวในเวลาต่อมาจนต้องลาขาดจากทีมเพื่อโอกาสลงสนามที่มากขึ้น และกรณีของ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษชุด U-21 ปี อาจจะแย่กว่าใครหลายด้วยซ้ำ จนถึงขั้นกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ช่วงหนึ่งด้วย

UFA ARENA จึงขอพาไปพบกับเรื่องราวชีวิตค้าแข้งของ จอช แม็คเอคราน ในฐานะดาวรุ่งสิงห์อีกรายที่ไปไม่ถึงฝังฝันที่วาดหวังไว้ผ่านบทความชิ้นนี้

 

จากดาวรุ่งสู่ดาวร่วง

McEachran on where it all went wrong for him at Chelsea - We Ain't Got No  History

ย้อนกลับเมื่อปี 2010 กัส โปเยต์ ได้กลับไปลอนดอนเพื่อดูเกมของ เชลซี ทีมเก่าใน เดอะ บริดจ์ และเหมือนกับทุกคนในสนามวันนั้น เขาต้องตากับฟอร์มการเล่นของดาวเตะลูกหม้อสโมสรวัย 17 ปี ที่เพิ่งก้าวมาเล่นชุดใหญ่

“ทั้งสนามกำลังพูดถึง จอช แม็คเอคราน หลังเกม” อดีตกองกลางสิงห์บลูส์ กล่าวกับ Goal “ผู้คนต่างพูดว่าเขาจะเป็น (เฟร์นานโด) เรดอนโด้ หรือ (เป๊ป) กวาร์ดิโอล่า คนต่อไป”

โชคไม่ดีที่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น แม้ว่าเขาจะมีช่วงอาชีพค้าแข้งที่ดีอยู่บ้างในแชมเปี้ยนสชิพ ก็ตาม

ความตื่นเต้นเกี่ยวกับ กองกลางหนุ่มชาวอังกฤษ ในช่วงเแรกของอาชีพ ไม่ได้โอเวอร์เกินจริงเลย เขาเป็นกองกลางตัวสร้างสรรค์เกมที่มีทักษะยอดเยี่ยมในการจ่ายบอล และวิสัยทัศน์โดดเด่นที่เขามีก็ได้รับการยกย่องจากโค้ชทุกคนที่เคยลงเล่น ไล่ตั้งแต่ แบรนแดน ร็อดเจอร์ส, เรย์ วิลกิ้นส์, สจ๊วร์ต เพียร์ซ หรือ ปีเตอร์ บอสซ์

เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 28 ปี ในเดือนมีนาคม หลายคนคาดหวังว่าเขาจะไปได้สวย และกลายเป็นดาวเตะคนสำคัญใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ และบางทีอาจเป็นกัปตันทีมทั้งในระดับสโมสร และทีมชาติอังกฤษด้วย

ทว่าความจริงที่เกิดขึ้นคือการที่เขากลายเป็นนักเตะฟรีเอเย่นต์ หลังจากมีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอด 2 ปีที่เล่นกับ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ในลีกรอง

 

ยึดซีดานเป็นไอดอล

Sempat Tolak Real Madrid, Bagaimana Nasib Mantan Wonderkid Chelsea Josh  McEachran? | Goal.com Indonesia

แม็คเอคราน ย้ายมาร่วมทีมดังจากลอนดอนฝั่งตะวันตกในวัย 7 ขวบ และไต่เต้าขึ้นไปเล่นในทีมชุดเยาวชนอย่างรวดเร็ว ช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ฤดูกาล 2009-10 ซึ่งถือเป็นแชมป์แรกของทีมชุดเล็กในรอบ 50 ปี

นอกจากนี้ เขายังได้ลงเล่นในทีมชาติอังกฤษรุ่นเล็กทุกชุด ไล่ตั้งแต่รุ่น U-16 จนถึงรุ่น U-21 อีกด้วย

ในช่วงที่เป็นดาวรุ่งนั้น แข้งหนุ่มเลือดผู้ดี ยกให้ ซีเนดีน ซีดาน ตำนานกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส เป็นต้นแบบของเขาในฟุตบอลอาชีพ โดยกล่าวกับนักข่าวหลังเกมอุ่นเครื่องของ เชลซี ในปี 2011 ว่า “กับ ซีเนดีน ซีดาน มีทุกอย่างเกี่ยวกับเขา ทั้งประตู, การสัมผัสบอล เขาเป็นกองกลางที่ครบเครื่องสุด ๆ ตอนนี้เขาเลิกเล่นไปแล้ว ผมจึงมองดู แฟรงค์ แลมพาร์ด และ อันเดรส อิเนียสต้า ด้วย”

คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เป็นนายใหญ่ใน เดอะ บริดจ์ ณ เวลานั้น ได้เห็นบางอย่างที่ยอดเยี่ยมใน กองกลางลูกหม้อสโมสรรายนี้ และส่งเขาลงสนามนัดแรกในเดือนกันยายนปี 2010 โดยเป็นตัวสำรองท้ายเกมแชมเปี้ยนส์ลีกที่พบกับ เอ็มเอสเค ซิลิน่า และกลายเป็นนักเตะคนแรกที่เกิดหลังรายการนี้ถือกำเนิดในปี 1992 ที่ได้ลงสนาม

เขาได้ลงเล่นไป 17 นัดในทีมชุดใหญ่ ระหว่างฤดูกาล 2010-11 และขยายสัญญาอีก 5 ปีในซัมเมอร์นั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น เขาได้สนามเพียง 5 นัดเท่านั้น

ขณะที่ อันเช่ เชื่อมั่นในฝีเท้าของแข้งหนุ่ม แต่กุนซือคนใหม่ที่เข้ามาแทนที่อย่าง อังเดร วิลลาส โบอาส กลับไม่มองแบบนั้น

 

วนเวียนในลีกรอง

MK Dons waiting on Josh McEachran ahead of Sheffield Wednesday game |  NewsChain

ดาวรุ่งที่กำเนิดในอ็อกฟอร์ด ถูกดองในทีมชุดใหญ่ จนทำให้ต้องย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมอื่น ๆ แม้ โบอาส จะลาทีมไปในเวลาต่อมา แม็คเอคราน ก็ยังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ขณะที่กำลังวนเวียนอยู่กับทีมแชมเปี้ยนส์ชิพ ในเวลาเดียวกัน เก้าอี้กุนซือในเชลซีก็เปลี่ยนไปมาเป็นว่าเล่น

หลัง อันเชล็อตติ กับ โบอาส ก็ตามมาด้วย โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ, ราฟา เบนิเตซ, โชเซ่ มูรินโญ่ แทบทุกครั้งที่เขากลับมาจากการยืมตัว เขาจะพบว่ามีกุนซือป้ายแดงรออยู่ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ แล้ว

แต่ละคนมีแผนและความคิดของตนเองโดยยึดหลักเพื่อให้บรรลุความสำเร็จโดยเร็วที่สุด และการมอบโอกาสให้กับเยาวชนที่มีพรสวรรค์ก็ไม่ค่อยมีอยู่ในรายการสิ่งที่ต้องทำเท่าไหร่

การโยกไปเล่นแบบยืมตัวของเขาก็มีช่วงเวลาดีแย่ปะปนกันไป เขาคว้าดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปีกับ มิดเดิ้ลสโบรห์ ในฤดูกาล 2012-13 และได้ลงเล่นนัดตัดเชือกศึกเอฟเอ คัพ กับ วีแกน ในปี 2014 แต่กับ สวอนซี เขาต้องการกลายเป็นตัวสำรองอดทน และอาการบาดเจ็บในช่วงอยู่กับ วัตฟอร์ด ก็ทำให้พัฒนาการของเขาหยุดชะงักลง

ในปี 2015 แม็คเอคราน ตัดสินใจลาขาดจาก เชลซี และเซ็นสัญญากับ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งตลอด 4 ปีกับทีม ‘เดอะ บีส์’ เขาได้ลงเล่นไป 101 นัด และได้ลงเล่นประจำหากฟิตสมบูรณ์ แม้มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เสมอก็ตาม

หลังจากลา เบรนท์ฟอร์ด แม็คเอคราน ก็ย้ายไปเล่นกับทีมร่วมลีกรองอย่าง เบอร์มิ่งแฮม แบบไร้ค่าตัว แต่ก็หายหน้าไปราว ๆ 1 ปี จากอาการบาดเจ็บรุนแรงที่หัวเข่า ทั้งๆ ที่เริ่มปรับตัวจนลงเล่นสม่ำเสมอกับทีมได้แล้ว

ท้ายที่สุด เขาตัดสินใจแยกทางกับสโมสรด้วยความยินยอมของทั้งฝ่ายเมื่อเดือนมกราคมปี2021 หลังถูกดร็อปจากทีมชุดใหญ่ พร้อมกลายเป็นแข้งไร้สังกัดอยู่ราวๆครึ่งปีเลย

 

ผู้เคยกล้าปฏิเสธราชัน

เกิดอะไรขึ้นกับ จอช แม็คเอคราน? จากเคยเมินเรอัล มาดริด  สู่นักเตะที่ยังไม่รู้อนาคตของตัวเอง | Goal.com ภาษาไทย

สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดเกี่ยวกับ จอช แม็คเอคราน ในอาชีพค้าแข้ง คือ เขาอาจจะเลียนแบบ ซีดาน ไอดอลเบอร์หนึ่งที่เขานับถือก็เป็นได้ หากไม่ปฏิเสธโอกาสย้ายไป เรอัล มาดริด ในช่วงที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรง

“ผมอายุ 16 ปีที่ เชลซี และ ตัวแทนของผมในตอนนั้นบอกว่า ‘เรอัล มาดริด ต้องการนาย’ มันน่าเหลือเชื่อไปเลยใช่มั้ยล่ะ? ในตอนนั้น” เขากล่าวกับ เดลี่ เทรากราฟ สื่อในบ้านเกิด เมื่อปี 2017

“ผมมีโอกาสได้ย้ายไป เรอัล มาดริด หรือ แมนยูไนเต็ด เรอัล มาดริด ได้ติดต่อเพื่อรอผม และพวกเขาก็ต้องการให้ครอบครัวของผมบินไปอยู่ที่นั่นด้วยเลย แต่ผมบอกว่า ‘ไม่ ผมอยากอยู่ที่ เชลซี ผมเป็นแฟนบอลเชลซี’ ”

“ผมเชื่อมั่นในตัวเองว่าผมสามารถทำได้ภายใต้การดูแลของ คาร์โล เมื่อผมได้ประเดิมเกมแรก ผมบอกกับตัวเองว่า ‘อ่าห์, นั่นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผมกับการปฏิเสธ เรอัล มาดริด แต่เมื่อมองย้อนกลับไปตอนนี้ บางทีผมควรย้ายไป’ ”

ปัจจุบัน อดีตกองกลาง เชลซี ก็ยังค้าแข้งอยู่ในวัย 30 ปี กับ มิลตัน คินส์ ดอนส์ สโมสรในลีกวัน โดยได้รับสัญญาระยะสั้นในช่วงกลางปี 2021 ก่อนพิสูจน์ตัวเองจนได้รับสัญญาถาวร พร้อมเป็นตัวหลักของ เดอะ ดอนส์ ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา 

ช่วงเวลาที่เหมือนจะไม่สำคัญอย่าง การปฏิเสธ ‘ราชันชุดขาว’ กลับส่งผลต่ออนาคตของ จอช แม็คเอคราน แบบไม่มีใครคาดคิดด้วยการถูก เบอร์มิ่งแฮม ปล่อยด้วยในวัย 27 ปี และนั่นกลายเป็นสิ่งอาจเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งกับนักเตะมากมายในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุคนี้

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

ดัดให้อยู่หมัด : เทน ฮากกับ 7 บทลงโทษสุดสร้างสรรค์ในทัพผี
ดัดให้อยู่หมัด : เทน ฮากกับ 7 บทลงโทษสุดสร้างสรรค์ในทัพผี